เดือนเมษายน เป็นเดือนที่ร้อนที่สุดด้วยเป็นระยะที่โลกโคจรใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุด
          เดือนเมษายนถูกำหนดให้ คนเราไม่ต้องทำงนมากเหมือนเดือนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเดือนที่วันหยุดในช่วงตรุษสงกรานต์ ช่วงปิดเทอมใหญ่ของเด็กๆ ช่วงลาพักร้อน เพาะอากาศร้อนมากระดับตับแตกนนั้น คนเราทำงานไมได้เต็มเม้ดเต็มหน่วยหรอก สู้ปล่อยวาง ใช้ชีวิตไปชิวชิว ผ่านลมร้อนผะผ่าวของเดือนเมษายนดีกว่า
          แต่ก็นั้นแหละครับ วิถีของโลกเปลี่ยนแปลงไปมาก กระทั่งฤดูกาลก็ไม่อาจนับได้เหมือนกาลก่อน ที่ฤดูร้อนคือร้อน ฝนคือฝนหนาวคือหนาว
          อย่าว่าแต่อะไรเลย จำได้ไหมครับเมษายนปีก่อน ทางภาคเหนือหนาวถึงต้องใส่เสื้อหนาวกันสี่ห้าวัน ปีนี้อาจซ้ำอีหรอบเดิม เพราะมีการพยากรณ์อากาศ มีลมเย็นแผ่มาจากจีน ปะทะลมร้อน และยังจะเกิดฝนตกพายุฟ้าฝนคะนอง คำกล่าวคนโบราณที่ว่า ฤดูกาลที่ไม่เป็นฤดูกาล เป็นลางบอกอาเพศ ข้าวยากหมากแพง ก็คงจะไม่น่าเป็นเรื่องหวาดหวั่นประการใด ด้วยเพราะโลกยุคนี้มันก็เป็นอย่างนี้เอง
          มนุษย์ต่างหากที่ต้องปรับตัวให้กับสิ่งแวดล้อมเพื่ออยู่ให้ได้
          อย่างไรผมก็ว่า เดือนเมษาเป็นเดือนแห่งความสุข ในส่วนของวันหยุดยาวของเทศกาลสงกรานต์ที่คนไทยเรายังคงมีรอยยิ้มอยู่ คนต่างจังหวัดยังกลับไปหาพ่อแม่ คนกรุงก็ใช้ชีวิตชิวชิวและอีกอย่างก็คือ ลิ้นชักแห่งความทรงจำในวัยเยาว์ที่เป็นความสุข มักอยู่ในเดือนเมษายนให้คิดถึงให้ระลึกถึงเสมอ
          วัยรุ่นของคนรุ่นพ่อรุ่นปู่ ถึงเดือนเมษายน ปิดเทอมใหญ่ ก็รวมกลุ่มออกเที่ยวต่างจังหวัดกันแล้ว เป็าหมายคือไปสิ่งบ้านเพื่อนในต่างจังหวัด พ่อแม่เพื่อก็จะเลี้ยงเราเหมือนลูก ทุกอย่างที่สัมผัสคือการเสริมสร้างประสบการณ์ชีวิตเด็กแตกเนื้อหนุ่มมากมายได้ "ขึ้นครู" กับพี่สาวบ้านโคมเขียวโคมแดง ฮึกเหิมเป็นผู้ชายเต็มตัวก็ยามนี้ ส่วนที่ยังเป็นเด็กชายเดียงสา ก็โน่นไปเล่นว่าวงูกลางทุ่ง ไปขุดรูปู จับจิ้งหรีดกันไป
          เด็กสาวก่อนวัยสะพรั่ง รบเร้าครอบครัวพาไปเที่ยวหัวหิน หลังจากอ่านนิยายรัก อยากเป็น "พริซซี่" ใน ปริศนา หรืออ่านไปสะอื้นไปกันรักไตล์ทมยันตี โกโบริ ของ อังศุมาลิน อยู่ไหนใน "คู่กรรม" อ่านนิยายให้ฉ่ำแล้วรอใส่ชุดว่ายน้ำลงเล่นน้ำทะเล
          เด็กสมัยนี้อาจไม่มีประสบการณ์แบบคนรุ่นพ่อรุ่นปีอีกแล้ว เพราะต้องเรียนพิเศษ ใช้เวลาไปกับการเดินห้าง ใช้เวลาชีวิต จมอยู่ในระบบโซเชียลเน็ตเวิร์ก ไม่อยู่หน้าจอ ก็ก้อมหน้าก้มตากดอยู่กับมือถือสารพัดนึก ไม่ต่างกับม้าที่มีกะบังปิดข้างตาบังคับให้มองแต่ข้างหน้า ไม่ปรายตาสนใจมุมกว้างชีวิตรอบตัว
          ยุคนี้เด็กผู้ชายจะรวมกลุ่มเพื่อนไปเที่ยวต่างจังหวัดแบบลุยๆ ก็ยากแล้ว เพราะอาจเจอเด็กแว้น วุยรุ่นเจ้าถิ่น หมั่นไส้นิดเดียว ก็ยิงได้ฆ่าได้ไม่กะพริบตา พ่อแม่เสียใจปิ่มว่าจะขาดใจ คนตายไปเจอยมบาลยังตอบไม่ได้ว่า...ทำไมถึงตาย
          วัยรุ่นยุคนี้จึงต้องหาโลกกว้างในทางแคบๆ กดเอาคุยเอาทางงอุปกรณ์โซเซียลเน็ตเวิร์กต่างกับวัยรุ่นยุคพ่อแม่สัมผัสประสบการณ์ชีวิตอันหฤหรรษ์ด้วยตัวของตัวเอง
          เดือนเมษาในอดีตเมื่อสามสิบสี่สิบปีก่อน ช่างแตกต่างกับเดือนเมษายุคนี้ไปตามวิถีของโลก
          อยากบอกว่า หากอากาศยิ่งร้อนใจต้องเย็นๆ ครับ ไม่ว่าเรื่องอะไร
          ลดอุณหภูมิจากหัวใจออกไป ความรุ้อนรุ่มทางกายก็จะคลายลง เราก็จะไม่ทำอะไรชั่ววูบแล้วมาเสียใจทีหลัง
          อย่างโมโหง่าย ความดันจะขึ้น ออกกำลังเล่นกีฬา ถ้าไม่ใช่นักกีฬาอาชีพก็เล่นแต่พองามหัวใจเต้นแรงพอเหงื่อชุ่มตัวก็พอแล้ว          
          เพราะมันน่ากลัวครับ หน้าร้อน แค่เดินผ่านกระไอแดดก็ปวดหัวตุบๆ แล้ว ยิ่งไปเร่งความดันให้ขึ้นปรี๊ดง่าย เดี๋ยวจะพาลเกิดอาการสโตรกเส้นโลหิตแตก หรือหัวใจวายเอาง่ายๆ
          คนโบราณบอกว่า หน้าร้อน ต้องหาอะไรเย็นๆ ทานให้ชื่นใจ จะได้ใจเย็นๆ
          หน้าร้อนควรละเว้นอาหารเผ็ดมัน เข้ากะทิข้นคลั่ก เพราะยิ่งทำให้เกิดการสันดาป ร้อนหนักเข้าไปอีก อาหารเข้ากะทิก็บูดง่ายในหน้าร้อนพาลอาหารเป็นพิษอีก
          ข้าวแช่ เป็นอาหารโบราณที่ เจ้าขุ่นมูลนายในรั้วในวังสมัยก่อนจะทำกินกัน อร่อยดีนะครับ ลองหาทานดูในช่วงฤดูร้อนนี้ ในห้างสรรสินค้าก็มีขายเป็นแพ็ก
          เมื่อสองวันก่อน คุณทวยเทพไวทยานนท์ หรือ พี่จุ๋ง ของคนที่นี่ พูดถึงว่าหน้าร้อน คนแก่คนเฒ่าสมัยก่อน กินข้าวน้อยลงแต่ในสำรับจะมีผลไม้เข้ามาเสริมคือ แตงโมหรือสับปะรด มีจานหน้าปลาแห้งมาด้วย (หน้าปลาแห้งคือ ปลาแห้งตำหยาบ ไม่ละเอียดยิบเป็นปลาป่น มีหอมแดงซอยทอดกรอบและน้ำตาลทรายคลุกเคล้ากัน) จะกินก็จิ้มหรือโรยหน้าปลาแห้งบอกวากินแล้วชื่นใจดี
          ตอนเด็กๆ ไม่รู้หรอกว่า ทำไมผู้ใหญ่ถึงกินอย่างนี้ แต่พอแก่ตัวเอง ถึงไม่รู้ว่าทำไม
          ผมยังไม่เคยกิน แต่รู้สึกน้ำลายสอขึ้นมาทันที