HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
[ วันที่ 25/05/2555 ]
รับมืออากาศเปลี่ยน แบบบ้านๆ

 โครงการสมุนไพรเพื่อการพึ่งตนเอง มูลนิธิสุขภาพไทย www.thaihof.org
          คนทั่วไปรู้ดีว่าการนอนแต่หัวค่ำ ตื่นแต่เช้า บริหารร่างกายเป็นประจำ และหมั่นสวดมนต์หรือฝึกสงบใจให้มีสมาธิ กินเนื้อสัตว์พอประมาณกินผักผลไม้ให้มาก เป็นหนทางของการมีสุขภาพดี และคือยาดีไว้ป้องกันโรค รวมถึงการรับมืออากาศแปรปรวนได้ด้วย แต่คนส่วนใหญ่ "รู้" แต่ "ไม่ค่อยได้ทำ"
          หลายคนจึงชอบอะไรที่เป็นโปรดักต์ ทำหรือกินแล้ว ร่างกายจะแข็งแรงสู้กับโรคต่างๆ ได้ทันที โปรดักต์เพื่อสุขภาพจึงขายดิบขายดี เพราะเหมาะกับความต้องการส่วนตัว และสอดคล้องกับวิถีชีวิตที่เปลี่ยนเป็นสังคมเมืองที่ต้องการสินค้าและบริการแบบสำเร็จรูปด้วย
          แต่วันนี้ขอลองเสนอแนวสวนทางหรือฝืนความเคยชิน ชวนผู้อ่าน "ทำสมุนไพรใช้เอง" สร้างสมดุล บำรุงร่างกายไว้สู้กับอากาศเปลี่ยนแปลง
          อันที่จริงไม่ใช่เรื่องใหม่เป็นนวัตกรรมใดๆ แต่เป็นเรื่องที่ท่านต้องปรับเปลี่ยนทัศนคติ จากเร่งรีบรวดเร็วสู่เนิบช้าบ้าง และทดลองทำเองแทนที่จะสั่งซื้อ เพราะเพียงแค่ลดความเร็วลงร่างกายก็ได้พักและเกิดการฟื้นฟูอย่างไม่น่าเชื่อ
          และถ้าลองเริ่มง่ายๆ ด้วย กินผักผลไม้ที่ช่วยต้านความอ่อนเพลีย จะช่วยชุบชีวิตท่านให้มีพละกำลังอย่างไม่น่าเชื่อ
          มองในมุมวิชาการแบบโภชนาการและคุณค่าของวิตามิน เกลือแร่ ยามที่ร่างกายอ่อนล้าหมดเรี่ยวหมดแรง นักวิทยาศาสตร์เขาบอกว่ามันจะเกี่ยวข้องกับสารอาหารหลายชนิด เช่น วิตามินซี วิตามินบี ธาตุเหล็ก ธาตุแมกนีเซียม เป็นต้น คราวนี้ลองมาดูกันว่าในวันที่อ่อนล้าและยังต้องสู้กับอากาศเดี๋ยวฝนตกเดี๋ยวร้อนอบอ้าว เราน่าจะกินผักผลไม้อะไรดี เลือกกินให้มากในยามนี้เลย
          วิตามินซี รู้จักกันดีว่าผลไม้อะไรรสเปรี้ยวๆ มักมีวิตามินซี แต่ที่ไม่เปรี้ยวจี๊ดจ๊าดก็มีวิตามินซีสูง เช่น ฝรั่ง แครอต มะเขือเทศ และที่เป็นสมุนไพรเด่น คือ มะขามป้อมมีวิตามินซีสูงมากๆ ในผักที่ควรรู้จักมากินบ้าง เช่น ดอกแค ใบทองหลาง ผักกระเฉด หรือเด็ดใบมะยมมาทำอาหารกินก็ฟื้นกำลังได้ดี
          ที่ไม่ค่อยรู้กันว่าพืชผักอีกชนิดที่มีวิตามินซี คือ หัวหอม นำมาทอดไข่กินก็ได้ หัวหอมยังได้รัการยอมรับจากสากลว่า เป็นสมุนไพรบำรุงกำลังที่ดี และมีรายงานศึกษาว่าช่วยควบคุมระดับไขมันในเลือดได้ด้วย คนไทยแต่อดีตกินหัวหอมสดๆ กับผักและข้าวเป็นยาบำรุงกำลัง
          วิตามินบี วิตามินชนิดนี้เป็นที่ต้องการของร่างกายมาก ที่หาได้ง่ายสุดๆ ให้กินกล้วย มีประสบการณ์หลายท่านที่กินกล้วยน้ำหว้าเป็นประจำทุกวัน วันละ 1-2 ลูกร่างกายแข็งแรงในแต่ละปีไม่ค่อยเป็นหวัด
          วิตามินบีที่หาง่ายอีกอย่างคือ กินข้าวกล้อง และธัญพืชต่างๆ ที่ยังไม่ได้ขัดสี  ถ้าจะเพิ่มรสชาติอร่อยและกำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้ให้กินข้าวโพด จะสีเหลืองหรือสีม่วงก็กินเถอะ มีทั้งวิตา มินบี และเอ รสหวานของข้าวโพดช่วยให้ร่างกายหายเพลีย และกากใยอาหารช่วยขับถ่าย ไม่สะสมพิษในร่างกาย
          ธาตุเหล็ก มีอยู่ในอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ ปลา ไข่ ถั่ว เต้าหู้ และผักใบเขียวต่างๆ ถ้าใครไม่นิยมกินเนื้อสัตว์มากๆ ให้เลือกกินผักที่มีการจัดอันดับธาตุเหล็กสูง 10 อันดับ ได้แก่ 1. ผักกูด 2. ถั่วฝักยาว 3. ผักแว่น 4. เห็ดฟาง (เขานับเห็ดเป็นพืชผักอาหารที่เรากินด้วย) 5. พริกหวาน 6. ใบแมงลัก 7. ใบกะเพรา 8. ผักเม็ก 9. ยอดมะกอก 10. ยอดกระถิน
          เมื่อท่านเลือกกินผักผลไม้ที่มีธาตุเหล็กสูงนั้น ควรรู้ด้วยว่าร่างกายของเราดูดซึมธาตุเหล็กจากสัตว์ได้ดีกว่าที่มาจากพืชผัก ดังนั้น ถ้าจะช่วยให้ร่างกายดูดธาตุเหล็กได้คล่องขึ้น หลังกินพืชผักเหล่านี้ให้กินพืชผักที่มีวิตามินซีสูงๆ ตามลงไปด้วย หรือ ดื่มน้ำส้มสักแก้วจะช่วยให้กลไกในร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้น
          แมกนีเซียม อันที่จริงสุดยอดอาหารอันโอชะที่มีวิตามินแร่ธาตุที่ดีต่อร่างกายอยู่ที่ข้าวกล้อง และธัญพืชไม่ขัดสี ซึ่งก็มีธาตุแมกนีเซียมอยู่จำนวนมาก
          แมกนีเซียมจำเป็นต่อร่างกายมาก ช่วยสร้างพลังงานให้เซลล์ต่างๆ ในร่างกาย ช่วยให้เอนไซม์นับร้อยชนิดทำงานได้ปกติ ช่วยด้านจิตประสาท ลดอาการเครียด นอนไม่หลับ เป็นต้น ยามที่ร่างกายเพลียๆ หาอาหารที่มีแมกนีเซียมกิน
          ในพืชผักที่มีแมกนีเซียมสูง ขอแนะนำ กระเจี๊ยบมอญ หรือที่เรียกว่ากระเจี๊ยบเขียว เป็นผักจิ้มน้ำพริกที่อร่อยมาก หรือให้กินถั่วต่างๆ ถ้าพอมีสตางค์กินของแพงก็กินเม็ดมะม่วงหิมพานต์อร่อยมันทีเดียว
          ปิดท้ายแนะนำพืชผักหรือสมุนไพรต้านความอ่อนล้า หรือช่วยให้มีพละกำลังรับมืออากาศเปลี่ยน สมุนไพรชนิดนี้เคยฮิตเมื่อหลายปีก่อน แต่เพราะกระแสการตลาดมาแล้วไปจึงลดคุณค่าสรรพคุณแท้ดั้งเดิม ของลูกยอ ทั้งๆ ที่พบว่าน้ำต้มลูกยอ มีสารโพลีแซกคาไลน์ที่ช่วยเพิ่มการทำงานของภูมิคุ้มกันในร่างกาย สรรพคุณทางยาไทย
          ลูกยอช่วยให้เลือดลมหมุนเวียนดี เหมาะกับสุภาพสตรีแต่ก็ไม่ได้ห้ามสำหรับบุรุษเพศ
          นอกจากนี้ กินใบยอ ยังได้รับวิตามินเอ บี 1 บี 2 และซี ยังมีแร่ธาตุอีกเพียบ ทั้งธาตุแคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก ไนอาซิน โดยเฉพาะแคลเซียมสูงจริงกินประจำช่วยบำรุงกระดูก.และฟันอย่างดี
          อากาศเปลี่ยนรับมือได้ถ้าลงมือทำ


pageview  1205146    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved