ไทยพบติดเชื้อโควิด 11,200 ราย-ยอดรวม 1,678,297 ราย ขึ้นที่ 26 ของโลก ตายเพิ่ม 113 ศพ สธ.ชี้โควิดใต้ขาขึ้น ขอ ปชช.ช่วยสกัดระบาด คาดอีก 1 เดือนตัวเลขลด สงขลาน่าห่วง โควิดป่วยใหม่พุ่ง 596 คน ผู้ว่าฯ เจษฎา ยันไม่กระทบ หาดใหญ่ แซนด์บ็อกซ์ เร่งฉีดวัดซีน 250,000 โดส สสจ.เผย เชื้อกระจายลงครอบครัวเพียบ อธิการบดี ม.อ. เร่งสกัดกั้นกลุ่มสีเขียวกระโดดสู่กลุ่มสีแดง สี เหลือง เชื่อสถานการณ์ดีขึ้น 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เสียชีวิตลดลง ปัตตานี ยอดติดเชื้อใหม่ทะลุ 500 อีกวัน เหตุมาตรการผ่อนปรน ประชาชนสัมผัสโดยตรง ไปมาหาสู่ระหว่างกัน หวั่นเตียงโรงพยาบาลหลัก เหลือไม่ถึง 200 เตียง เตียงโรงพยาบาลสนามเหนือน้อย ส่วนฉีดวัคซีนให้เด็กนักเรียนวันแรกคึกคัก
          พบติดเชื้อ 11,200 ราย
          ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์ในประเทศ มีติดเชื้อเพิ่ม 11,200 ราย อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล 2,553 ราย พื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้ 1,949 ราย จังหวัดอื่นรวม 67 จังหวัด 6,540 ราย จากเรือนจา ที่ต้องขัง 138 ราย ผู้เดินทางจากต่างประเทศ 20 ราย ป่วยสะสม 1,678,297 ราย ขึ้นที่ 26 ของโลก หายป่วยสะสม 1,551,857 ราย มีเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 113 ราย เสียชีวิตสะสม 17,418 ราย
          ติดเชื้อทั่วโลก ยอดผู้ติดเชื้อรวม 237,074,957 ราย อาการรุนแรง 84,891 ราย รักษาหายแล้ว 214,208,690 ราย เสียชีวิต 4,840,290 ราย อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 1. สหรัฐอเมริกา จำนวน 44,913,970 ราย 2.อินเดีย จำนวน 33,893,002 ราย 3. บราซิล จำนวน 21,517,514 ราย 4. สหราชอาณาจักร จำนวน 8,006,660 ราย 5. รัสเซีย จำนวน 7,662,560 ราย
          ชี้โควิดใต้ระบาดหนัก
          นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 ในจังหวัดชายแดนใต้ ว่า ขณะนี้การระบาดภาคใต้อยู่ในช่วงขาขึ้น ซึ่งเดิมทีสายพันธุ์ที่พบมากที่สุดคือ แอลฟา แต่เนื่องจาก ยังมีปัจจัยเกี่ยวกับจังหวัดชายแดนที่ติดกับประเทศมาเลเซีย ทำให้ขณะนี้พบว่าสายพันธุ์เดลต้า เริ่มระบาดเพิ่มขึ้น ร้อยละ 30 และแทนที่สายพันธุ์แอลฟา โดยธรรมชาติของโรคสามารถแพร่ได้มากกว่า ทำให้ขณะนี้เริ่มอยู่ในขาขึ้น ซึ่งการระบาดของภาคใต้จะเกิดขึ้นช้ากว่าที่อื่น ส่วนใหญ่เกิดการระบาดในชุมชน รวมถึงสังคมวัฒนธรรม การใช้ชีวิต ที่เอื้อต่อการกระจายโรค
          “เราได้ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือจากประชาชน ซึ่งขณะที่ทุกคนให้ความร่วมมือกันมากขึ้น แต่ต้องเข้าใจว่า เมื่อเริ่มมีมาตรการไม่ใช่ว่าทำวันนี้แล้วพรุ่งนี้เห็นผล คาดว่าอีก 1 เดือน ถึงจะเริ่มเห็นลดลงได้” นพ.ธงชัย กล่าวและว่า ขณะนี้สิ่งที่ต้องดำเนินการคือ มาตรการทางสังคม เข้มงวดการสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง และล้างมือ รองรับสถานการณ์หากพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้น รวมถึงมาตรการฉีดวัคซีนโควิด-19 ดูแลผู้ติดเชื้อให้ได้รับการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ
          สงขลาอ่วมป่วยพุ่ง 596 คน
          รายงานข่าวจากกลุ่มภารกิจสื่อสารความเสี่ยง สำนักงานสาธารณสุข (สสจ.) สงขลา เปิดเผยผลการตรวจคัดกรองเชิงรุกในชุมชนแบบเข้มข้น พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 596 คน ไม่มีการเสียชีวิต ยอดสะสมผู้ติดเชื้อ 34,479 คน เสียชีวิตสะสม 158 คน พบในกลุ่มผู้สัมผัสผู้ติดเชื้อในพื้นที่มากที่สุด รองลงมากลุ่มสัมผัสเสี่ยงในโรงงาน ร้านค้า บริษัท สำนักงาน กลุ่มรอการสอบสวนโรค กลุ่มผู้เดินทางจากต่างจังหวัด นอนรักษาตัวในโรงพยาบาล 6,200 คน
          นพ.สงกรานต์ ไหมชุม สาธารณสุข จ.สงขลา เผยว่า ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ยังมีปัจจัยเสี่ยงจากการติดเชื้อกันภายในครอบครัว และชุมชน เนื่องจากการสัมผัสใกล้ชิดกัน และยังพบมีการติดเชื้ออยู่ในหน่วยงาน/ บริษัท/ ห้างร้าน อยู่ด้วย หน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ได้มีการสอบสวนและติดตามควบคุมป้องกันโรคฯตามมาตรการสาธารณสุข ขอความร่วมมือให้ประชาชนปฏิบัติเพื่อป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล( Universal Prevention for COVID-19 ) อย่างเคร่งครัด อย่างต่อเนื่อง
          ผศ.ดร.นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้หลายฝ่ายกำลังวิตกกับตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นใน จ.สงขลา และ 3 จังหวัดชายแดนาคใต้ ซึ่งมาจากหลายสาเหตุ เช่นการเปิดให้มีการเดินทาง การตรวจหาเชื้อจากเครื่องตรวจ ATK ด้วยตนเอง และการละเลยมาตรการส่วนบุคคล
          ด้าน นายเจษฏา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการ จ.สงขลา เผยว่า ตนยอมรับว่า จ.สงขลาพบผู้ป่วยโควิดเพิ่มขึ้นทำให้หลายฝ่ายวิตกโดยเฉพาะ อ.หาดใหญ่ จะนะ สิงหนคร ที่พบอยู่จำนวนมาก ส่วนมากผู้ป่วยติดเชื้อในครอบครัว ชุมชน และหน่วยงาน กังวลว่า จะกระทบกับ หาดใหญ่ แซนด์บ็อกซ์ ซึ่งได้การประชุมหลายฝ่ายเพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ จึงมั่นใจว่า ไม่กระทบกับ หาดใหญ่ แซนด์บ็อกซ์ และเดินหน้าสร้างอาชีพและรายได้ให้ประชาชน
          “เพื่อเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจเมืองหาดใหญ่ที่ซบเซามาหลายเดือน จึงขอให้ประชาชนยึดมาตรการส่วนบุคคลเคร่งครัด เช่นสวนหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างทางสังคม หลีกเลี่ยงที่แออัด ใช้ช้อนกลางเมื่อรับประทานอาหาร และเร่งฉีดวัคซีน 250,000 โดส หากประชาชนไม่มั่นใจให้ไปตรวจหาเชื้อ” นายเจษฏากล่าว
          ปัตตานียังหนักป่วยไม่ลด
          สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี สถิติของผู้ติดเชื้อรายใหม่ มอง ในเดือนนี้ เป็นเดือนที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อวันค่อนข้างสูง และเป็นตัวเลขที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ล่าสุด พบผู้ติเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นอีก 502 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 24,655 ราย โดยตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. – 6 ตุลาคม ผ่านเพียง 6 วัน พบผู้ติดเชื้อแล้วทั้งสิ้น 2,420 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมาก ในขณะที่ผู้เสียชีวิตรายใหม่เพิ่มอีก 1 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 311 ราย โดยพื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุด ใน 3 อันดับ ยังคงเป็นพื้นที่ อ.เมือง พบผู้ติดเชื้อ 169 ราย อ.สายบุรี 77 ราย และ อ.ยะหริ่ง 60 ราย
          อัตราการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่สูงขึ้นขณะนี้ ยังคงเป็นสาเหตุจากการสัมผัสของประชาชนโดยตรง รวมถึงการไปมาหาสู่ระหว่างกัน คาดว่าเกิดจากมาตรการผ่อนปรน ทำให้ประชาชนเดินทางไปมาหาสู่ได้อย่างอิสระ ประกอบกับชาวบ้านยังหย่อนยานในการเฝ้าระวังป้องกันตนเอง ทำให้เกิดช่องโหว่นำมาซึ่งการติดเชื้อโดยง่าย
          จากตัวเลขที่สูงขึ้น ทำให้หลายฝ่ายเกรงว่า จะส่งผลกระทบต่อโรงพยาบาลหลัก และโรงพยาบาลสนาม ว่ามีเตียงเพียงพอต่อผู้ป่วยติดเชื้อหรือไม่ เกรงว่าจะขาดแคลนเหมือนที่ผ่านมา และจากการตรวจสอบตัวเลขจำนวนเตียงสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ของโรงพยาบาลหลักทั้ง 17 แห่ง และโรงพยาบาลสนาม ทั้ง 17 แห่ง พบว่า เตียงของโรงพยาบาลหลักในขณะนี้น่าเป็นห่วง เพราะมีเตียงว่างเพียงแค่ 185 เตียงเท่านั้น โดยเตียงทั้งหมดมีอยู่ 1,490 เตียง มีผู้ป่วยคอรงเตียงอยู่ 1,305 ราย
          จากการดูตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้น กว่า 500 รายในขณะนี้ เกรงว่าเตียงโรงพยาบาลหลักอาจจะไม่เพียงพอต่อการรับผู้ป่วยรายใหม่ อาจจะเกิดการขาดแคลนอีกครั้ง ขณะที่เตียงของโรงพยาบาลสนามทั้ง 17 แห่ง มีเตียงทั้งสิ้น 2,612 เตียง มีผู้ป่วยครองเตียงแล้ว 1,658 เตียง ยังคงเหลือเตียงว่าเพียง 954 เตียง ซึ่งก็น่าเป็นห่วงเช่นกัน
          ขณะที่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี ว่าที่ร้อยตรีตระกูล โทธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เดินทางให้กำลังใจเด็กนักเรียนที่เดินทางมารับการฉีดวัคซีน ซึ่งทางสาธารณะสุขจังหวัดปัตตานี ได้ทำแผนการจัดฉีดวัคซีน ไฟเซอร์ให้กับนักเรียนในพื้นที่จังหวัดปัตตานีเป็นวันแรก
          โดย มีเด็กนักเรียน โรงเรียนเบญจมราชูทิศ อ.เมือง จ.ปัตตานี กว่า 2 พันคน เดินทางมาพร้อมผู้ปกครอง เพื่อมาให้กำลังใจ และยังมีอีกหลายอำเภอที่ดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับเด็กนักเรียนไปพร้อม ๆ กัน ทั้งนี้เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดเรียนในภาคการศึกษาภาคเรียนที่ 2 ประจำปี 2564 ที่จะถึงนี้