เรื่องเล่าข่าวสุขภาพ | สมรรถภาพร่างกาย | สุขภาวะทางจิต | สุขภาพกับความงาม | สื่อกับสุขภาพ | สมุนไพรเพื่อสุขภาพ | ธรรมะกับสุขภาพ






' เบาหวาน ' อย่าวางใจ ' เข้าประสาทตา ' ผลลัพท์คือ ' โลกมืด '






จากสถิติเกี่ยวกับโรคทางพันธุกรรม ที่เป็นกันอันดับต้นๆต้องยกให้ โรคเบาหวาน ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพด้านต่างๆได้สารพัด ไม่ว่าจะเป็น ฟัน, เหงือก, ไต, หัวใจ, หลอดเลือด และรวมถึงตา

อาการเบาหวานเข้าจอประสาทตา นั้น น่ากลัว
เป็นเหตุให้ ตาบอด เป็นอันดับ 2 รองจากต้อกระจก


กับเรื่องของโรคเบาหวาน-เบาหวานเข้าจอประสาทตานี้ ชาตรี พาชื่น อธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข บอกว่า... ทางกรมการแพทย์ก็ได้ให้บริการทางการแพทย์เชิงรุกทั่วประเทศ  โดยจัดทำโครงการรณรงค์ป้องกันเบาหวานเข้าจอประสาทตา ฝึกอบรมบุคลากรในพื้นที่ต่างๆให้มีความรู้ความสามารถในการถ่ายภาพจอประสาทและการแปรผล เพื่อคัดกรองเบาหวานเข้าจอประสาทตา

ภาวะโรคเบาหวานเข้าจอประสาทตานั้น มีวิธีการคัดกรองคือ คนไข้ที่เป็นเบาหวาน คนที่เป็นมานานเท่าไหร่ก็จะมีความเสี่ยงมากขึ้นเท่านั้น ก็จะมีเครื่องส่องดูจอประสาทตา โดยฝึกเจ้าหน้าที่ให้เป็นผู้ตรวจเดิมทีแพทย์จะเป็นผู้ตรวจ แต่ตอนนี้มีการฝึกพยาบาลเวชปฏิบัติเป็นผู้ตรวจด้วย

“ถ้าตรวจแล้วมีความผิดปกติก็ต้องรีบพบแพทย์ อาศัยพยาบาลที่จะออกไปคัดกรองในพื้นที่ มีเครื่องดูจอประสาทประจำที่โรงพยาบาลอำเภอ ส่วนในพื้นที่ก็ต้องอาศัยสถานีอนามัยที่อยู่ใกล้ประชาชนที่สุดสถานีอนามัยจะมีการฝึกให้เจ้าหน้าที่รู้วิธีการดูแลคนไข้เบาหวานถ้าคนไข้มีอาการเบื้องต้น คือการเริ่มจะมีจอประสาทตาเสื่อม อาจจะเห็นแสงแวบๆ หรืออาจจะมีอะไรขุ่นมัวอยู่ในตา เริ่มมีอาการทางสายตาเกี่ยวกับการมองเห็น เช่น ภาพพร่ามัว หรือภาพมืดไป ก็ต้องรีบส่งตรวจ นอกจากนี้คนไข้ที่เป็นโรคเบาหวานมานาน ถึงแม้จะไม่มีอาการก็ควรส่งไปตรวจ”

อธิบดีกรมการแพทย์บอกอีกว่า .. ภาวะเบาหวานเข้าจอประสาทตานี้จะยังไม่แสดงอาการใดๆในระยะเริ่มแรก บางคนที่เป็นเบาหวานเพียง 5 ปีถ้าคุมไม่ดีจะเริ่มมีอาการ ขณะที่บางคนถ้าคุมได้ดี 10-15 ปี ถึงจะเริ่มมีอาการ ซึ่งถ้าได้รับการวินิจฉัยและรักษาแต่เนิ่นๆจะไม่ลุกลามไปถึงขั้นรุนแรง ดังนั้นการคัดกรองภาวะเบาหวานเข้าจอประสาทตาจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับภาวะ ตาบอด ของประชาชนในประเทศ

ทั้งนี้ ผู้ป่วยเบาหวานทุกคนควรได้รับการตรวจจอประสาทตาโดยละเอียด และถ้าพบว่ามีความผิดปกติ คือประสาทตาจะมีเส้นเลือดฝอยโป่งออกมา มีการจับตัวของสารประเภทไขมันสีขาวบนจอประสาทตาและมีเลือดออกจนทำให้ตาพร่ามัว อาการเหล่านี้ควรได้รับการตรวจแลติดตามจากจักษุแพทย์อย่างต่อเนื่อง

กับโครงการคัดกรองเบาหวานเข้าสู่จอประสาทตา ล่าสุดยังดำเนินการได้ไม่ครอบคลุมทั่วประเทศเพราะต้องอาศัยทรัพยากรสูง ทั้งจักษุแพทย์และเครื่องมือ แต่ตอนนี้ก็ทำได้ประมาณ 20 จังหวัดแล้วและได้มีการประเมินผลการนำร่อง โดยมีเป้าหมายว่าคนที่จะต้องมาตรวจตา 3,000 คนใน 300 คน อาจจะเกิดประโยชน์ในการป้องกันโรคที่จะทำให้ตาบอดได้ อย่างในจังหวัดกระบี่มีคนเป็นโรคเบาหวาน 16,000 คน ที่อยู่ในระบบการรักษา คนทีมีความเสี่ยงจะต้องคัดกรองออกมาให้ได้ ซึ่งหากอบรมพยาบาลทั่วไปก็จะสามารถตรวจได้ทั้ง 16,000 คน ก็สามารถคัดกรองออกมาได้ 300 คนที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดตาบอด

“ในการรักษา แพทย์ก็จะตรวจดูว่าเป็นในขั้นไหน จำเป็นต้องยิงเลเซอร์ หรือต้องผ่าตัด คนเป็นเบาหวาน 16,000 คน จะมีอาการทางจอประสาทตาราว 3000 คน แต่ที่จำเป็นต้องผ่าตัดนั้นมีประมาณ 300 คนซึ่งการคัดกรอง 300 คน ที่ต้องผ่าตัดหรือยิงเลเซอร์ได้ ก็จะป้องกันไม่ให้ตาบอดได้ ส่วน 2700 คน ที่เหลือก็ต้องแนะนำว่าคุณเริ่มมีอาการแล้วละ ควรควบคุมเบาหวานให้ดีนะ มิฉะนั้นคุณจะมีความเสี่ยงที่จอประสาทตาเสื่อมจนทำให้ตาบอดได้ในที่สุด ” ....อธิบดีกรมการแพทย์ระบุ

ด้าน นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชวิถี กล่าวว่า โรคเบาหวานเป็นโรคเรื้อรังที่พบบ่อยในประเทศไทย ต้องสูญเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ตลอดจนคุณภาพชีวิตลดลง ซึ่งจากข้อมูลพบว่าทั่วประเทศมีคนเป็นโรคเบาหวานประมาณ 4 ล้านคน และเป็นสาเหตุสำคัญในการสูญเสียสุขภาวะเป็นอันดับ 5 ในเพศชาย (ร้อยละ 3) และอันดับ 3 ในเพศหญิง (ร้อยละ 7) ซึ่งเบาหวานเป็นโรคที่ต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง และมักพบภาวะแทรกซ้อนขึ้นเสมอ โดยเฉพาะทางตา คือ เบาหวานเข้าจอประสาทตา ที่โดยเฉลี่ยภาวะนี้เกิดขึ้นประมาณ 25% ของผู้ป่วยเบาหวาน ดังนั้นคาดว่าจะมีผู้ป่วยเบาหวานประมาณ 8.5 แสนคน ทั่วประเทศเกิดภาวะเบาหวานเข้าจอประสาทตา ทำให้ผู้ป่วยกลุ่มนี้มีสายตาเลือนรางและอาจบอดในที่สุด

“ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรพบจักษุแพทย์ทันทีเมื่อมีการมองเห็นผิดปกติ แต่ผู้ป่วยส่วนใหญ่แม้มีเบาหวานขึ้นจอประสาทตามากแล้วก็อาจยังไม่แสดงอาการมองเห็นที่ผิดปกติ ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นอย่างที่สุดที่ผู้ป่วยเบาหวานทุกรายต้องได้รับการขยายม่านตา ตรวจจอประสาทตา อย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง ควรงบสูบบุหรี่ และที่สำคัญควรควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติ รวมถึงการควบคุมอาหาร น้ำหนัก และออกกำลังกายสม่ำเสมอ ซึ่งเบาหวานขึ้นจอประสาทตานั้นสามารถรักษาและป้องกันไม่ให้ตาบอดได้ ถ้าได้รับการรักษาที่ทันท่วงที ...ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชวิถีระบุ”

เป็น เบาหวาน ก็ต้องระวัง เข้าจอประสาทตา
เพราะมันร้ายแรงถึงขั้น ตาบอด เลยทีเดียว











ขอขอบคุณที่มา : 
                          สกู๊ปหน้า 1 หนังสือพิมพ์เดลินิวส์  
                          วันอังคารที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2550
                          ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต





 













 
๏ปฟ












เธซเธ™เน‰เธฒเนเธฃเธ | เน€เธเธตเนˆเธขเธงเธเธฑเธšเนเธœเธ™เธ‡เธฒเธ™ | เน€เธ„เธฃเธทเธญเธ‚เนˆเธฒเธขเนเธฅเธฐเธเธดเธˆเธเธฃเธฃเธก | เธœเธฅเธœเธฅเธดเธ•เนเธฅเธฐเธฃเธฒเธขเธ‡เธฒเธ™ | เธ‚เน‰เธญเธกเธนเธฅเธชเธ–เธดเธ•เธด | เธเธฒเธฃเธˆเธฑเธ”เธเธฒเธฃเธ„เธงเธฒเธกเธฃเธนเน‰ | เธซเธ™เนˆเธงเธขเธ‡เธฒเธ™ | เธ•เธดเธ”เธ•เนˆเธญเนเธœเธ™เธ‡เธฒเธ™ | เน€เธˆเน‰เธฒเธซเธ™เน‰เธฒเธ—เธตเนˆเธ”เธนเนเธฅเธฃเธฐเธšเธš
เนเธ™เธฐเธ™เธณเนเธœเธ™เธ‡เธฒเธ™ | เธ‚เนˆเธฒเธงเธเธดเธˆเธเธฃเธฃเธก | เน€เธเธฒเธฐเธ•เธดเธ”เธเธดเธˆเธเธฃเธฃเธกเน€เธ”เนˆเธ™ | เธซเธ™เนˆเธงเธขเธ‡เธฒเธ™เธ—เธตเนˆเน€เธเธตเนˆเธขเธงเธ‚เน‰เธญเธ‡ | เธœเธฅเธœเธฅเธดเธ•เนเธฅเธฐเธฃเธฒเธขเธ‡เธฒเธ™| เธฃเธฒเธขเธ‡เธฒเธ™เธชเธธเธ‚เธ เธฒเธž| เธเน‰เธฒเธงเนƒเธซเธกเนˆเธเธฑเธš HISO | เธชเธ–เธฒเธ™เธเธฒเธฃเธ“เนŒเธชเธธเธ‚เธ เธฒเธžเธ›เธฃเธฐเน€เธ—เธจเน„เธ—เธข
เธเธฒเธฃเธงเธดเน€เธ„เธฃเธฒเธฐเธซเนŒเธชเธ–เธฒเธ™เธเธฒเธฃเธ“เนŒเธชเธธเธ‚เธ เธฒเธž | เธชเธ–เธฒเธ™เธเธฒเธฃเธ“เนŒเธ‚เนˆเธฒเธงเธชเธธเธ‚เธ เธฒเธž | เน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡เน€เธฅเนˆเธฒเธ‚เนˆเธฒเธงเธชเธธเธ‚เธ เธฒเธž | เธชเธทเนˆเธญเธ‚เน‰เธญเธกเธนเธฅเธชเธธเธ‚เธ เธฒเธž | เนเธšเธšเธชเธณเธฃเธงเธˆเธชเธธเธ‚เธ เธฒเธž | webbord | เธ„เธณเธ–เธฒเธกเธ—เธตเนˆเธžเธšเธšเนˆเธญเธข | เธชเธกเธธเธ”เน€เธขเธตเนˆเธขเธกเธŠเธก | เธšเธฃเธดเธเธฒเธฃเธ‚เน‰เธญเธกเธนเธฅ