ภาวะความเป็นชายของบรรดาสุภาพบุรุษนั้นเป็นผลจากฮอร์โมนชนิดหนึ่งในร่างกายที่มีชื่อว่า " Testosterone " (เทสทอสเตอโรน) หรือ ฮอร์โมนเพศชาย ซึ่งเป็นฮอร์โมนสำคัญในการสร้างความเป็นชายทั้งหลาย และเป็นกุญแจสำคัญของสุขภาพเพศชายแบบองค์รวมในระยะยาว
ฮอร์โมนเทสทอสเตอโรน สร้างความแข็งแรงบึกบึนของกล้ามเนื้อ และกระดูกของเพศชายให้ต่างกับเพศหญิง การขึ้นของหนวดเครา ความคิดอ่านที่เด็ดขาด ดีกรีโลดโผนโจนทะยานในสไตล์ผู้ชาย และยังเป็นตัวพัฒนาการเติบโตของอวัยวะเพศ รวมไปถึงความต้องการทางเพศ ตลอดช่วงชีวิต นอกจากนี้ ฮอร์โมนเทสทอสเตอโรนยังดูแลรักษาระดับความสมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจ ดูแลรักษาร่างกายให้แข็งแรง และมีสุขภาพดีอยู่เสมอ
ผู้ชายทุกคนที่เกิดมาจะต้องมีฮอร์โมนเทสทอสเตอโรนในร่างกาย โดยปริมาณของฮอร์โมนนี้จะเพิ่มขึ้นตามวัย แต่พอย่างสู่วัยหนุ่มใหญ่สักประมาณ 40 ปีขึ้นไป ฮอร์โมนเทสทอสเตอโรนนี้ก็จะเริ่มลดปริมาณลงอย่างช้า ๆ
ในขณะที่ฮอร์โมนเทสทอสเตอโรนค่อย ๆ เจือจางไปจากร่างกาย ก็จะเริ่มส่งผลกระทบต่อผู้ชายทั้งทางร่างกายและทางจิตใจ กล่าวคือ เลือดที่ว่าข้นกว่าน้ำเริ่มจางลง กล้ามเนื้อเริ่มอ่อนแรง กล้ามท้องเริ่มเปลี่ยนเป็นพุงพลุ้ย กระดูกเริ่มพรุน ความกระปรี้กระเปร่าค่อย ๆ ลดน้อยถอยลง และที่สำคัญคือความรู้สึกและความต้องการทางเพศก็จะค่อย ๆ หดหายตามไปด้วย
ผลกระทบทางด้านจิตใจ การลดลงของฮอร์โมนเพศชายอาจทำให้เกิดอาการอารมณ์แปรปรวน กลายเป็นตาแก่ขี้หงุดหงิด หรืออีกทีก็เป็นชายชราที่มีอาการเงียบเหงา ซึมเศร้า ได้ แต่ในปัจจุบันวิวัฒนาการทางการแพทย์สามารถจัดการกับระบบร่างกายของคนเรา โดยเฉพาะปัญหาภาวะฮอร์โมนเพศชายลดระดับ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเห็นผลได้อย่างน่าอัศจรรย์ยิ่ง
นพ.หรรษา ชวลิตธำรง แห่งศูนย์ Vital Life โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า "ร่างกายคนเราเปรียบเสมือนต้นไม้ เมื่อต้นไม้มันเหี่ยวเฉาจนรากตาย เราจะไปรดน้ำใส่ปุ๋ยให้ฟื้นขึ้นมาก็ยาก แต่ถ้าเรารู้ว่าต้นไม้มันเริ่มขาดปุ๋ยขาดน้ำ แล้วเรารีบใส่ปุ๋ย รดน้ำ พรวนดิน ต้นไม้ก็มีโอกาสฟื้นได้ง่าย"
การสังเกตจะช่วยให้เรารู้ได้ว่าฮอร์โมน เทสทอสเตอโรนเริ่มลดลง โดยก่อนที่จะเริ่มเข้าคอร์ส บำบัดรักษา ควรยืนหน้ากระจกแล้วพิจารณาตัวเองว่าเราได้เปลี่ยนไปไหม หนวดเครายังขึ้นปกติหรือไหม อารมณ์แปรปรวนไหม และที่สำคัญเริ่มเสื่อมสมรรถทางเพศ เช่น มีความต้องการลดลง อัณฑะหด หรืออวัยวะขี้เซาผิดปกติหรือไม่ เป็นต้น
ปัจจุบันนี้ผู้ชายไทยเริ่มที่จะดูแลรักษาและให้ความสำคัญต่อร่างกายของตัวเองมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ผู้ชายไทยเริ่มเข้าคลินิกเพื่อสุขภาพ คลินิกวัยทอง หรือศูนย์ ชะลออวัยวะตามโรงพยาบาลต่าง ๆ เพื่อตรวจเช็คร่างกาย ตรวจระดับฮอร์ โมน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของร่างกาย และเพื่อยืดอายุการใช้งานของร่างกาย
ศ.นพ.สมบุญ เหลืองวัฒนากิจ แพทย์ประจำแผนกทางเดินปัสสาวะ โรงพยาบาลกรุงเทพ ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการรักษาบำบัดอาการเสื่อมความเป็นชายทั้งร่างกายและจิตใจ โดยใช้วิธีการให้ฮอร์โมนทดแทน ซึ่งมีด้วยกันหลากหลายวิธี ได้แก่ การรับประทาน โดยต้องกินพร้อมอาหาร และต้องมีอาหารที่มีไขมันปนอยู่ในมื้อนั้นด้วย แต่วิธีนี้ก็มีข้อเสียคือผู้รับการรักษามักลืมหรือขี้เกียจ กินยา ส่วนวิธีที่สองมาในรูปแบบยาทาผิวหนัง วิธีที่สามโดยการฉีด ซึ่งจะฉีดซ้ำทุกสามเดือน ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่สะดวก และผู้รับการรักษาแทบไม่ได้รับผลข้างเคียงเลย เพราะเป็นฮอร์โมนธรรมชาติและระดับยาอยู่ในเกณฑ์ปกติ โดยการที่จะทำการฉีดฮอร์โมนให้กับผู้รับการรักษานั้น แพทย์จะต้องวินิจฉัยแล้วว่าผู้รับการรักษามีปริมาณฮอร์โมนต่ำกว่าเกณฑ์
อย่างไรก็ตาม แพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่เป็นผู้ตรวจสุขภาพของผู้รับการรักษานั้น ๆ จะเป็นผู้แนะนำวิธีที่เหมาะสมต่ออาการ และความต้องการของผู้รับการรักษาเป็นราย ๆ ไป
"การที่คนเราต้องการที่จะมีสุขภาพชีวิตที่สมบูรณ์และยืนยาวนั้น ก็จะต้องหมั่นดูแลรักษาร่างกาย และจิตใจให้แข็งแรงสดชื่นอยู่เสมอ เมื่อเริ่มรู้ตัวว่ามีแนวโน้มของการมีฮอร์โมนเพศชายต่ำ ถ้าเราสามารถให้ฮอร์โมนชดเชย และไม่อันตรายได้ ก็น่าจะคุ้มกว่าและดีกว่า เพราะทำให้คนเราแก่ช้าลง และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น" ศ.นพ.สมบุญ เหลืองวัฒนากิจ แพทย์ประจำแผนกทางเดินปัสสาวะ โรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวสรุป |