หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ [ วันศุกร์ ที่ 21 เดือนมกราคม 2554 ]
วันอันตรายช่วงปีใหม่ ล้มเหลว จำนวนอุบัติเหตุลดแต่คนตายเพิ่ม


ศวปถ.ชี้ 7 วันอันตรายช่วงปีใหม่ ล้มเหลว จำนวนอุบัติเหตุลดแต่คนตายเพิ่มขึ้นกว่าปีที่แล้ว แนะตำรวจ-หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำข้อมูลกลับมาทบทวน เน้นบังคับใช้กฎหมายตลอดปี เสนอ 5 นโยบายหลัก ลดอุบัติเหตุทางถนน

นพ.ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) กล่าวว่า เทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) สรุปข้อมูลการเกิดอุบัติเหตุในช่วง 7 วันระวังอันตรายว่า จำนวนครั้งของการเกิดอุบัติเหตุลดลงจากปี 2553 ร้อยละ 1.05 (เกิดเหตุ 3,497 ครั้ง ลดลง 37 ครั้ง) การบาดเจ็บต้องรับไว้ในโรงพยาบาล ลดลงร้อยละ 2 (จำนวน 3,750 ราย ลดลง 77 คน) แต่ตัวเลข ผู้เสียชีวิต กลับเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 3.17 (เสียชีวิต 358 เพิ่มขึ้น 11 ราย) โดยสาเหตุสำคัญยังเป็นเรื่องของการเมาแล้วขับร้อยละ 41.24 รองลงมาคือขับเร็วร้อยละ 20.42 ร้อยละ 70 คนที่บาดเจ็บและเสียชีวิต เป็นคนในชุมชน-หมู่บ้าน โดยสองในสามของการเสียชีวิตเกิดในช่วงกลางคืน ดังนั้นตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องนำข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์ทบทวนเพื่อหามาตรการแก้ไขและป้องกันการเกิดอุบัติเหตุให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นต่อไป “ข้อมูลดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า แม้ในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมาจะมีการตั้งด่านตรวจเพิ่มขึ้น แต่จำนวนตัวเลขผู้เสียชีวิตยังสูงเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยสัดส่วน 2 ใน 3 เกิดในช่วงกลางคืน ดังนั้น การออกแบบจุดตรวจ จุดสกัด การตั้งด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ในช่วงกลางคืนจึงมีความสำคัญ ที่ต้องนำข้อมูลกลับมาทบทวน และควรเพิ่มลักษณะการตรวจโดยใช้วิธีสุ่มตรวจให้กระจายครอบคลุมกลุ่มเสี่ยงและเพิ่มเวลาในช่วงกลางคืนมากขึ้น”นพ.ธนะพงศ์ กล่าว

นพ.ธนะพงศ์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามชีวิตของคนไทยมีความสำคัญไม่แต่เฉพาะในช่วงเทศกาล การบังคับใช้กฎหมายจึงไม่ใช่แค่เพียงในช่วง 7 วันระวังอันตรายเท่านั้น แต่ควรทำต่อเนื่องทุกวันตลอดปี โดยรัฐบาลควรมีนโยบาย 1. เพิ่มทรัพยากรให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้เพียงพอ อาทิอุปกรณ์การตรวจเมา อุปกรณ์การตั้งจุดตรวจ รวมทั้ง ค่าตอบแทนในการตั้งจุดตรวจ 2. ลดค่าใช้จ่ายกับจุดที่ไม่ส่งผลต่อความปลอดภัยทางถนนแต่เน้นเพิ่มความร่วมมือของท้องถิ่นและเอกชนให้เข้ามามีส่วนร่วมสอดส่องดูแล 3. เพิ่มการสื่อสารประชาสัมพันธ์ โดยเฉพาะในประเด็นที่จะชี้ให้เห็นว่า ตำรวจออกมา บังคับใช้กฎหมายเพื่อให้สร้างความปลอดภัย ไม่ใช่เรื่องของการ จับ-ปรับ อย่างเดียว 4 .นำข้อมูลมาวิเคราะห์ออกแบบการบังคับใช้ให้กฎหมายให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เช่น ต้องเพิ่มกวดขันเรื่อง เมาแล้วขับ , หมวกนิรภัยให้ครอบคลุม 100% ที่สำคัญคือการมีข้อมูล กระทำความผิดซ้ำเพราะการรู้ว่าผู้ขับขี่กระทำความผิดซ้ำ จะช่วยให้ตำรวจวางบทลงโทษผู้กระทำความผิดได้อย่างเหมาะสม และ 6. ใช้ข้อมูลเพื่อติดตามกำกับอย่างต่อเนื่อง โดยผู้บริหารของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องรู้ว่าจังหวัดไหนมีผลงานด้านการบังคับใช้เพียงใด และถ้ามีข้อมูลบ่งชี้ว่าจังหวัดนี้มีการตายจากเมาแล้วขับ แต่ไม่มีการตรวจจับดำเนินคดีเมาแล้วขับ ก็ต้องหามาตรการเพื่อกำกับให้การทำงานที่ตอบโจทย์ปัญหาของพื้นที่มากขึ้น




 










 


หน้าแรก | เกี่ยวกับแผนงาน | เครือข่ายและกิจกรรม | ผลผลิตและรายงาน | ข้อมูลสถิติ | การจัดการความรู้ | หน่วยงาน | ติดต่อแผนงาน | เจ้าหน้าที่ดูแลระบบ
แนะนำแผนงาน | ข่าวกิจกรรม | เกาะติดกิจกรรมเด่น | หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง | ผลผลิตและรายงาน| รายงานสุขภาพ| ก้าวใหม่กับ HISO | สถานการณ์สุขภาพประเทศไทย
การวิเคราะห์สถานการณ์สุขภาพ | สถานการณ์ข่าวสุขภาพ | เรื่องเล่าข่าวสุขภาพ | สื่อข้อมูลสุขภาพ | แบบสำรวจสุขภาพ | webbord | คำถามที่พบบ่อย | สมุดเยี่ยมชม | บริการข้อมูล