 |
หนังสือพิมพ์สยามรัฐ [ วันจันทร์ ที่ 1 เดือนพฤจิกายน 2553 ] |
|
| "UN Day Run" "วิ่ง" ได้อะไรมากกว่าที่คิด |
เนื่องในโอกาสวันสหประชาชาติ เวียนมาบรรจบรอบปีที่ 65 ในวันอาทิตย์ที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมาทางสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพร่วมกับมูลนิธิสมาพันธ์ชมรมเดิน - วิ่งเพื่อสุขภาพไทยสำนักงานคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก และผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมรณรงค์ ส่งเสริมการเคลื่อนไหวร่างกายเพื่อกระตุ้นให้ประชาชนทุกเพศ ทุกวัย ปรับวิถีชีวิตให้มีกิจกรรมทางกายในชีวิตประจำวันอย่างเหมาะสม
ดังนั้น เมื่อวันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา สสส.ได้ร่วมกับองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) จัดกิจกรรมภายใต้โครงการ UN Day Run เกิน วิ่งประเพณีวันสหประชาชาติ 2553"ชวนขยับทั้งประเทศ Thailand on the move 2010. โดยมี ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการ สสส.เข้าร่วมเป็นประธานในขบวนวิ่งเป็นระยะทาง 10.5 กิโลเมตร เริ่มต้นจากหน้าสำนักงาน UN ESCAP ถนนราชดำเนินนอก ไปยังถนนราชดำเนินกลาง ในทางคู่ขนาน
ทั้งนี้ กิจกรรมในครั้งนี้ได้รับความสนใจและการขานรับจากลุ่มประชาชน และหน่วยงานต่างๆ ที่เข้าร่วมอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะจากผู้ที่มีหัวใจรักการวิ่ง อย่าง ทพ.กฤษดา ผู้ที่ได้ชื่อว่ารักการวิ่งเป็นชีวิตจิตใจ
อะไรคือจุดเริ่ม และที่มาของความชอบในกีฬาวิ่ง ของผู้จัดการ สสส.คนล่าสุด รวมทั้งจุดเริ่มของการเข้ามารับตำแหน่งสำคัญที่ สสส.
ทพ.กฤษดา เล่าว่า เดิมทำงานที่กระทรวงสาธารณสุข ในตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลก่อนที่จะถูกชักชวนให้มาทำงานที่ สสส.จากผู้จัดการ สสส.คนก่อน ซึ่งในความจริงแล้วได้เคยเข้าร่วมงานที่สสส.ตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง ปี 2544 เมื่อมาทำงานที่ สสส.ก็พบว่า เป็นงานที่ท้าทาย มีความแตกต่างไปจากระบบการทำงานในภาครัฐ ซึ่งมีระบบระเบียบในการทำงาน
ขณะที่งานของสสส.จะเป็นการทำงานกับภาคสังคม ซึ่งมีความหลากหลาย และมีการจัดตัวหรือเครือข่ายที่ไม่เหมือนภาคธุรกิจหรือภาคเอกชน ที่สามารถแลกเปลี่ยนกันด้วยเงินหรือสิ่งของได้ คือถ้าสังคมมันต้องแลกกันด้วยใจแลกด้วยเป้าหมาย คือเราต้องทำงานกับห้าง หรือ ชมรม เขาไม่ได้ขึ้นกับเราไม่ได้รับเงินเรา เขาไม่ต้องการ แต่ถ้าเขารู้สึกว่าเป็นการช่วยเหลือสังคมเขาก็จะมาร่วมกับเรา
"อันนี้คือความยากกับการทำงานแบบเครือข่าย แต่การที่ได้มาร่วมงานกับ สสส.ถือเป็นโชคดีมาก ได้เรียนรู้เรื่องเหล่านี้ เพราะประสบการณ์ที่ผ่านมาที่ได้ทำงานกับภาครัฐไม่ได้เป็นแบบนี้ พอได้มาเรียนรู้ทำให้เราเข้าใจความคิดของคน เข้าในเรื่องของการทำให้เขาเข้ามาร่วมมือกับเรามาก"
สำหรับเรื่องของการดูแลรักษาสุขภาพนั้น ทพ.กฤษดา บอกว่า โดยส่วนตัวแล้วได้ใช้กีฬาการวิ่งเป็นเครื่องมือในการออกกำลังที่ดี เหมาะสมกับตัวเองค่อนข้างมาก เพราะเริ่มวิ่งมาตั้งแต่สมัยนักศึกษา กีฬาวิ่งเป็นกีฬาที่มีความเป็นอิสระมากเราจัดการคัวเราด้วยตัวเราเอง อุปกรณ์น้อยมากเสื้อตัว กางเกงตัว รองเท้าก็สามารถวิ่งได้แล้ว
ช่วงแรกๆ ตอนนั้นก็มีกระแสเรื่องการวิ่งคือ วิ่งลอยฟ้าที่มีคนมาร่วมวิ่งเป็นแสนๆ ซึ่งเป็นกระแสใหญ่ที่ทำให้เราเริ่มสนใจ ปรากฏว่าพอเราเริ่มวิ่งพบว่าแรกๆ ยังวิ่งไม่ค่อยดี ยังเจ็บ แล้วก็วิ่งไม่ได้มาก"
เมื่อทำไปสักพักก็เกิดอาการติด ต้องวิ่งทุกวันวันไหนที่ไม่ได้วิง จะเกิดอาการปวดหัว คิดอะไรไม่ค่อยออก ตอนหลังผมวิ่งจนชนิดที่ว่า สมัยเรียนก่อนสอบจะต้องวิ่ง ก่อนจะอ่านหนังสือก็ต้องวิ่ง เป็นตัวที่ทำให้เราสดชื่น
ทั้งนี้ ในฐานะผู้ที่กำกับดูแลงานที่เกี่ยวกับสุขภาพ สุขภาวะอย่างทพ.กฤษดา ได้แนะนำแนวทางการดูแลสุขภาพไว้อย่างน่าสนใจว่า สิ่งสำคัญอยากให้ทุคนเริ่มลงมือดูแลสุขภาพของตัวเองกันตั้งแต่วันนี้ อย่าไปรอ เนื่องจากทุกคนส่วนใหญ่เกิดมาพร้อมกับความมีสุขภาพดี แต่พอเข้าสู่วัยรุ่นเราจะเข้าสู่ยุคของกิจกรรม ของเวลาหรือสิ่งยั่วยุอื่นๆ ดึงเราออกไปจากการมีสุขภาพดี รู้ตัวอีกทีก็ป่วยแล้ว
"พอถึงตอนนั้นมีเงินเท่าไหร่ก็แก้ไม่ได้แล้วไม่มีโอกาสที่ 2 เพราะฉะนั้น อยากให้รู้สึกว่าสุขภาพต้องทำ ณ วันที่มีโอกาส"
จากแนวคิดและมุมมองทั้งเรื่องงาน ภารกิจหน้าที่ในฐานะผู้จัดการ สสส.หรือแง่มุมการใช้ชีวิตส่วนตัวของ ทพ.กฤษดา ทั้งหมดนั้นจะเห็นได้ว่ามีประโยชน์และน่าสนใจอย่างยิง...วันนี้คุณออกไปวิ่งกันแล้วหรือยัง?
| |
|
|
