HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
ผู้จัดการรายวัน [ วันที่ 11/04/2555 ]
สอบเพิ่ม3รพ.หลักฐานชัดเอี่ยวซูโดฯ

ดีเอสไอเตรียมเรียกผู้บริหารโรงพยาบาล 3 แห่ง เข้าสอบปากคำคดียาแก้หวัดหายออกจากระบบ เผยหากหลักฐานชัด พัวพันยาเสพติดพร้อมแจ้งข้อหาเพิ่ม ด้าน สธ.บุกตรวจโรงงานผลิตยาซูโดฯสูตรเดี่ยวย่านลาดพร้าว พบลอบส่งรพ.สยามราษฎร์เชียงใหม่ และสัมพันธ์คลินิกขณะที่ สสจ.สุรินทร์ ชี้ห้ามขายยาหวัดซูโดฯไม่กระทบผู้ป่วย
          วานนี้ (10 เม.ย.) นายสรรเสริญ ปาลวัฒน์วิไชย รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ ดีเอสไอ เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับ8 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการสอบสวนคดีลักลอบนำยาแก้หวัดที่มีส่วนผสมของซูโดอีเฟดรีนออกจากระบบ เพื่อนำไปเป็นสารตั้งต้นผลิตยาเสพติดว่า ที่ประชุมได้หารือเพื่อหาแนวทางดำเนินทางกฎหมาย เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางเดียวกัน เนื่องจากคดีดังกล่าวมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก เบื้องต้นได้ข้อสรุปสำนวนคดีบางส่วนที่พบว่ามีความชัดเจนในการกระทำความผิด 3 โรงพยาบาลประกอบด้วย รพ.ศูนย์อุดรธานี จ.อุดรธานี,รพ.ทองแสนขัน จ.อุตรดิตถ์และรพ.เอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งสามารถดำเนินคดีได้ทันที โดยเบื้องต้นจะเรียกผู้เกี่ยวข้องในการกระทำความผิดที่ถูกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ตั้งกรรมการลงโทษทางวินัยแล้ว มาสอบข้อมูลเพิ่มเติม หากพบว่ามีพฤติกรรมเข้าข่ายกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ยา และ พ.ร.บ.วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ก็จะพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม
          "ขณะนี้ยังพบข้อมูลความผิดปกติของอีกหลาย รพ. ซึ่งมีทั้ง รพ.รัฐ เอกชน และคลินิก ซึ่งจะดำเนินการตรวจสอบและเอาผิดตามกฎหมายต่อไป โดยสถานพยาบาลที่เข้าข่ายถูกดำเนินคดียาเสพติดจะต้องครอบครองซูโดอีเฟดรีนตั้งแต่ 80-100 เม็ดขึ้นไปในส่วน รพ.ศูนย์อุดรฯ ค่อนข้างชัดเจนว่าเกี่ยวข้องกับขบวนการผลิตยาเสพติดเนื่องจากล็อตนัมเบอร์ยาแก้หวัดจากรพ.ศูนย์อุดร ไปพบอยู่ในสันกำแพง แต่จะสอบสวนจนได้หลักฐานที่แน่นหนาก่อนจึงจะแจ้งข้อหาในคดียาเสพติด"
          ด้านนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอกล่าวว่า ตนได้เดินทางเข้าพบกับ ร.ต.อ.เฉลิมอยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เพื่อรายงานความคืบหน้าการสอบสวนคดีดังกล่าว ซึ่งขณะนี้พบความเชื่อมโยงระหว่างรพ.ต่างๆแล้ว แต่ยังต้องตรวจสอบรายละเอียดเชิงลึกต่อไป
          อย่างไรก็ตาม วันเดียวกันนี้กลุ่มประชาชนปฏิวัติองค์กรอิสระทุจริตเงินแผ่นดิน นำโดยนายนพพล อภินันท์ เดินทางเข้าพบอธิบดีดีเอสไอ เพื่อเร่งรัดให้มีการตรวจสอบคดีดังกล่าว เนื่องจากถือเป็นความเสียหายต่อประชาชนโดยตรง รวมถึงมีความกังวลกรณีที่มีผู้บริหารของกระทรวงสาธารณสุขเข้าไปเกี่ยวข้องในการได้รับผลประโยชน์จากขบวนการดังกล่าว
          บุกตรวจโรงงานย่านลาดพร้าว
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพิสิษฐ์ ศักดาณรงค์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะประธานคณะทำงานป้องกันและปราบปราม ฟื้นฟูและเยียวยาด้านยาเสพติด สธ.พร้อมด้วยคณะทำงานฯ และเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการ
          อาหารและยา (อย.) ลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานมิลาโน ใน ซ.ลาดพร้าว 94 ซึ่งเป็น 1 ใน 4 โรงงานที่ได้รับอนุญาตจากทาง อย. ให้สามารถผลิตยาซูโดอีเฟดรีนสูตรเดี่ยวได้
          โดยนายพิสิษฐ์ กล่าวภายหลังการเข้าพบนายนราธิป ไทรสมบูรณ์ ผู้จัดการโรงงานมิลาโนว่า ที่มาตรวจสอบโรงงานนี้เนื่องจากพบว่ากรณีพบยาซูโดอีเฟดรีนสูตรเดี่ยวหายไปจาก รพ.สยามราษฎร์เชียงใหม่จ.เชียงใหม่ และที่สัมพันธ์คลินิก อ.จอมทองจ.เชียงใหม่ นั้น มีการสั่งซื้อยามาจากโรงงานแห่งนี้ จึงจำเป็นต้องตรวจสอบว่ามีการสั่งซื้อจริงหรือไม่ โดยผลจากการตรวจสอบทางโรงงานมิลาโนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีและพบว่ามีเอกสารการสั่งซื้อยามาจากรพ.สยามราษฎร์เชียงใหม่จริง มีเอกสารยืนยันชัดเจน ขณะเดียวกันยังพบว่ามีลายเซ็นรับจากทาง รพ.สยามราษฎร์เชียงใหม่ซึ่งทางคณะทำงานฯจะตรวจสอบไปยังรพ.ด้วยว่าลายเซ็นดังกล่าวจริงหรือไม่ หรือว่ามีการปลอมแปลง
          ลอบส่ง รพ.สยามราษฎร์เชียงใหม่
          ที่ปรึกษา รมว.สธ. กล่าวเพิ่มเติมว่าส่วนกรณีของสัมพันธ์คลินิกพบว่ามีการสั่งซื้อจากโรงงานมิลาโนจริง จำนวนประมาณ
          40,000 เม็ด และยังมีการสั่งซื้อจากบริษัทอื่นด้วยซึ่งการมาตรวจสอบข้อมูลครั้งนี้ ยังพบข้อมูลที่ชัดเจนด้วยว่า ตัวแทนขายยาที่ขายยาให้กับ รพ.สยามราษฎร์เชียงใหม่ และสัมพันธ์คลินิกเป็นคนเดียวกัน ซึ่งอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณียาซูโดอีเฟดรีนหายหรือไม่ ยังไม่สามารถตอบได้ ต้องมีการตรวจสอบเชิงลึก อาทิ กรณีตรวจสอบตัวแทนขายยาว่า มีมีเครือข่ายอยู่ที่อื่นหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ทางคณะทำงานฯจะส่งข้อมูลการตรวจสอบครั้งนี้ให้กับ นายวิทยาบุรณศิริ รมว.สธ.และกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) รับทราบ
          มึนพบ บ.มิลาโน ไม่ได้ใบอนุญาตผลิต
          แหล่งข่าวจากกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เปิดเผยว่า สำหรับบริษัท มิลาโน ที่นายพิสิษฐ์ พร้อมคณะทำงานลงพื้นที่ตรวจสอบนั้น ขณะนี้ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้อายัดและสั่งห้ามบริษัทดังกล่าวผลิตและส่งยาสูตรเดี่ยวและสูตรผสม จนกว่าจะตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วเสร็จว่าไม่เกี่ยวข้องกับปัญหาที่พบในรพ.สยามราษฎร์เชียงใหม่  จ.เชียงใหม่ และที่สัมพันธ์คลินิก อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ จึงจะยึดใบอนุญาต แต่ขณะนี้ห้ามดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น ดังนั้น ณ ปัจจุบัน จะเหลือเพียง3 บริษัท จาก 4 บริษัทที่ทาง อย.อนุญาตให้ผลิต ยาซูโดอีเฟดรีนสูตรเดี่ยว ได้แก่บริษัทเอเชี่ยน ฟาร์มาซูติคัล จำกัด บริษัทเบญจโอสถ จำกัด และบริษัท เมดดิซีนซัพพลายจำกัด
          แหล่งข่าวรายเดิม กล่าวว่า จริงๆ แล้วขั้นตอนการผลิตของบริษัทที่ได้รับอนุญาตจากอย. จะมีขั้นตอนยุ่งยากมาก เนื่องจากตัวนี้เป็นตัวเดี่ยว และจัดเป็นกลุ่มวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ประเภท 2 โดยก่อนจะผลิตก็ต้องแจ้งมายัง อย.ก่อนล่วงหน้า7 วัน และเมื่อจะผลิตและผลิตได้เท่าใดก็ต้องรายงานมายัง อย. และจัดส่งให้ทางรพ.ตามจำนวนที่รายงานกับ อย.หรือไม่ ตรงนี้อย.จะทราบหมด แต่จะไม่มีตัวแทนหรือบริษัทอื่นใดทำหน้าที่ส่งให้กับรพ. จะอนุญาตเพียงบริษัทที่ผลิตเป็นผู้จัดส่งให้ รพ.เท่านั้นซึ่งการผลิตและจัดส่งโดยรวมต้องทำรายงานให้ อย.ทราบทุกเดือน และยังต้องทำรายงานประจำปีด้วย


pageview  1205944    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved