เรื่องเล่าข่าวสุขภาพ | สมรรถภาพร่างกาย | สุขภาวะทางจิต | สุขภาพกับความงาม | สื่อกับสุขภาพ | สมุนไพรเพื่อสุขภาพ | ธรรมะกับสุขภาพ






เด็กกับโทรทัศน์



 

             ทีวี  มีคุณอนันต์หากเราใช้ได้ถูกต้องเหมาะสมและควบคุมได้ แต่จะก่อให้เกิดโทษมหันต์ได้เช่นกันหากเราใช้ไม่เป็น และปล่อยให้มีอิทธิพลเหนือวิถีชีวิตและการควบคุมของเรา

             ทีวี   มีอิทธิพลต่อเด็กตั้งแต่แรกเริ่มของชีวิต สามารถดึงความสนใจจากเด็กได้มากกว่าสิ่งอื่นๆ บ่อยครั้งที่พบว่าพ่อแม่ใช้ทีวีในการเลี้ยงดูลูก โดยเข้าใจผิดว่าทีวีสามารถพัฒนาการพูดของเด็กให้เร็วขึ้น เนื่องจากพ่อแม่สังเกตว่าเด็กจ้องมองภาพ พร้อมทั้งหยุดการเคลื่อนไหวทุกอย่างได้นานๆ



จากการศึกษาข้อมูลพบว่า


             • สิ่งที่เด็กสนใจมองจริงๆ คือ แสง สี เสียง โดยเฉพาะรายการโฆษณา ซึ่งมีการเปลี่ยนภาพเร็วมาก จะดึงดูดความสนใจได้มากที่สุด แต่เด็กจะไม่เข้าใจความหมายอะไรในทีวี นอกจากเป็นการตอบสนองต่อสิ่งเร้าที่มากระตุ้นเท่านั้น

             • ในขณะที่เด็กใช้เวลาอยู่กับทีวีนั้น พบอัตราการเปล่งเสียงหรือเลียนเสียงน้อยมาก เนื่องจากทีวีเป็นการสื่อสารเพียงด้านเดียว (One-way communication) ซึ่งตามปกติการเรียนรู้ทางภาษาที่ดีนั้น ควรเรียนทางภาษาที่ดีนั้นควรเรียนจากการสื่อสาร 2 ด้าน (Two-way communication) หรือในลักษณะที่มีการโต้ตอบและมีปฏิสัมพันธ์กัน

             • การปล่อยเด็กเล็กให้อยู่กับทีวีนานๆ เป็นเหตุให้เด็กต้องทนฟังเสียงที่ไม่อาจจะเข้าใจได้อยู่ข้างเดียว พบว่าเด็ก 1 ใน 5 ของกลุ่มนี้จะยังพูดไม่ได้เมื่อถึงวัยอันควรด้วย


ทีวีสามารถก่อให้เกิดผลกระทบต่อพัฒนาการด้านอื่น ๆ ดังนี้



• สามารถเปลี่ยนแปลงให้เด็กหันไปนิยมวัตถุมากขึ้น ผู้ผลิตรายการโฆษณามักจะรู้ดีว่า เด็กถูกชักจูงง่าย หลายบริษัทใช้เด็กเป็นตัวดึงในการโฆษณาขายสินค้าของตน


• ทำให้ความสัมพันธ์กับผู้ใหญ่ลดลง ขาดความไว้วางใจซึ่งกันและกัน รายการทางโทรทัศน์จะมีอิทธิพลมากพอที่จะลบล้างความเชื่อทั้งหลายที่เคยได้รับมาจากพ่อแม่ วัยที่เป็นอันตรายอย่างมาก คือ ก่อนวัยเรียน เพราะวัยนี้ยังแยกแยะความจริงไม่ได้ และเป็นวัยเลียนแบบด้วย หากเด็กถูกครอบงำ และได้รับแต่สิ่งผิด ๆ


• ในครอบครัวที่มีความเครียดสูง เช่น ปัญหาพี่น้องทะเลาะกันบ่อย ผู้ใหญ่มักคิดว่าทีวีจะช่วยหลีกเลี่ยงปัญหานั้นได้ แต่ความเป็นจริงกลับพบว่า หลังจากหยุดดูทีวี การทะเลาะก็จะเริ่มขึ้นแทนและมีความรุนแรงมากขึ้น


• ทำให้ขาดโอกาสในการเล่น หรือทำให้การเล่นลดน้อยลง ซึ่งเป็นอันครายอย่างมาก ทั้งนี้เพราะ การเล่นเป็นสิ่งสำคัญต่อพัฒนาการด้านการเจริญเติบโต สามารถช่วยขยายจิตนาการความคิดริเริ่มให้กว้างไกลออกไป


• เด็กที่ดูทีวีมากๆ จะแสดงลักษณะของการไม่อยู่นิ่งหรือเหนื่อยล้า ทำให้มีแนวโน้มที่จะเป็นเด็กสมาธิสั้น เนื่องจากได้รับการกระตุ้นจากสี แสง เสียง มากเกินไปมีผลรบกวนต่อขบวนการด้านความคิดของเด็ก ทำให้ไม่สามารถเก็บข้อมูลหรือนำไปใช้ได้


• เด็กที่ดูทีวีมากๆ จะทำให้กลายเป็นเด็กที่มีลักษณะสมยอม ขาดความคิดริเริ่ม เด็กที่มีปัญหาพูดช้าและมีลักษณะคล้ายเด็กออกทิสติค มักพบว่าถูกเลี้ยงดูด้วยทีวีตั้งแต่วัยทารก


• ทีวีเป็นตัวกระตุ้นแรงผลักดันภายในและอารมณ์ที่มีอยู่ให้ออกมารุนแรงได้ การดูทีวีรายการเกี่ยวกับความก้าวร้าวรุนแรง ทำให้เด็กพอใจหรือมีการเล่นที่ก้าวร้าวรุนแรงกว่าเดิม อีกทั้งยังเฉยเมยต่อความรุนแรงที่ประสบในชีวิตจริงได้




จากการศึกษาข้อมูลพบว่า

 
             1. ทารกที่อายุไม่ถึง 1 ขวบ ไม่ควรให้ดูทีวีหรือ วีดีโอเลย
             2. เด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ ไม่ควรดูทีวีเกิน 7 ชม.ต่อสัปดาห์ (วันละไม่เกิน 1 ชม.)
             3. เด็กอายุ 6 ขวบขึ้นไปควร
                    - ช่วยกันวางโปรแกรมจัดตารางรายการที่เด็กชอบ
                    - ให้เด็กเขียนรายการที่ต้องการดูในแต่ละวัน
                    - ให้เวลา 1 ชม.ต่อวันในการดูทีวีในวันไปโรงเรียน
                    - ให้เวลา 2 ชม.ต่อวันในวันหยุด
                    -  ถ้าเด็กดูรายการพิเศษติดกัน 2 ชม. ในวันไปโรงเรียน ต้องงดดูคืนถัดไป
             4. ไม่ควรอนุญาตให้มีทีวีในห้องนอนเด็ก










ขอขอบคุณที่มา : http://hpc6.anamai.moph.go.th
                          ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต





 













 
๏ปฟ












เธซเธ™เน‰เธฒเนเธฃเธ | เน€เธเธตเนˆเธขเธงเธเธฑเธšเนเธœเธ™เธ‡เธฒเธ™ | เน€เธ„เธฃเธทเธญเธ‚เนˆเธฒเธขเนเธฅเธฐเธเธดเธˆเธเธฃเธฃเธก | เธœเธฅเธœเธฅเธดเธ•เนเธฅเธฐเธฃเธฒเธขเธ‡เธฒเธ™ | เธ‚เน‰เธญเธกเธนเธฅเธชเธ–เธดเธ•เธด | เธเธฒเธฃเธˆเธฑเธ”เธเธฒเธฃเธ„เธงเธฒเธกเธฃเธนเน‰ | เธซเธ™เนˆเธงเธขเธ‡เธฒเธ™ | เธ•เธดเธ”เธ•เนˆเธญเนเธœเธ™เธ‡เธฒเธ™ | เน€เธˆเน‰เธฒเธซเธ™เน‰เธฒเธ—เธตเนˆเธ”เธนเนเธฅเธฃเธฐเธšเธš
เนเธ™เธฐเธ™เธณเนเธœเธ™เธ‡เธฒเธ™ | เธ‚เนˆเธฒเธงเธเธดเธˆเธเธฃเธฃเธก | เน€เธเธฒเธฐเธ•เธดเธ”เธเธดเธˆเธเธฃเธฃเธกเน€เธ”เนˆเธ™ | เธซเธ™เนˆเธงเธขเธ‡เธฒเธ™เธ—เธตเนˆเน€เธเธตเนˆเธขเธงเธ‚เน‰เธญเธ‡ | เธœเธฅเธœเธฅเธดเธ•เนเธฅเธฐเธฃเธฒเธขเธ‡เธฒเธ™| เธฃเธฒเธขเธ‡เธฒเธ™เธชเธธเธ‚เธ เธฒเธž| เธเน‰เธฒเธงเนƒเธซเธกเนˆเธเธฑเธš HISO | เธชเธ–เธฒเธ™เธเธฒเธฃเธ“เนŒเธชเธธเธ‚เธ เธฒเธžเธ›เธฃเธฐเน€เธ—เธจเน„เธ—เธข
เธเธฒเธฃเธงเธดเน€เธ„เธฃเธฒเธฐเธซเนŒเธชเธ–เธฒเธ™เธเธฒเธฃเธ“เนŒเธชเธธเธ‚เธ เธฒเธž | เธชเธ–เธฒเธ™เธเธฒเธฃเธ“เนŒเธ‚เนˆเธฒเธงเธชเธธเธ‚เธ เธฒเธž | เน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡เน€เธฅเนˆเธฒเธ‚เนˆเธฒเธงเธชเธธเธ‚เธ เธฒเธž | เธชเธทเนˆเธญเธ‚เน‰เธญเธกเธนเธฅเธชเธธเธ‚เธ เธฒเธž | เนเธšเธšเธชเธณเธฃเธงเธˆเธชเธธเธ‚เธ เธฒเธž | webbord | เธ„เธณเธ–เธฒเธกเธ—เธตเนˆเธžเธšเธšเนˆเธญเธข | เธชเธกเธธเธ”เน€เธขเธตเนˆเธขเธกเธŠเธก | เธšเธฃเธดเธเธฒเธฃเธ‚เน‰เธญเธกเธนเธฅ