|
หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ [ วันศุกร์ ที่ 12 เดือนพฤจิกายน 2553 ] |
|
กาชาดเพชรบุรีนำร่องโครงการเพื่อคนสูงวัยส่งเสริมคุณภาพชีวิต...ผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน |
ภัทรพงษ์ ปานปิ่นทอง/ประดิษฐ์ เหลืองอร่าม
จากที่ สภากาชาดไทยได้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และกรุงเทพมหานครเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2553 ที่ผ่านมา ได้ร่วมกันจัด "ปีรณรงค์โรคพาร์กินสัน 2553 เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี"เพื่อลงทะเบียนผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน ให้ความรู้แก่แพทย์ บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ตลอดจนผู้ป่วย และผู้ดูแลทั่วประเทศ ซึ่งสภาพของโรคนี้เป็นโรคเสื่อมของระบบประสาท ที่พบในกลุ่มผู้สูงอายุประมาณ 1 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนผู้สูงอายุ
จังหวัดเพชรบุรี มีผู้สูงอายุจำนวน62,760 คน (ข้อมูลปี 2552) คาดว่าจะมีผู้ป่วยประมาณ 600 กว่าคน ผู้ป่วยจะมีอาการสั่น เคลื่อนไหวช้า แข็งเกร็ง มีปัญหาการทรงตัว เดินลำบาก หกล้มได้บ่อย นอกจากนี้มีอาการที่พบบ่อยเช่น หลงลืม ซึมเศร้าทำให้ผู้ป่วยทุกข์ทรมานมาก
ดังนั้นการที่ สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดเพชรบุรี ได้จัด โครงการส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้ป่วยโรคพาร์กินสันขึ้นโดยการอบรมถ่ายทอดความรู้เรื่องโรคพาร์กินสันให้กับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขเพื่อความเข้าใจและทราบแนวทางในการรักษาสามารถให้การดูแลรักษาและฟื้นฟูผู้ป่วยได้อย่างถูกต้องมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น อันจะนำไปสู่การชะลอป้องกัน และแก้ไขโรคอย่างยั่งยืนต่อไป
นางพิจิตราพานิชพรพันธุ์นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเพชรบุรีกล่าวว่าเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ และระลึกถึงในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาสภากาชาดไทยในโอกาสที่พระองค์ทรงเจริญพระชนมพรรษา 55 พรรษา สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดเพชรบุรีซึ่งเป็นตัวแทนของสภากาชาดไทยในส่วนภูมิภาค ได้เล็งเห็นความสำคัญหากได้ใช้โอกาสรณรงค์อย่างต่อเนื่องในจังหวัดเพชรบุรี ซึ่งต้องอาศัยหน่วยงานหลักด้านสุขภาพ เช่น สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรี โรงพยาบาลพระจอมเกล้าจังหวัดเพชรบุรี ร่วมมือกันเชื่อว่าจะบรรลุผลสำเร็จและเป็นรูปธรรม จึงได้จัดทำโครงการส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้ป่วยโรคพาร์กินสันขึ้น
โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1. เพื่อร่วมมือกับสภากาชาดไทยในปีรณรงค์โรคพาร์กินสัน2553 เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย2. เพื่อถ่ายทอดความรู้เรื่องโรคพาร์กินสัน ให้กับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข 3. เพื่อถ่ายทอด
ความรู้เรื่องโรคพาร์กินสันให้กับผู้ป่วยและญาติในผู้ป่วยเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการดูแลผู้ป่วย 4. เพื่อถ่ายทอดให้ความรู้กับคณะกรรมการ และสมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดเพชรบุรี ให้มีความรู้ความสามารถในการสืบค้นผู้ป่วยรายใหม่ 5. เพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างสภากาชาดไทยและกระทรวงสาธารณสุข 6. เพื่อเป็นการขยายผลการทำงานของเหล่ากาชาดจังหวัดเพชรบุรี
นางพิจิตรา กล่าวต่อไปว่า ในการอบรมประกอบด้วยบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขจำนวน 50 คน ญาติผู้ป่วยกรรมการสมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดเพชรบุรีจำนวน 25 คน และหัวหน้าสถานีอนามัย117 คน ซึ่งหลังจากที่ฝึกอบรมแล้ว คาดว่าผู้ผ่านการอบรมจะได้รับความรู้ ความเข้าใจและทราบแนวทางในการรักษา สามารถให้การดูแลรักษาและฟื้นฟูผู้ป่วยได้อย่างถูกต้องมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น
นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญและไม่ทอดทิ้งคนกลุ่มหนึ่งซึ่งได้รับความทุกข์จากโรคพาร์กินสัน หากผู้ที่ได้รับการอบรมเรียนรู้อย่างถูกต้อง นอกจากการรักษาผู้ป่วยให้มีอาการดีขึ้นแล้ว ยังสามารถดูแลรักษาและฟื้นฟูผู้ป่วยได้ ทั้งยังชะลอ ป้องกันและแก้ไขโรคได้อย่างยั่งยืนต่อไป.
| |
|
|