HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
[ วันที่ 20/12/2555 ]
พลังงานสำรองไม่ต้องพึ่งคาเฟอีน

  สำหรับคนทำงานทั้งในและ นอกออฟฟิศแล้ว คาเฟอีนเป็นเสมือนแหล่งพลังงานที่ 2 ที่ขาดไม่ได้ รองจากข้าว 3 มื้อ ซึ่งแหล่งของคาเฟอีนหลักๆ มี 2 ชนิด คือ กาแฟและเครื่องดื่มชูกำลัง
          อย่างไรก็ตาม การเติมพลังด้วยคาเฟอีนนั้นมีผลข้างเคียงตามมา โดยเฉพาะผู้ที่รับประทานอาหารที่มีคาเฟอีนติดต่อกันเป็นเวลานานจนเกิดการเสพติดคาเฟอีน ซึ่งอาการนั้นมีตั้งแต่อาการปวดหัว อารมณ์แปรปรวน กระสับกระส่าย กล้ามเนื้อกระตุก นอนไม่หลับและใจสั่น เป็นต้น
          ดังนั้น เพื่อสุขภาพที่ดีเราควรมองหาแหล่งพลังงานทางเลือกอื่นๆ ที่ไม่ใช่คาเฟอีนเอาไว้สำหรับเวลาฉุกเฉินที่ต้องการพลังงานหรืออยู่โต้รุ่ง
          สำหรับเวลากลางวัน อาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีนสามารถกระตุ้นให้ร่างกายสดชื่นได้ ตัวอย่างเช่น แอปเปิลสด ที่นอกจากโปรตีนแล้วยังมีสารอาหารอีกหลายชนิดทั้ง วิตามินเอ วิตามินบี แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก และคาร์โบไฮเดรต รวมถึงสาร เพกติน (pectin) ซึ่งช่วยให้ระบบความสมดุลของการย่อย และการดูดซึมอาหารของร่างกายเป็นปกติ
          สำหรับผู้ที่มีเวลาน้อยการเลือกรับประทานถั่วอัลมอนด์ ผลไม้แห้ง หรือเนยถั่ว เป็นทางเลือกที่ดี เนื่องจากล้วนเป็นอาหารที่มีโปรตีนสูง
          วิตามินบี เป็นอีกหนึ่งสารอาหารสำคัญ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีงานวิจัยพบว่าการขาดวิตามินบีมีส่วนทำให้เกิดอาการผิดปกติหลายอาการ เช่น อารมณ์แปรปรวน ขาดสมาธิ ซึมเศร้า และกระวนกระวาย ดังนั้น หากพบว่าตนเองมีอาการดังกล่าวบ่อยครั้ง ให้ลองหาวิตามินบีมารับประทานดู
          โดยตามปกติวิตามินบีที่มีจำหน่ายในร้านขายยา หรือร้านค้าทั่วไป จะอยู่ในแบบของวิตามินบีรวม หรือบีคอมเพล็กซ์ ซึ่งสามารถนำมารับประทานเพื่อชดเชยการขาดวิตามินบีได้
          อีกตัวเลือกหนึ่งก็คือ วิตามินรวม หรือมัลติวิตามิน ที่รวมวิตามินหลายชนิดไว้ด้วยกัน ส่วนเวลาที่เหมาะสมสำหรับรับประทานวิตามินเสริม คือ รับประทานพร้อมอาหาร เนื่องจากร่างกายจะดูดซึมวิตามินบางชนิดได้ดีขึ้นเมื่อรวมกับไขมัน
          พฤติกรรมการรับประทานอาหารเองก็มีส่วนช่วยด้วยเช่นกัน การรับประทานอาหารมื้อย่อยๆ ปริมาณน้อยๆ หลายมื้อ จะช่วยให้ร่างกายได้รับพลังงานอย่างต่อเนื่อง และช่วยหลีกเลี่ยงการเกิดอาการง่วงซึมหลังรับประทานอาหารมื้อใหญ่
          นอกจากอาหารที่กล่าวไปแล้ว กิจกรรมหลายประเภทสามารถช่วยคืนความสดชื่นให้แก่ร่างกายที่อ่อนล้าได้ ไม่ว่าจะเป็นการอาบน้ำหรือการออกกำลังกายเล็กๆ น้อยๆ
          เป็นที่ทราบกันดีว่าการอาบน้ำอุ่นช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ และทำให้นอนหลับได้ง่าย แต่ในกรณีที่ต้องการความสดชื่นน้ำเย็นจะเป็นยาขนานเอก ด้วยอุณหภูมิที่ต่ำของน้ำจะกระตุ้นการไหลเวียนเลือด และการทำงานของร่างกาย สำหรับผู้ที่ขี้หนาวจะลดอุณหภูมิของเครื่องทำน้ำอุ่นทีละน้อย หรือจะใช้น้ำเย็นล้างหน้าเพื่อความสดชื่นแบบเร่งด่วนก็ได้เช่นกัน
          การออกกำลังกายเล็กน้อยในตอนเช้าสามารถช่วยให้ร่างกายสดชื่นได้ตลอดทั้งวัน ที่สำคัญคือ ไม่จำเป็นต้องใช้เวลานานเพียงวิ่งเหยาะๆ ประมาณ 30 นาทีก็เพียงพอแล้ว
          หากไม่สะดวกที่จะออกกำลังกาย การเดินก็พอช่วยได้เช่นกัน โดยข้อมูลจากเว็บไซต์ WebMD ระบุว่า การขยับร่างกายตามปกติสามารถช่วยให้ร่างกา ย สดชื่นขึ้นได้ โดยเฉพาะในฤดูหนาวเช่นนี้อากาศเย็นจะเพิ่มความตื่นตัวได้อีกทางหนึ่งด้วย
          และสำหรับผู้ที่เดินทางบ่อยให้ถือโอกาสเปลี่ยนจากนั่งรถมอเตอร์ไซค์เข้าซอยช่วงสั้นๆ มาเป็นการเดินแทน โดยการเดินนี้จะช่วยคลายความมึนงงจากการทำงานนั่งโต๊ะ หรือจ้องคอมพิวเตอร์นานๆ ได้
          การนวดกดจุดสะท้อนเท้า หรือมือ reflexology ก็สามารถกระตุ้นร่างกายได้ โดยหลักการของการนวดแบบนี้ ก็คือ จุดบนมือและเท้าของมนุษย์จะเชื่อมโยงกับอวัยวะต่างๆ ซึ่งการนวดบนจุดดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นการทำงานของอวัยวะเหล่านั้น
          โดยปัจจุบันเราสามารถหาข้อมูลการนวดกดจุดได้จาก อินเตอร์เน็ตทำให้สามารถนวดได้ด้วยตนเอง ในกรณีที่ไม่มีเวลาไปใช้บริการร้านนวด
          นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยที่ระบุว่า การพูดคุยจะช่วยกระตุ้นให้รู้สึกตื่นตัวมากขึ้นได้ เนื่องจากการเก็บตัวโดดเดี่ยวตนเองจากสังคม มักนำไปสู่ความคิดด้านลบ และความเฉื่อยชา ในขณะที่เรื่องราวซุบซิบเกี่ยวกับดารา ละคร หรือเพื่อนร่วมงานกลับช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองให้ตื่นตัว
          สำหรับผู้ที่โปรดปรานความเงียบสงบ การฝึกจิตด้วยการนั่งสมาธิ และจินตนาการถึงความสดชื่นกระปรี้กระเปร่าก็สามารถช่วยได้
          โดยวิธีการเหมือนกับการนั่งสมาธิตามปกติ เช่น นั่งหลังตรงบนเก้าอี้ วางมือบนเข่า และหายใจเข้าออกลึกๆ รักษาร่างกายให้ตรง ตั้งจิตถึงความรู้สึกด้านบวก และความรู้สึกสดชื่น
          ด้วยวิธีการเหล่านี้จะช่วยให้ร่างกายสดชื่นขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งพาฤทธิ์ของคาเฟอีน ทั้งยังมีผลพลอยได้ ช่วยให้สุขภาพแข็งแรงขึ้นอีกด้วย


pageview  1205831    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved