|
หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ [ วันศุกร์ ที่ 21 เดือนมกราคม 2554 ] |
|
อารมณ์ชั่ววูบ...ฆ่า!!'หยุดรักมรณะ' 'อีคิว-ผัสสะ'สำคัญ |
เกิดขึ้นในสังคมไทยเราบ่อยครั้งอีกแล้ว สำหรับเหตุการณ์ น่าเศร้าระคนสยอง รักมรณะ-รักต้องฆ่า บางกรณีภรรยาหึงหวงสามีและถูกสามีที่บันดาลโทสะทำร้ายจนเสียชีวิต บางกรณีภรรยาสังหารสามีตนเองเพราะหึงหวง และยังมีอีกหลายกรณีหลายรูปแบบพฤติกรรม รวมถึงกรณีภรรยาไปพบรักใหม่แล้วให้คนรักใหม่มาฆ่าสามี
เหตุมรณะเช่นนี้ทั้งสะท้อนค่านิยมรักในสังคมไทย
และสะท้อนถึงความอ่อนแอทางอารมณ์-ศีลธรรม...
ทั้งนี้ เรื่องค่านิยมรัก มากรัก ไม่ซื่อสัตย์ในรัก นั่นก็ด้านหนึ่งซึ่งก็อย่างที่ทราบ ๆ กันว่าในสังคมไทยยุคปัจจุบันมีสภาพการณ์ เป็นเช่นไร อย่างไรก็ดี ในอีกด้านก็บ่งชี้ว่า สภาพจิตใจ-สภาพอารมณ์ ของผู้คนในสังคมไทยยุคนี้ น่าเป็นห่วง ซึ่งกับเรื่องนี้-ประเด็นนี้ทางผู้เชี่ยวชาญกรมสุขภาพจิตเคยระบุผ่าน สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์ ไว้ว่า... เหตุการณ์คู่รัก คู่สามีภรรยา ที่หึงหวงกันจนเกิดการฆ่ากัน หรือการฆ่ากันตายเพราะเรื่องชู้สาวนั้น เป็นเรื่องของ อีคิว หรือ ความฉลาดทางอารมณ์ ซึ่งในช่วงที่มีปัญหา หากใครมีอีคิวมากพอ ก็ไม่เท่าไหร่ แต่ถ้ามีอีคิวน้อย ก็น่ากลัว อาจควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ อาจจะทำอะไรร้ายแรงโดยไม่ทันยั้งคิด ดังที่ปรากฏเป็นข่าวบ่อย ๆ
จนผู้กระทำต้องกลายเป็นฆาตกร...ถูกจองจำ
หรือบางรายก็ฆ่าตัวตายตาม...ซึ่งก็มิใช่เรื่องดี
ต้องฝึกเก็บกั้นความรู้สึก ต้องเอาชนะใจตัวเองให้ได้ ต้องชนะใจผู้ที่ทำร้ายจิตใจเรา และต้องรู้จักการให้อภัย ก็จะเป็นสุดยอดของความสุข
เป็นคำแนะนำเชิงจิตวิทยา กับการป้องกันเหตุรักมรณะ
ขณะที่ในเชิงศีลธรรม ในทางพระพุทธศาสนา กับปัญหา รักมรณะ-รักต้องฆ่า นั้น พระราชธรรมนิเทศ หรือ พระพยอม กัลยาโณ แห่งวัดสวนแก้ว ให้สติผู้คนในสังคมไทยผ่าน สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์ ไว้ว่า... ข่าวการฆ่ากันตายที่มีให้เห็นทุกวันนี้ เมื่อดูจากสาเหตุแล้วก็เพราะ รัก โลภ โกรธ หลง บางรายฆ่าโดยวางแผนไว้ก่อน หลายรายฆ่าเพราะ อารมณ์ชั่ววูบ อารมณ์ฉุนเฉียวเกรี้ยวกราดแล้วเข่นฆ่าล้างผลาญด้วยความคิดเพียงชั่ววูบ
จะระงับเหตุลักษณะนี้...สำคัญที่เรื่อง ผัสสะ
พระพยอมระบุไว้อีกว่า...หลวงพ่อพุทธทาส ท่านเคยสอนเตือนเรื่อง ผัสสะ อยู่ตลอดในสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ และเป็นคำสอนที่ยังใช้ได้อยู่จนทุกวันนี้ โดย ผัสสะ คือสิ่งที่สัมผัสกับตัวเรา คือ ตาเห็น หูได้ยิน จมูกได้กลิ่น ลิ้นได้ลิ้มรส ซึ่งต้องฝึกควบคุม ผัสสะให้ได้ และบอกตัวเองเสมอว่าเมื่อสัมผัสแล้วต้องระวัง ระวังอย่ารัก อย่าชัง อย่าวูบวาบไปกับมัน สิ่งเหล่านี้ทุกคนต้องฝึกดี ๆ ฝึกจริง ๆ จะทำให้ไม่วูบไปเรื่อย ไม่วูบแค้น...แล้ววูบฆ่า !!
คนเราหากคิดไม่ได้ พอไปวูบฆ่าใคร แล้วหาทางออกไม่ได้ หรืออาจจะสำนึกได้ภายหลังที่สติกลับมาแล้ว ก็ฆ่าตัวตายตามเขาไป ซึ่งการสำนึกได้ภายหลัง หลังจากที่ฆ่าเขาไปแล้ว เขาสิ้นชีวิตไปแล้ว แล้วตัวเราเองมาฆ่าตัวตายตาม อย่างนี้เรียกว่า บาป 2 เท่า อย่างแรก...วูบฆ่าคนตาย ก็ถือเป็นบาปสาหัสสากรรจ์ อย่างสอง...วูบฆ่าตัวเอง อันนี้ก็ต้องบอกว่าบาปหนา รวมแล้วต้องชดใช้กรรมไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด
นอกจากนี้ พระพยอมยังเตือนสติไว้อีกว่า...การป้องกันไม่ให้ เกิดเหตุลักษณะนี้ ต้องฝึกหัดตัวเองให้เก็บความโกรธใส่ยุ้งฉาง อย่าให้ทะลักออกมาง่าย ๆ ฝึกควบคุมผัสสะให้ดี จำให้ขึ้นใจเสมอว่าตาเห็น หูได้ยิน แล้วต้องระวัง ระวังอย่ารัก อย่าชัง อย่าวูบวาบกับมัน อย่าทะลักออกมาจนชินจนจะล้างจะผลาญใครก็ทำได้อย่างง่ายดาย
อย่างที่เห็นเป็นข่าวทุกวันนี้ ตายเพราะเรื่องรัก ๆ ชัง ๆ กันมาก บางคนรักเขาแล้วเขาไม่รัก บางคนรักเขาแล้วเขาไปมีใหม่ แล้วต้องมามีบทสรุปที่การฆ่ากันตาย ส่วนเรื่องชัง จริง ๆ แล้วเราไม่มีสิทธิไปชังเขาด้วยซ้ำ อย่างการไปขอยืมเงินคนอื่น แต่เขาไม่ให้ ก็เป็นสิทธิของเขา ไม่มีสิทธิไปชังถึงขนาดฆ่าเขาตาย ถ้าใครทำก็หมายถึงเป็นคนที่เกิดมาแล้วบรรทุกกรรมไว้เพียบ คนเราเกิดมาแล้วต้องหัดมีเมตตาจิต ต้องคิดสงสารคนอื่นกันบ้าง
คนที่เขาไม่ให้อะไรตามที่เราปรารถนา...ต้องให้โอกาสเขา
ต้องคิดเห็นใจคนรอบข้าง...เห็นใจคนที่รักเราไม่ได้บ้าง...
การฆ่าคน ไม่ใช่เรื่องง่าย ทำยาก เพราะถือเป็นการสร้างบาป เมื่อฆ่าคนตาย จะรู้สึกเป็นบาปติดค้าง คิดทีไรก็เศร้าสลด หวาดผวา นอกจากจะเป็นคนใจหิน ใจหยาบ ใจป่าเถื่อน โหดร้ายไม่กลัวบาป จึงจะมันมือมันอารมณ์ในการฆ่า คนเราหากปล่อยให้ความโกรธทะลักออกมา บาปชั่วก็เอาชีวิตเราไปกินหมด ...พระพยอมกล่าวไว้
ทั้งนี้ สังคมไทยในยุคปัจจุบัน แม้จะเต็มไปด้วยเรื่องบีบรัด กดดัน ความอ่อนแอทางจิตใจ ทางอารมณ์ เกิดได้ง่าย อีกทั้งยังมีสภาพแวดล้อมทางสังคม ทางเศรษฐกิจ เป็นแรงเสริมอีกต่างหาก ซึ่งที่สุดแล้วก็อาจจะนำสู่ปัญหา รักมรณะ-รักต้องฆ่า ได้ง่าย ๆ แต่กระนั้นก็ควรจะตระหนัก เท่าทัน ไม่ปล่อยให้ปัจจัยต่าง ๆ ครอบงำจนมืดบอด
รักมรณะ-รักต้องฆ่า สังคมไทยยุคนี้เกิดขึ้นมาก
เกิดขึ้นแล้วก็ไม่มีใครสักฝ่ายเลยที่จะได้ประโยชน์
มีแต่จะสูญเสีย-เสียหาย...อย่างน่าเศร้าสลดใจ !!.
| |
|
|