|
|
|
บางกอกทูเดย์ [ วันที่ 26/06/2555 ] |
|
|
|
|
วัคซีน... "กันไว้ดีกว่าแก้" |
|
|
|
|
จากการประชุมสมัชชาอนามัยโลกครั้งที่ 65 ที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2555 รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขจาก 194 ประเทศทั่วโลกได้ลงนามรับรอง Global Vaccine Action Plan (GVAP) เพื่อให้มีการเข้าถึงวัคซีนพื้นฐานอย่างเท่าเทียมกันทั่วโลก เพราะจากสถิติในปัจจุบัน ยังมีเด็กทั่วโลกอีกประมาณ 20% ที่ไม่ได้รับวัคซีนพื้นฐาน
ผู้อ่านคงจะทราบดีว่า วัคซีนนั้นมีประโยชน์อย่างมหาศาลต่อมวลมนุษยชาติ เนื่องจากทำให้คนมีภูมิคุ้มกันต่อโรคต่างๆ อย่างไรก็ตาม การผลิตคิดค้นวัคซีนแต่ละชนิดไม่ใช่ขั้นตอนที่ง่ายนัก ต้องใช้เงินลงทุนเป็นจำนวนมาก และใช้เวลายาวนาน เนื่องจากต้องคิดค้นทดลองวิจัยหลายขั้นตอน อีกทั้งยังต้องนำวัคซีนที่คิดค้นได้มาทดลองใช้ในสัตว์ทดลองจนแน่ใจในความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีน จึงนำ มาใช้ในคนกลุ่มเล็กๆ ก่อนจะขยายมาใช้ในคนกลุ่มใหญ่ขึ้น และนำออกไปใช้ในประชาชน ทั่วไป ดังนั้น จึงยังมีโรคร้ายอีกหลายชนิดที่ยังไม่มีวัคซีนออกมา แม้จะมีความพยายาม คิดค้นวิจัยกันมาอย่างยาวนาน อาทิ โรคเอดส์ ไข้เลือดออก และมาลาเรีย
ในบ้านเรา นับตั้งแต่กระทรวงสาธารณสุขได้บรรจุวัคซีนพื้นฐานไว้ในแผนสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคให้เด็กทุกคน เมื่อหลายสิบปีมาแล้ว โรคร้ายแรงหลายอย่างที่เคยเป็นปัญหาใหญ่ อาทิ ไข้ฝีดาษ คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก โปลิโอ ก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด จนเราแทบไม่เคยเห็นคนเป็นโรคเหล่านี้แล้วในปัจจุบัน นอกจากนี้การ ลดลงของโรคไวรัสตับอักเสบบีก็ช่วยป้องกันมะเร็งตับที่พบบ่อยในบ้านเรา บางประเทศที่มีสถิติของมะเร็งปากมดลูกสูงเช่นเดียวกับไทยได้ให้วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกแก่เด็กหญิงอย่างกว้างขวางแล้ว
ในปัจจุบัน เด็กๆ ทุกคนควรจะต้องได้รับวัคซีนขั้นพื้นฐาน ได้แก่ วัคซีนป้องกันโรควัณโรค ตับอักเสบบี โปลิโอ คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก ไข้สมองอักเสบเจแปนิสบี ส่วนวัคซีนอื่นๆ เช่น วัคซีนป้องกันตับอักเสบเอ อีสุกอีใส ไข้หวัดใหญ่ และวัคซีนมะเร็งปากมดลูกก็สามารถเลือกฉีดได้ตามคำแนะนำของแพทย์และที่ ผู้ปกครองต้องการ อย่างไรก็ตาม วัคซีนไม่ใช่สิ่งที่ใช้เฉพาะกับเด็กเท่านั้น แต่ยังใช้ สำหรับผู้ใหญ่ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ เช่น ผู้ที่ถูก สุนัขกัดควรฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ผู้ที่มีบาดแผลขนาดลึกควรฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยัก ผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้วหรือไม่ต้องการป่วยเป็นไข้หวัดก็ควรฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ประจำปี
วัคซีนในปัจจุบันมีวิวัฒนาการไปจากอดีตเป็นอย่างมาก ตัวอย่างเช่น วัคซีน ป้องกันโรคสุนัขบ้าที่ในอดีตผลิตจากไขสันหลังกระต่าย สมองแกะ และสมองหนูทดลอง ซึ่งต้องฉีด 14-21 เข็มรอบสะดือ แต่ต่อมาพบว่ามีผู้ป่วยหลายรายมีอาการแพ้วัคซีน ชนิดนี้อย่างรุนแรง จึงได้มีการพัฒนาวัคซีนโดยเพาะจากเซลล์เพาะเลี้ยง ซึ่งมี ประสิทธิภาพสูงและมีผลข้างเคียงลดลง โดยฉีดเพียง 5 เข็ม ภายใน 1 เดือน บริเวณกล้ามเนื้อหัวไหล่ ซึ่งเป็นวัคซีนชนิดที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน นอกจากนี้ อีกหนึ่งตัวอย่างของวิวัฒนาการคือวัคซีนสำหรับเด็กที่ในปัจจุบันฉีดเพียงเข็มเดียวก็ป้องกันได้ถึง 5-6 โรค
การประกาศเป้าหมายร่วมกันที่ประชุมสมัชชาอนามัยโลกครั้งนี้จึงเป็นข่าวดีที่ต่อไปทุกคนจะได้รับประโยชน์จากวัคซีนโดยทั่วถึงและจะไม่มีการเสียชีวิต หรือพิการ จากโรคร้ายหลายๆ ชนิดที่สามารถป้องกันได้ ดิฉันจึงอยากให้ทุกคนเห็นคุณค่าของวัคซีน เพราะอย่างไรแล้ว "กันไว้ย่อมดีกว่าแก้" ค่ะ
"อีกหนึ่งตัวอย่างของวิวัฒนาการคือวัคซีนสำหรับเด็กที่ในปัจจุบันฉีดเพียงเข็มเดียวก็ป้องกันได้ถึง 5-6 โรค"
|
| | |
|
| |
|
pageview 1205836 |
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO) ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000 Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th | | |
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved
|
| |