“เดอะกิ๊ก” มากกว่าเพื่อน แต่ไม่ใช่แฟน







 

“กิ๊ก” เป็นความสัมพันธ์ระหว่างหญิงชายที่ได้รับการพูดถึงมากที่สุดในขณะนี้ กระแสด้านหนึ่งเชื่อว่า เป็นเรื่องธรรมดาของวัยรุ่น  เนื่องด้วยวัยและความคึกคะนองจึงทำให้อยากลองมีกิ๊ก  ส่วนอีกด้านหนึ่งเชื่อว่า กิ๊กเป็นเรื่องผิดศีลธรรม ซึ่งจะนำไปสู่ปัญหาของสังคม  เช่น  การถูกทำร้ายจิตใจการฆ่าตัวตาย การทำแท้ง ตลอดจนการติดเชื้อโรคจากการมีเพศสัมพันธ์

ในขณะที่สังคมเฝ้ามองและวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมระหว่างหญิงชายในกลุ่มวัยรุ่น และคนโสด แต่ถ้าเหตุการณ์เดียวกันนี้เกิดในกลุ่มผู้ที่แต่งงานมีครอบครัวแล้วจะเกิดอะไรขึ้น การมีกิ๊กจะทำให้สถาบันครอบครัวไทยถูกทำลายหรือไม่


มารู้จัก “กิ๊ก” กันเถอะ

รายงานการศึกษาวิจัยเรื่อง “กิ๊ก มากกว่าเพื่อน...แต่ไม่ใช่แฟน” ของนิสิตคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดทำโดย น.ส.ธนพร สง่าศรี น.ส.นิศารัตน์ ตันติเมธ น.ส.มยุรี ปัทม์กชกร น.ส.วีรนุช พลรวมเงิน และนายอาทิตย์ สุวรรณเกษม กล่าวไว้ว่า นิยามความรักในหมู่วัยรุ่นที่เป็นมากกว่าเพื่อน แต่ไม่ใช่แฟน มีความรู้สึกพิเศษ ผูกพันกัน คิดถึงกัน แต่ไม่ใช่แฟนกันนี้ มีคำเรียกตามแต่ละยุคแต่ละสมัยแตกต่างกันคือ ยุคแรกเรียกว่า “เด็ก” ยุคต่อมาเรียกว่า “โปร” จนถึงปัจจุบันคำที่นิยมเรียกกันมากที่สุดคือ คำว่า “กิ๊ก”

ในรายงานเล่มนี้ยังได้กล่าวถึง คำนิยามของคำว่ากิ๊ก โดยเก็บข้อมูลจากนิสิตนักศึกษาในมหาวิทยาลัยของรัฐและเอกชน ไว้ดังนี้

ความหมายที่ 1

          “กิ๊ก” ไม่ใช่ “ชู้” เพราะหากพิจารณาลงลึกถึงรากศัพท์และคำนวณตามหลักคณิตศาสตร์แล้ว กิ๊กเป็นสับเซตของชู้ และยูเนี่ยนกับการมีเพศสัมพันธ์ กล่าวคือ กิ๊กมีสถานะเป็นมากกว่าเพื่อน แต่ยังไม่ใช่แฟน และอาจมีเพศสัมพันธ์หรือไม่มีอะไรกันก็ได้ ส่วนชู้เป็นแฟนที่ไม่ได้เป็นแฟนอันดับหนึ่ง แต่ได้รับการยอมรับ และให้เรียกสถานะได้ว่าเป็นแฟน อาจมีเพศสัมพันธ์หรือไม่มีก็ได้

ความหมายที่ 2

          “กิ๊ก” คือ คนที่เราใส่ใจมากกว่าเพื่อน รู้สึกพิเศษเกินเพื่อน แต่ไม่ได้คิดกับเขาแบบแฟน คือ ไม่รู้สึกพิศวาส ไม่อยากมีความสัมพันธ์ทางเพศด้วย (เป็นเรื่องเฉพาะคน บางคนอาจอยากมี) ไม่อยากอยู่ด้วยกันจนแก่จนเฒ่า ไม่
อยากอยู่บ้านเดียวกัน ไม่อยากนอนเตียงเดียวกัน แต่ถ้าเห็นหน้ากันทุกวัน คุยกันนานๆ คงดี กิ๊ก คือ คนที่กำลังจะมาเป็นแฟน จีบๆ กัน อยู่ในขั้นศึกษาดูใจ ลองคบกันแต่ไม่ผูกมัดกัน ให้อิสระ และเปิดโอกาสให้ทั้งคู่ไปศึกษาผู้อื่นได้เพื่อค้นหาคนที่ชอบจริงๆ ด้านการแสดงออกก็เหมือนคบเป็นแฟนกัน (แต่ไม่ใช่) เหมือนคู่รัก (แต่หนักไปทางคู่ควง) คบกันแล้วมีความสุขทั้งคู่


เป็นกิ๊กต้องทำใจ

การเป็นกิ๊กก็มีกฎกติกาที่ต่างฝ่ายต่างต้องยอมรับ นั่นคือ

1. ห้ามหึงหวง แต่ห่วงกันได้
2. มีอะไรกันได้ แต่ไม่ใช่ของกันและกัน
3. ไม่มีสิทธิเรียกร้องมากเกินเหตุ
4. กิ๊กอาจเปลี่ยนสถานะได้ แต่ถ้าไม่ได้ห้ามเศร้า
5. ห้ามใช้กิ๊กร่วมกันกับเพื่อน
6. ถ้ากิ๊กคิดจะมีแฟนเป็นตัวเป็นตน โดยไม่ใช่เรา ห้ามฟูมฟาย แต่ต้องพยายามยอมรับและยินดี
    ด้วยแล้วค่อยตกลงกันทีหลังว่า จะกิ๊กกันต่อไปหรือเปล่า
7. ไม่จำเป็นต้องเทคแคร์กันเกินเหตุ เพราะเป็นแค่กิ๊ก
8. กิ๊กไม่ได้จำกัดจำนวน เป็นอินฟินิตี้ ไม่จำกัดเพศ วัยและสถานภาพ ถ้าไม่กลัวตายเพราะเอดส์
9. กิ๊กสำคัญรองจากแฟน
10. กิ๊กอย่างไงก็เป็นกิ๊ก ต้องเจียมตัว


สรุปได้ว่า “กิ๊ก ไม่ใช่ชู้ แต่ถ้าแฟนรู้ต้องเลิก”


“กิ๊ก” ระบาดจากวัยรุ่นสู่ครอบครัว

ดร.จิตรา ดุษฎีเมธา ประธานโครงการศูนย์ให้คำปรึกษาและพัฒนาศักยภาพมนุษย์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว.) กล่าวว่าคนในปัจจุบันมีภาวะเครียดมาก บางครอบครัวพ่อบ้านหรือแม่บ้านไม่เข้าใจกัน ประกอบกับความรู้สึกผิดชอบชั่วดีความผูกพันของคนในปัจจุบันมีน้อยลง ใครที่มีผู้หญิงมากกว่า 1 คน หรือมีผู้ชายมากกว่า 1 คน ซึ่งคนๆ นั้นไม่ใช่ภรรยาหรือสามีที่บ้านจะถือว่าเป็นเรื่องโก้ หรือที่เรียกกันว่ากิ๊ก นับเป็นเทรนใหม่ที่คนจำนวนมากพยายามอยากเลียนแบบ ใครที่ไม่มีกิ๊กก็พยายามหา

นอกจากนี้ ดร.จิตรา ยังบอกอีกด้วยว่า การนำไปสู่การมีกิ๊กสาเหตุน่าจะมาจากสังคมทุกวันนี้ทำให้คนเหงามากขึ้นกว่าเดิม บางครอบครัวแต่งงานแล้วแยกออกมาเป็นครอบครัวเดี่ยว อยู่กันสองคนสามีภรรยา มีความซ้ำซาก จำเจ ประกอบกับในบางครั้งคุยกันไม่รู้เรื่อง จึงทำให้ตัดสินใจออกไปหาความหลากหลายนอกบ้าน

“ทุกวันนี้พฤติกรรมการมีกิ๊กขยายวงไปสู่คนทุกกลุ่มไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่น คนหนุ่มสาววัยทำงาน หรือคนที่มีครอบครัววัยผู้ใหญ่ คนแต่ละคนจะถูกตาต้องกายต้องใจ ถึงขั้นนอกใจอีกฝ่ายหนึ่งได้นั้น มาจากการได้เห็นรูปร่างหน้าตา บุคลิกลักษณะของอีกฝ่ายหนึ่งเป็นสำคัญ”

ผู้ชายจำนวนมากเริ่มนอกใจภรรยา หรือภรรยาเริ่มนอกใจสามี สาเหตุมาจากอยากมีคนคุย อยากมีใครสักคนที่คอยเป็นที่ปรึกษา สร้างความสบายกายสบายใจให้กับตัวเอง เพิ่มความชุ่มชื่นใจให้กับชีวิต ลักษณะที่ว่านี้อาจเริ่มต้นจากการพูดคุยที่เข้าใจ เริ่มจากสัมพันธ์ทางใจกันก่อน แต่ถ้ามีจังหวะ สถานที่ มีเวลา โอกาสที่เหมาะสม จากนั้นความสัมพันธ์ค่อยๆ ขยับมากขึ้นจากที่ไม่มีอะไรกันก็เริ่มเป็นความสัมพันธ์ทางกายและท้ายที่สุดลงท้ายลงด้วยการมีเพศสัมพันธ์กัน

ในขณะที่ อาจารย์สมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์ประจำคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า จากการสำรวจพบว่า ร้อยละ 42.5 ทั้งหญิงและชายต่างก็นอกใจไปมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่น การนอกใจกันของสามีภรรยามีทั้งนอกใจจริงกับนอกใจเทียม ที่เรียกว่า “กิ๊ก” คือ ไม่มีเพศสัมพันธ์กัน แต่มีใจไปอยู่กับคนอื่น แม้จะไม่ทำให้ครอบครัวถึงกับหย่าร้าง แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ จำนวนหญิงที่นอกใจจริงและเทียมเพิ่มจำนวนมากขึ้น นอกจากนี้ยังพบว่า ครอบครัวเดี่ยวที่มีการหย่าร้างกันมากที่สุด เป็นคู่ที่แต่งงานและอยู่กินกันมาตั้งแต่ 7 ปี ขึ้นไป

ล่าสุดเมื่อวันที่ 9-10 ตุลาคม 2550 สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับของประชาชนเรื่อง “ตัวบ่งชี้มูลเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดพฤติกรรมการนอกใจคู่รัก (การมีกิ๊ก) จากการสุ่มตัวอย่างประชากรที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 1,480 ตัวอย่าง พบว่า แนวโน้มพฤติกรรมการนอกใจคู่รัก และการมีกิ๊กของคนในสังคมไทย โดยภาพรวมมีจำนวนมากกว่าถึงร้อยละ 98 ในจำนวนนี้ร้อยละ 60 เคยทีเพศสัมพันธ์กับกิ๊กของตนเอง




พฤติกรรมโดยภาพรวม ร้อยละ
      ภาพรวมของการมีกิ๊กในสังคมไทย98
      มีเพศสัมพันธ์กับกิ๊กของตนเอง60
      เคยมีกิ๊กโดยเฉลี่ย 3 คน 36.9
      เคยมีกิ๊กและยังคบกันอยู่ 40
      ยอมรับไม่ได้หากทราบว่าคนรักของตนมีกิ๊ก 85


ส่วนเรื่องการเคยมีประสบการณ์กับผู้อื่นที่ไม่ใช่คู่รักของตนเอง พบว่า มากกว่าร้อยละ 20 ถึงกว่าร้อยละ 80 เคยมีประสบการณ์ที่อาจนำไปสู่พฤติกรรมการนอกใจคู่รักของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเคยรู้สึกสนใจในตัวผู้อื่นที่ไม่ใช่สามีหรือภรรยาของตนเองนัดพบผู้อื่นในที่สาธารณะ เช่น กินข้าว ดูหนัง เป็นต้น อยากตื่นนอนขึ้นมา แล้วพบว่า ตัวเองยังโสดอยู่ เคยมองผู้อื่นที่ไม่ใช่สามีหรือภรรยาของตนเองในเชิงชู้สาว ติดต่อ พูดคุยในเชิงชู้สาวกับผู้อื่นทางโทรศัพท์ นัดพบผู้อื่นในที่ส่วนบุคคล เช่น บ้าน หอพัก เป็นต้น โดยปัจจัยที่สำคัญที่ให้เกิดการนอกใจคู่รัก/คู่สมรส 3 อันดับแรก คือ ร้อยละ 83.3 ความจู้จี้ขี้บ่นของหญิงและความไม่เอาไหนของชาย ร้อยละ 80.7 ความสัมพันธ์ภายในครอบครัวที่ไม่ดี ทะเลาะเบาะแว้งกัน และร้อยละ 80.2 ความเหงา ขาดความรัก ความอบอุ่นภายในครอบครัว




มูลเหตุ ร้อยละ
      ความจู้จี้ขี้บ่นของหญิง และความไม่เอาไหนของชาย83.3
      ความสัมพันธ์ภายในครอบครัวที่ไม่ดี ทะเลาะเบาะแว้งกัน80.7
      ความเหงา ขาดความรัก ความอบอุ่นภายในครอบครัว80.2
      การมีอำนาจเงิน และอำนาจในหน้าที่การงานระดับสูง73.0
      ยอมรับไม่ได้หากทราบว่าคนรักของตนมีกิ๊ก 71.3
      การมีฐานะทางการเงินที่ดี มีเงินเหลือใช้70.4
      ความผิดปกติทางจิตบางอย่าง เช่น ต้องการชดเชยสิ่งที่ขาดความรัก66.9
      ต้องการแสวงหาความสุขทางเพศในรูปแบบใหม่ๆ กับคนใหม่ๆ64.4
      คนรัก/คู่สมรส ให้ความสุขทางเพศได้ไม่เต็มที่59.8
      ต้องการพิสูจน์ว่าตนเองเป็นคนที่มีเสน่ห์ มีความสามารถ57.1
      ความเครียดที่เกิดขึ้นจากการทำงาน การเรียน57.0


จากผลการสำรวจครั้งนี้ ดร.นพดล กรรณิกา กล่าวว่า ผลการวิจัยครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า พฤติกรรมการนอกใจคู่รักและการมีกิ๊กอาจกลายเป็นปัญหาเรื้อรังที่สำคัญ ที่ทำลายสถาบันครอบครัวไทยซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของความมั่งคงของสังคม


แค่ “กิ๊ก” แต่ไม่ใช่ชู้จริงหรือ

ดร.จิตรา ดุษฎีเมธา กล่าวถึงคำว่า “กิ๊ก” และ “ชู้” ไว้ว่า “กิ๊ก” เป็นคำที่ฟังแล้วไม่แรงเท่ากับคำว่า “ชู้” หลายคนจึงพยายามใช้คำว่าไปมีกิ๊ก และเชื่อว่าการมีกิ๊กไม่ผิด เป็นการใช้คำพูดที่ป้องกันตัวเอง ให้ดูดีขึ้น ในเชิงจิตวิทยาถือเป็นการป้องกันตัวเองเพื่อให้ตัวเองไม่ผิด มีความรู้สึกที่ดีขึ้น การมีกิ๊กบางคู่อาจจะไม่ต้องส่งเสีย หรือไม่มีพันธะผูกพันใดๆ ทั้งสิ้น แต่สำหรับบางคู่ต้องมีการเลี้ยงดู และรับผิดชอบด้วย

นอกจากนี้ ถ้าครอบครัวไหนรู้ความจริงว่าสามีหรือภรรยาตัวเองไปมีกิ๊ก หรือนอกใจไปมีคนอื่น ไม่มีใครทำใจได้ ขณะที่กระแสของการมีกิ๊กเป็นที่ยอมรับได้ในคนกลุ่มหนึ่ง แต่คนที่มีพฤติกรรมลักษณะนี้สังคมก็ไม่ยอมรับ เพราะลักษณะนี้ถือเป็นการนอกใจ เมื่อฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดรู้ความจริงจึงต้องมีการคุยกัน เพื่อให้เกิดความกระจ่าง ท้ายที่สุดลงท้ายด้วยการทะเลาะกัน การมีกิ๊กทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมาได้ คือเกิดการมั่วเพศ เกิดโรคติดต่อ สร้างความร้าวฉานเกิดขึ้นในครอบครัว เกิดการทำร้ายร่างกายและที่สุดแล้วบางครอบครัวเกิดการหย่าร้าง ในบางครอบครัวที่ตกลงกันไม่ได้อาจนำพาไปสู่การแก้ปัญหาที่รุนแรง มีการฆ่าอีกฝ่ายหนึ่งเกิดขึ้นจากนั้นฆ่าตัวเองตาม นำไปสู่ปัญหาอาชญากรรม


สรุป

รู้อย่างนี้แล้วคุณยังอยากมีกิ๊ก หรือเป็นกิ๊กอีกหรือไม่ ในยุคที่เร่งรีบรวบรัดตัดตอน “กิ๊ก” เป็นคำสั้นๆ แต่มีความหมายมากมาย เป็นได้ทั้งความสุขทางใจและความสุขทางใจ เป็นสิ่งที่อาจเรียกได้ว่าอาหารจานด่วน แต่อย่าลืมว่าสุขได้แป๊บเดียว แต่มันจะสะเทือนความรู้สึกไปอีกนาน (ถ้าคุณเป็นคนที่มีภูมิต้านทานในเรื่องของความรักต่ำ) สำหรับผู้ที่มีครอบครัวแล้ว “กิ๊ก” ไม่ใช่สิ่งที่เรียกว่า นอกใจอีกหรือ ลองถามตัวคุณเอง และหากคนที่คุณรักไปมี “กิ๊ก” บ้างคุณจะยอมรับได้หรือไม่




เรียบเรียงโดย :  ศิริพร เค้าภูไทย สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ
แหล่งที่มา :  - คู่สร้างคู่สม. นานาสาระน่ารู้ กิ๊ก...มากกว่าเพื่อน. 2547: จำนวน 8 หน้า.
   http://www.koosang koosomcom/pages/columndetail.asp?

 - โพสต์ทูเดย์. น่าห่วง! โพลล์ชี้คนไทยรับมีกิ๊กเรื่องธรรมดา. 2550: จำนวน
   2 หน้า.
   http//www.posttoday.com/breakingnews.php?sec =breaking

 - ผู้จัดการออนไลน์. โพลชี้คนไทยมี “กิ๊ก” เพิ่มขึ้น แถมเกือบร้อยละ 60 เคย
   มีเซ็กซ์กับ กิ๊ก. 2550: จำนวน 4 หน้า.
   http://www.manager.co.th/QOL /ViewNews.aspx?

 - สำนักข่าวเดอะเนชั่น. เอแบค สำรวจพบการนอกใจคู่รักเป็นเรื่องธรรมดา.
   2550: จำนวน 3 หน้า.
   http://breakingnews.nationchannel com/read.php?newsid=284227

 - โครงการพัฒนาเครือข่ายผู้ปกครองออนไลน์. แฉผู้หญิงแอบมี"กิ๊ก"
    พุ่งพรวด!. 2550: จำนวน 2 หน้า.
   http://www.thaisafenet.org/article. php? id=89

 - โครงการพัฒนาเครือข่ายผู้ปกครองออนไลน์. แฉผู้หญิงแอบมี"กิ๊ก"
    พุ่งพรวด!. 2550: จำนวน 2 หน้า.
   http://www.thaisafenet.org/article. php? id=89

 - กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข. แฟชั่นมี "กิ๊ก" ระบาดตั้งแต่วัยเรียน
    – วัยมีครอบครัว: 2550: จำนวน 2 หน้า.
   http://www.dmh.go.th/sty_libnews/news/view.asp?id=6243

 
เว็บไซต์ :  - กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข
   http://www.dmh.go.th

 - ศูนย์ข้อมูลกลางด้านครอบครัว
   http://www.thaifamily.in.th

 - ศูนย์ครอบครัวเข้มแข็งสถาบันรักลูก
   http://www.raklukefamilygroup.com

 - สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล
   www.thaifamily.mahidol.ac.th




 












หน้าแรก | เกี่ยวกับแผนงาน | เครือข่ายและกิจกรรม | ผลผลิตและรายงาน | ข้อมูลสถิติ | การจัดการความรู้ | หน่วยงาน | ติดต่อแผนงาน | เจ้าหน้าที่ดูแลระบบ
แนะนำแผนงาน | ข่าวกิจกรรม | เกาะติดกิจกรรมเด่น | หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง | ผลผลิตและรายงาน| รายงานสุขภาพ| ก้าวใหม่กับ HISO | สถานการณ์สุขภาพประเทศไทย
การวิเคราะห์สถานการณ์สุขภาพ | สถานการณ์ข่าวสุขภาพ | เรื่องเล่าข่าวสุขภาพ | สื่อข้อมูลสุขภาพ | แบบสำรวจสุขภาพ | webbord | คำถามที่พบบ่อย | สมุดเยี่ยมชม | บริการข้อมูล