ผู้จัดการออนไลน์ [ วันจันทร์ ที่ 18 เดือนตุลาคม 2553 ]
ข่าวดี! สธ.ต่ออายุซีแอล 2 ยาต้านไวรัสเอดส์ “อีฟาไวเรนซ์-คาเลตตรา” ไม่จำกัดสิทธิผู้ใช้ยา


สธ.ออกประกาศต่ออายุการทำซีแอล 2 ยาต้านไวรัสเอดส์ “อีฟาไวเรนซ์ และคาเลตตรา” จนกว่าจะหมดสิทธิบัตร พร้อมขยายสิทธิผู้ใช้ยาไม่จำกัดจำนวน ครอบคลุมทุกสวัสดิการ รวมทั้งบุคคลรอพิสูจน์สถานะ หรือสิทธิตามมติ ครม.

นายบุณย์ธีร์ พานิชประไพ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า เกี่ยวกับการจัดบริการให้ยาต้านไวรัสเอดส์ให้ผู้ติดเชื้อ/ผู้ป่วยโรคเอดส์ว่า หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2553 มีมติให้ต่ออายุการทำซีแอลยาต้านไวรัสเอดส์ 2 ชนิด คือ ยาอีฟาไวเรนซ์ (Efavirenz) และยาคาเลตตรา (Kaletra) ซึ่งเป็นยาสูตรผสมระหว่างโลพินาเวียร์ กับริโทรนาเวียร์ (Lopinavir/Ritronavir) ไปจนสิ้นอายุสิทธิบัตร โดยสั่งการให้กรมควบคุมโรคดำเนินการออกประกาศ เนื่องจากยาทั้ง 2 ชนิดใกล้ถึงวันครบกำหนดประกาศใช้ กล่าวคือ ยาอีฟาไวเรนซ์จะครบกำหนดวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2554 ตามประกาศกรมควบคุมโรคเดิม เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ.2549 ส่วนยาคาเลตตราจะครบกำหนด ในวันที่ 31 มกราคม พ.ศ.2555 ตามประกาศกรมควบคุมโรคเมื่อวันที่ 24 มกราคม พ.ศ.2550


นายบุณย์ธีร์กล่าวว่า ขณะนี้กรมควบคุมโรค ได้ทำการออกประกาศกรมควบคุมโรค เรื่องการใช้สิทธิตามสิทธิบัตรยาด้านยาและเวชภัณฑ์หรือซีแอลทั้ง 2 รายการแล้ว เป็นฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2553 เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2553 ที่ผ่านมา โดยให้ใช้สิทธิการทำซีแอลยาต้านไวรัสเอดส์ 2 ชนิด คือ ยาอีฟาไวเรนซ์ และยาคาเลตตรา ครอบคลุมทุกรูปแบบยาและอนุพันธ์ด้วย ไปจนสิ้นอายุสิทธิบัตรหรือหมดความจำเป็นต้องใช้ยา โดยยาอีฟาไวเรนซ์จะหมดสิทธิบัตรในวันที่ 31 มกราคม 2555 ส่วนยาคาเลตตรา จะหมดสิทธิบัตรวันที่ 4 ธันวาคม 2559

สำหรับการบริการยาต้านไวรัสเอดส์ทั้ง 2 ชนิดนี้ จะครอบคลุมผู้ติดเชื้อ/ผู้ป่วยโรคเอดส์ที่จำเป็นต้องใช้ยานี้ทุกสวัสดิการ ทั้งผู้ที่มีสิทธิตาม พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ผู้ประกันตนตาม พ.ร.บ.ประกันสังคม ผู้มีสิทธิตามพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล พนักงานส่วนท้องถิ่นสังกัดกระทรวงมหาดไทย พนักงานหรือลูกจ้างของรัฐวิสาหกิจ รวมทั้งกลุ่มบุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อมีนาคม 2553 ด้วย โดยไม่จำกัดจำนวนผู้ใช้ยานี้ และการใช้ให้อยู่ภายใต้ดุลยพินิจของแพทย์

ทั้งนี้ ข้อมูลจากสำนักระบาดวิทยา ตั้งแต่ พ.ศ.2527 จนถึงล่าสุด เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2553 มีจำนวนผู้ป่วยเอดส์สะสม รวมจำนวน 369,803 ราย เสียชีวิตแล้ว จำนวน 97,933 ราย แนวโน้มของผู้ป่วยเอดส์และผู้ที่เสียชีวิตด้วยโรคเอดส์ลดลงเรื่อย ๆ ในปี 2550 เสียชีวิต 2,434 ราย ปี 2551 เสียชีวิต 1,691 ราย ปี 2552 เสียชีวิต 1,176 ราย เนื่องจากการรักษาผู้ป่วยเอดส์ด้วยยาต้านไวรัสทำให้ผู้ป่วยมีชีวิตที่ยืนยาว และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น




 










 


หน้าแรก | เกี่ยวกับแผนงาน | เครือข่ายและกิจกรรม | ผลผลิตและรายงาน | ข้อมูลสถิติ | การจัดการความรู้ | หน่วยงาน | ติดต่อแผนงาน | เจ้าหน้าที่ดูแลระบบ
แนะนำแผนงาน | ข่าวกิจกรรม | เกาะติดกิจกรรมเด่น | หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง | ผลผลิตและรายงาน| รายงานสุขภาพ| ก้าวใหม่กับ HISO | สถานการณ์สุขภาพประเทศไทย
การวิเคราะห์สถานการณ์สุขภาพ | สถานการณ์ข่าวสุขภาพ | เรื่องเล่าข่าวสุขภาพ | สื่อข้อมูลสุขภาพ | แบบสำรวจสุขภาพ | webbord | คำถามที่พบบ่อย | สมุดเยี่ยมชม | บริการข้อมูล