HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
[ วันที่ 30/01/2556 ]
กรุ๊ปเลือดอโรมาฯบำบัด...ขจัดสารพัดโรค

หลายคนคงรู้จักศาสตร์กลิ่นบำบัดหรือ อโรมาเธอราพี กันอยู่แล้ว ซึ่งปัจจุบันเราสามารถซื้อเทียนหรือน้ำมันหอมระเหยมาใช้เองได้ที่บ้าน แต่การใช้กลิ่นบำบัดนั้นยังมีหลักการเลือกใช้กลิ่นให้เหมะสมกับแต่ละบุคคลอยู่ด้วย โดยปัจจัยที่สำคัญคือ กรุ๊ปเลือด
          เลือด เป็นหนึ่งในองค์ประกอบหลักที่มีกลิ่นเฉพาะตัวของร่างกายมนุษย์ แต่ละคนจะมีเลือดอยู่ประมาณ3.8-4.9 ลิตร หรือคิดเป็น 7% ของน้ำหนักตัว
          โดย ธันยวัลย์ สุนทรนนท์ ผู้เชี่ยวชาญการใช้กลิ่นบำบัดอาโรมาเธอราพี ศูนย์ไทยเมดิคอลสปาร.พ.นครธน ร่วมกับ น.พ.ชัชดนัย มุสิกไชย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ทางเลือก ร.พ.นครธน ได้ให้ข้อมูลเอาไว้ว่า เลือดแต่ละกรุ๊ปมีสารเคมีในเลือดต่างกัน
          การบำบัดด้วยกลิ่นที่เหมาะสมตามกรุ๊ปเลือดก็เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการนวดอาโรมาหรือการบำบัดด้วยกลิ่น การผสมใช้ในเครื่องสำอางล้วนส่งผลต่อระบบไหลเวียนของเลือด ช่วยปรับสมดุล ฟื้นฟูสุขภาพกาย ใจ จิตวิญญาณและช่วยเสริมสร้างแอนติบอดีภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายเป็นอย่างดี
          เนื่องจากเมื่อร่างกายได้รับกลิ่นบำบัดที่ใช่กับตัวเรา ไม่ว่าจะเป็นทางจมูกหรือทางผิวหนัง กลิ่นเหล่านี้จะถูกส่งผ่านเข้าไปยังสมองส่วนลิมบิก  (Limbic)สมองส่วนนี้จะทำงานเกี่ยวกับอารมณ์ต่างๆ ความรักความเศร้า ความโกรธ รวมไปถึงความจำ
          นอกจากนั้น สมองส่วนนี้ยังสื่อสารกับร่างกายผ่านสมองส่วน ไอโปธาลามัส (Hypothalamus) ซึ่งทำหน้าที่เป็นศูนย์บัญชาการให้ร่างกายกลับเข้าสู่ภาวะสมดุล ผ่านต่อมใต้สมอง (Pituitary Gland) ซึ่งเป็นต่อมไร้ท่อที่สำคัญของร่างกาย
          ดังนั้นปฏิกิริยาของร่างกายที่ได้รับกลิ่นบำบัดที่เหมาะสมกับกรุ๊ปเลือดจะส่งผลให้เซลล์ทุกเซลล์กระแสเลือด อวัยวะทุกระบบ ระบบประสาททุกเส้นถูกกระตุ้นส่งสัญญาณเคมีไปที่ระบบต่อมไร้ท่อ ซึ่งผลิตฮอร์โมนที่สำคัญๆและจำเป็นของร่างกาย ได้แก่ ช่วยควบคุมพลังงาน การเจริญเติบโตและระบบสืบพันธุ์ของร่างกายเป็นต้น
          กรุ๊ป O เป็นกรุ๊ปที่สามารถให้เลือดได้กับทุกกรุ๊ป แต่รับได้เฉพาะเลือดกรุ๊ปเดียวกันเท่านั้น ผู้ที่มีเลือดกรุ๊ปโอย่อยอาหารเนื้อสัตว์ได้ดี เพราะเป็นกรุ๊ปเลือดที่เก่าแก่ที่สุด     โดยมาจากมนุษย์กลุ่มแรกของโลก ดำรงชีวิตด้วยการล่าสัตว์และกินเนื้อสัตว์เป็นอาหาร น้ำย่อยในกระเพาะอาหารของคนกรุ๊ป O มีความเป็นกรดสูงอยู่แล้ว จึงต้องหลีกเลี่ยงกลิ่นบำบัด หรือน้ำมันหอมระเหย ตระกูลส้ม มะนาว มะกรูด เกรปฟรุต
          ดังนั้น กลิ่นเลือดของคนกรุ๊ป O จึงเน้นไปที่กลิ่นใกล้เคียงกับสิ่งมีชีวิตที่ต้องอาศัยอยู่บนดินเป็นหลัก กลิ่นบำบัดสำหรับคนกรุ๊ปโอ จะประกอบไปด้วยกลิ่นของต้นไทม์ ราสเบอร์รี่ ซีดาร์วู้ด แฟรงคินเซนส์เปปเปอร์มินท์ กำยานไทย โกศกระดูก
          กรุ๊ป A นักมังสวิรัติ สามารถรับเลือดกรุ๊ป A และ O ได้ เป็นกลุ่มที่พัฒนามาจากคนกรุ๊ปเลือด O คือ เมื่อหมดยุคล่าสัตว์ ก็เริ่มต้นตั้งถิ่นฐาน และรู้จักการเพาะปลูกพืช กินผัก ผลไม้ เป็นอาหารหลักแทนเนื้อสัตว์ น้ำย่อยในกระเพาะอาหารจะมีความเป็นกรดต่ำ
          หากกินอาหารประเภทเนื้อสัตว์เข้าไปมากๆ จะทำให้ย่อยยาก ระบบการย่อยไม่ค่อยดี ระบบภูมิคุ้มกันก็ไม่ดีตาม การนวดตัวด้วยน้ำมันจากตระกูลธัญพืชโดยเฉพาะน้ำมันงาม้อนซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนที่ร่างกายสามารถดูดซึมชดเชยโปรตีนจากเนื้อสัตว์ได้เป็นอย่างดี
          คนกรุ๊ปเลือด A นี้จะมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อความเครียดสูงมาก เนื่องจากร่างกายผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอลออกมาในปริมาณสูง แต่ฮอร์โมนดังกล่าวสามารถลดลงถ้าได้รับกลิ่นบำบัดที่เหมะสมในการผ่อนคลายทางกายและใจ
          กลิ่นที่ควรหลีกเลี่ยงคือ กลิ่นกระดังงา มะลิหรือกลิ่นโทนต่ำ เพราะจะกดระบบประสาทและการไหลเวียนของเลือด ดังนั้นกลิ่นเลือดของคนกรุ๊ป A จะมีกลิ่นธรรมชาติของสีเขียวคล้ายกับกลิ่นสดชื่นของสมุนไพร
          กลิ่นบำบัดสำหรับคนกรุ๊ปเอ จะมีกลิ่นของต้นไม้ในสวน ชาเขียว ใบมะเขือเทศ ใบโหระพา และยี่หร่ากรุ๊ป B เป็นนักคิด อ้วนง่าย สามารถรับเลือดกรุ๊ป B และ O ได้ หลังจากมนุษย์ได้ตั้งถิ่นฐานและเพาะปลูกแล้ว ก็เริ่มเลี้ยงสัตว์เอง กินเนื้อและนมของสัตว์ที่เลี้ยงไว้ ร่างกายได้มีวิวัฒนาการมากขึ้นจนเกิดเป็นกลุ่มเลือดกรุ๊ป B กินอาหารได้หลากหลาย
          ผู้มีเลือดกรุ๊ป B เมื่อร่างกายอยู่ในสภาวะสมดุล ก็จะสามารถขจัดความเครียด และความวิตกกังวลลงได้แต่เมื่อใดที่ไม่อยู่ในสภาวะสมดุลระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลจะเพิ่มสูงขึ้น
          กรุ๊ปเลือดนี้เมื่อไม่อยู่ในสภาวะสมดุลมักมีปัญหาเกี่ยวกับภูมิคุ้มกันบกพร่องและไวรัส เกิดอาการเหนื่อยล้าง่าย จิตใจมัวหมอง สิ่งที่ต้องทำคือ ขจัดความเครียดเพื่อลดฮอร์โมนคอร์ติซอลที่ร่างกายหลั่งออกมาเพื่อตอบสนองต่อสภาวะเครียด
          ควรหลีกเลี่ยงโทนกลิ่นต่ำเช่นเดียวกับกรุ๊ปเอ แต่กลิ่นเหล่านี้เมื่อมีการผสมปรุงแต่งกลิ่นให้หอมสดชื่นสามารถใช้ได้ดี ส่วนกลิ่นธรรมชาติของกรุ๊ป B จะเป็นธาตุไม้ จึงมีกลิ่นร้อนแรงของเนื้อไม้
          กลิ่นบำบัดสำหรับคนกรุ๊ปบี จะมีกลิ่นของเนื้อไม้และกลิ่นเผ็ดร้อน ขิง เปปเปอร์มิ้นต์ โสม ชาเขียว ชาดำแอปเปิ้ลแดง เชอร์รี่ดำ ทับทิม พริกไทย พิมเสน และไม้สัก
          กรุ๊ป AB นักกินทุกรูปแบบ เป็นกลุ่มที่มีวิวัฒนาการซับซ้อนมากขึ้น ซึ่งเป็นกลุ่มที่เกิดหลังสุดค้นพบเมื่อประมาณ 1,000-1,500 ปีมานี้เอง กรุ๊ปนี้เป็นการผสมผสานระหว่างกรุ๊ปเลือด A กับ B รวมกัน
          ดังนั้นวิธีการกินที่เหมาะสมกับคนกรุ๊ปนี้เป็นการผสมผสานการกินมังสวิรัติหน่อยๆ กับการกินแบบกรุ๊ปบี นิดๆคนที่มีเลือดกรุ๊ปนี้มีจุดอ่อนเรื่องสุขภาพอยู่ที่ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ และกรดในกระเพาะต่ำ โปรตีนกรุ๊ปเอบีจะมีกลิ่นใกล้เคียงกับสารเคมีที่ประกอบกันขึ้นมาจากส่วนต่างๆ ของพืช จึงออกสีเงิน
          กลิ่นบำบัดสำหรับคนกรุ๊ปเอบี จะมีกลิ่นที่เป็นส่วนประกอบของแร่หลากหลายชนิดมารวมกัน เช่น แอลดีไฮด์(ยูคาลิปตัส มะนาว ตะไคร้ ใบส้ม เกรปฟรุต และซีดาร์วู้ด)อะลูมิเนียม หินชนวน ก้อนกรวด น้ำ
          คนเรามีกรุ๊ปเลือดที่แตกต่างกัน ดังนั้นการเลือกกลิ่นบำบัดที่เหมาะกับกรุ๊ปเลือดของตัวเองก็จะสามารถช่วยเสริมสุขภาพ สร้างสมดุลแห่งชีวิตได้อีกทางหนึ่ง
 


pageview  1206162    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved