ตามที่องค์การสหประชาชาติ (UN) กำหนดให้วันที่ 5 มิถุนายน ของทุกปีเป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก โดยในปี 2550 นี้ ได้กำหนดให้รณรงค์ประชาสัมพันธ์ เรื่อง การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมอากาศ โดยมีคำขวัญว่า Melting Ice - a Hot Topic กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ในฐานะที่เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบในการรณรงค์ เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ สร้างจิตสำนึกและส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการจัดการสิ่งแวดล้อม จึงได้จัดกิจกรรมเนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลกขึ้น ภายใต้คำขวัญ “หยุดโลกร้อนด้วยชีวิตพอเพียง” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนร่วมมือกันป้องกันและแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม ในการจัดกิจกรรมดังกล่าวประกอบด้วยการจัดสัมมนาวิชาการ การแสดงนิทรรศการ การโต้วาทีสิ่งแวดล้อมระดับอุดมศึกษาชิงถ้วยราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี การจัดกิจกรรมของหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนและพิธีประกาศเจตนารมณ์ความร่วมมือในการลดภาวะความร้อน ภายใต้คำขวัญ “หยุดโลกร้อนด้วยชีวิตพอเพียง” โดยกำหนดจัดงานในวันที่ 5 มิถุนายน 2550 ณ อิมแพค เมืองทองธานี

              โดยมีนายปิติพงษ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานเปิดงาน และมีนักวิชาการที่ให้เกียรติ์มาแสดงปาฐกภา 3 ท่าน คือ ศ.ดร.สนิท อักษรแก้ว ปาฐกถาพิเศษเรื่อง “หยุดโลกร้อนด้วยชีวิตพอเพียง”, ดร.เกษม วรวรรณ ณ อยุธยา ปาฐกถาพิเศษเรื่อง “การส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ของเยาวชนเพื่อลดภาวะโลกร้อน” และผศ.ดร.กัณฑรีย์ บุญประกอบ ปาฐกถาพิเศษเรื่อง “ภาวะโลกร้อนกับชีวิตคนไทย”

              สุดท้าย ฯพณฯ พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ได้ประกาศเจตนารมณ์ “หยุดโลกร้อนด้วยชีวิตพอเพียง” ไว้ว่า นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการศึกษาแล้ว พบว่า ภาวะโลกร้อนเกิดจากก๊าซเรือนกระจก ทำให้เก็บกักความร้อนมากเกินความจำเป็น จึงเป็นภาระที่ทุกคนต้องช่วยกันแก้ไขปัญหา เมื่อเรามองกระบวนทัศน์ในการพัฒนาที่ผ่านมาจะพบว่า โลกร้อนเกิดจากการกระบวนทัศน์การพัฒนาที่นำไปสู่การเบียดเบียนซึ่งกันและกัน ประเทศไทยเป็นประเทศที่กำลังพัฒนาจึงมีเวลาที่จะฉุกคิด ขณะเดียวกันก็โชคดีที่มีพระมหากษัตริย์ที่ทรงมีวิสัยทัศน์กว้างไกล ทรงให้หลักคิดตามแนวทางปรัญชาเศรษฐกิจพอเพียง ดังนั้นหากเราเปลี่ยนกระบวนทัศน์ใหม่ คือ ไม่โลภมาก ไม่เบียดเบียน เราก็จะช่วยกันลดปัญหาภาวะโลกร้อนลงไปได้