เทรนด์ผิวขาวใสนับเป็น “ค่านิยม” ส่วนใหญ่ของสาวเอเชีย รวมถึงสาวไทยในปัจจุบัน แม้กระทั่งสื่อต่างประเทศยังพากันประโคมข่าวเรื่องกระแสความต้องการให้ตนเองมีผิวขาวใส ตั้งแต่ใบหน้า ผิวกาย และล่าสุดลงลึกไปจนถึงจุดปกปิดในร่มผ้า อย่างรักแร้ หรือโคนขาหนีบ เพื่อเสริมความมั่นใจ และบุคลิกภาพที่ดีเวลาออกสังคม หรือใส่เสื้อผ้าที่เผยผิวบริเวณดังกล่าว
          พ.ญ.จริยา ทรงโฉม แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและเลเซอร์ผิวพรรณประจำ “เดซี่ดิว่า” และ “อิมเมจิน คลินิก” กล่าวว่า ปัจจุบันเทรนด์ผิวขาวเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงอย่างต่อเนื่อง โดยผิวขาวในที่นี้ไม่ได้ดูจากสีผิวเท่านั้น ยังรวมถึงการมีผิวกระจ่างใส ไร้ริ้วรอยอีกด้วย เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการเลือกใส่เสื้อผ้า ยังช่วยส่งเสริมบุคลิกภาพ เพิ่มภาพลักษณ์ของการเป็นคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจในสุขภาพผิวของตนเองด้วย
          “โดยเฉพาะกับสาวๆ สมัยนี้ที่การสวมใส่เสื้อผ้าบางครั้งจำเป็นต้องเผยผิวบางส่วน ไม่ว่าจะเป็นผิวใต้วงแขน หรือบริเวณขาหนีบ เมื่อต้องใส่ชุดว่ายน้ำ หากเรามีสีผิวที่แลดูหมองคล้ำ มีจุดด่างดำ ย่อมทำให้ขาดความมั่นใจในการเข้าสังคม”
          ในส่วนของสาเหตุที่ทำให้เกิด “รักแร้ดำ” นั้น มีได้หลายสาเหตุ พ.ญ.จริยา กล่าวว่า ผิวหนังบริเวณรักแร้ หรือขาหนีบเป็นบริเวณที่มีต่อมขน ต่อมเหงื่อค่อนข้างมาก และเป็นบริเวณที่มีผิวหนังบาง เมื่อมีการเสียดสีบ่อยๆ หรือมีการกระตุ้นให้เกิดการระคายเคือง เช่น การโกน หรือถอนขนรักแร้ จะทำให้โครงสร้างของผิวหนังมีการเปลี่ยนแปลง และทำให้สามารถปกป้องสภาวะต่างๆ จากภายนอกได้ลดน้อยลง
          บางกรณีอาจเกิดภาวะสัมพันธ์กับโรคบางอย่าง เช่น Acanthosis Nigricans เป็นภาวะที่สีผิวมีการเปลี่ยนแปลงเป็นสีน้ำตาลเข้มจนถึงดำ มักพบบริเวณคอ รักแร้ ขาหนีบ สัมพันธ์กับการสร้างอินซูลิน จึงพบภาวะนี้ได้บ่อยขึ้นได้ในคนอ้วน รวมถึงการเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมนในร่างกาย เช่น ภาวะตั้งครรภ์, โรคประจำตัวบางชนิด เช่น Addison Disease และยาบางชนิดที่มีผลต่อสีผิว เช่น ยากันชัก
          สำหรับวิธีการแก้ไข “รักแร้ดำ” นั้น แพทย์ผิวหนังแนะนำว่า จะต้องลดการเสียดสีบริเวณรักแร้ ลดการกระทำที่ทำให้เกิดการระคายเคืองมากขึ้น เลือกผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อ หรือน้ำหอม ที่ไม่ก่อให้เกิดการแพ้ หรือระคายเคือง หยุดการใช้มีดโกนขน หรือการถอนขน เนื่องจากจะเป็นการเพิ่มความระคายเคืองต่อผิวหนัง และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อโครงสร้างพื้นฐานของผิวหนัง อาจกระตุ้นให้เกิดขนคุดตามมาได้ และเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ เช่น รอยถลอก บาดแผล ตลอดจนการติดเชื้อที่รูขุมขนตามมาได้
          นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดจัด ควบคุมอาหารเพื่อควบคุมการสร้างอินซูลิน อย่างไรก็ตาม สามารถใช้สารเคมีลอกผิวอ่อนๆ เช่น กรดซาลิซิลิก ครีมที่มีส่วนผสมของเรตินนอล ใช้สารที่มีฤทธิ์ปรับสีผิวให้ขาวขึ้น เช่น โคจิก เอซิด, อาร์บูติน และใช้เลเซอร์ลดเม็ดสีเมลานิน
          ปัจจุบันมีเลเซอร์ QS Nd YAG เป็นเลเซอร์ที่สามารถถูกดูดกลืนได้ดีด้วยเม็ดสีเมลานินที่อยู่ในชั้นผิวหนัง ทำให้เกิดการแตกตัวของเม็ดสี และถูกกำจัดออกตามกระบวนการของร่างกาย ในปัจจุบันมีการใช้เลเซอร์กลุ่มนี้ เพื่อทำให้บริเวณรอบวงแขน หรือขาหนีบ มีสภาพผิวที่กระจ่างใสขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยเรื่องของการกระชับรูขุมขน ทำให้ผิวดูเนียนและมีสุขภาพดี โดยแนะนำให้มาทำติดต่อกันอย่างน้อย 6-8 ครั้ง ทุกๆ 2-3 สัปดาห์ เพื่อให้การรักษาเห็นผลดีและอยู่ได้นาน
          “สำหรับสาวๆ ที่ชอบไปซื้อยาทารักแร้ให้ขาวอย่างรวดเร็วนั้น ต้องสังเกตให้ดีว่ายาดังกล่าวผ่านการตรวจสอบของ อย. แล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้ยาที่อันตรายและไม่มีมาตรฐาน เพราะยาที่ผลิตโดยไม่ผ่านกระบวนการที่ไม่ปลอดภัยอาจเสี่ยงต่อการแพ้ ระคายเคือง ทั้งจากตัวยาและส่วนผสมอื่นๆ อย่าง ยาทาเร่งผิวขาวบางชนิดอาจมีส่วนผสมของสารปรอท ซึ่งสามารถถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด และก่อให้เกิดอันตรายในระยะยาวได้”
          ในส่วนของเดซี่ดิว่า และอิมเมจินี่ คลินิก เอง ก็ได้มีการจัดโปรโมชั่นสำหรับการทำเลเซอร์กำจัดขนรักแร้ด้วย โดยลูกค้าสามารถซื้อคอร์สเลเซอร์กำจัดขนรักแร้ 4 ครั้ง ได้ในราคา 3,999 บาท และเมื่อซื้อ 2 คอร์สแถมฟรีเลเซอร์รักแร้ขาว 2 ครั้ง มูลค่ารวม 8,000 บาท ตลอดเดือนธันวาคมนี้