HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
ผู้จัดการรายวัน [ วันที่ 17/02/2555 ]
'แม่เมาะ-ลำพูน'วิกฤต อากาศเชียงใหม่เริ่มแย่ 

         ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดเชียงใหม่ว่า วานนี้(16 ก.พ.) บรรยากาศทั่วตัวเมืองเชียงใหม่ยังคงถูกปกคลุมด้วยหมอกควันค่อนข้างหนาทึบต่อเนื่องกันมานานนับสัปดาห์แล้ว ซึ่งสาเหตุหลักมาจากการเผาในที่โล่งและการเผาป่าที่พบมากในช่วงนี้ โดยข้อมูลการตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษ จากสถานีตรวจวัดศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่า เมื่อเวลา 14.00 น. วัดค่าดัชนีคุณภาพอากาศได้สูงถึง 129 ซึ่งสูงกว่ามาตรฐานที่กำหนดว่าดัชนีคุณภาพอากาศที่ดีจะต้องไม่เกิน 100

          ดัชนีคุณภาพอากาศเมืองเชียงใหม่ที่เกินมาตรฐาน นับเป็นดัชนีคุณภาพอากาศที่เกินค่ามาตรฐานติดต่อกันเป็นวันที่ 2 แล้ว หลังจากเมื่อวันที่ 15 ก.พ. วัดได้ 109 ซึ่งค่าดัชนีคุณภาพอากาศในช่วง 101-200 นั้น ถือเป็นระดับที่เริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพ แล้ว และมีข้อแนะนำว่าผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังภายนอกอาคาร ส่วนบุคคลทั่วไปโดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุไม่ควรทำกิจกรรมภายนอกอาคารเป็นเวลานาน
          ขณะที่การตรวจวัดค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน หรือ PM10 ในเขตตัวเมืองเชียงใหม่ พบว่ามีแนวโน้มที่เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน โดยที่สถานีตรวจวัดศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ วัดค่าPM10 เมื่อเวลา 13.00 น.ได้ 111.36 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนที่สถานีตรวจวัดโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย วัดค่า PM10 เมื่อเวลา 13.00 น.ได้ 98.95 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
          ดร.สุรสิงห์ วิศรุตรัตน รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงสถานการณ์ปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองของจังหวัดเชียงใหม่ว่า จากข้อมูลล่าสุดในขณะนี้ แม้ค่าPM10 จะยังไม่สูงเกินกว่าค่าเฉลี่ย แต่สถานการณ์ยังถือว่าค่อนข้างน่าเป็นห่วง เพราะหากพิจารณาจากสภาพอากาศที่เป็นอยู่ในขณะนี้แล้ว คาดว่าหากไม่มีฝนตกลงมาในพื้นที่ ภายใน2-3 วันนี้และยังมีการเผาเป็นจำนวนมากในหลายพื้นที่ ค่า PM10 อาจจะเพิ่มสูงขึ้นจนเกินกว่าระดับค่าเฉลี่ยที่ 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรได้
          ดร.สุรสิงห์กล่าวต่อไปว่า หากสถานการณ์เป็นไปตามที่มีการคาดการณ์ไว้ จะส่งผลกระทบต่อประชาชนกลุ่มที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจเป็นกลุ่มแรก ซึ่งผู้ป่วยในกลุ่มนี้จำเป็นที่จะต้องเตรียมตัวเพื่อรองรับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น ทั้งการระมัดระวังรักษาสุขภาพให้แข็งแรง รวมไปถึงการเตรียมยาที่จำเป็น หรือการใช้หน้ากากป้องกันฝุ่นละออง
          ส่วนผู้ป่วยกลุ่มอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองนั้นดร.สุรสิงห์กล่าวว่าแม้ในขณะนี้จะมีผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น แต่ว่ายังไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่าเป็นผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาไฟป่าหมอกควันหรือฝุ่นละอองหรือไม่ เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาสภาพอากาศมีความเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจจะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ประชาชนเกิดการเจ็บป่วยเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก
          อย่างไรก็ตาม ดร.สุรสิงห์ ยืนยันว่า สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดเชียงใหม่ได้เตรียมการเพื่อรองรับผู้เจ็บป่วยจากกรณีปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองแล้ว โดยได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดเร่งสำรองหน้ากากป้องกันฝุ่นละอองเพื่อเตรียมแจกจ่ายให้ประชาชนหากมีความจำเป็น ขณะที่สถานพยาบาลในสังกัดทุกแห่งก็ได้เตรียมความพร้อมในการดูแลผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละออง รวมทั้งให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านเร่งออกให้ความรู้และควบคุมประชาชนในพื้นที่ไม่ให้เผาในที่โล่งอีกด้วย
          ส่วนมาตรการอื่นๆ ที่จะนำมาใช้เพื่อบรรเทาปัญหา ดร.สุรสิงห์ระบุว่ามีการหารือและประสานกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำข้อมูลมาใช้ประกอบการตัดสินใจแล้ว ทั้งนี้หากปัญหาลุกลามรุนแรงมากก็อาจจะต้องใช้มาตรการการอพยพประชาชนกลุ่มเสี่ยงออกจากพื้นที่ร่วมด้วย แต่ในขณะนี้ยังถือว่าสถานการณ์ยังไม่ร้ายแรง เพียงแต่มีแนวโน้มที่จะมีความรุนแรงมากขึ้นหากยังไม่มีฝนตกลงมาในช่วงนี้
          รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่กล่าวเพิ่มเติมว่า สถานการณ์ของสภาพอากาศในขณะนี้ แม้ปริมาณฝุ่นละอองจะเพิ่มขึ้นช้ากว่าปีที่ผ่านมา แต่ก็มีแนวโน้มสูงที่จะมีค่าเฉลี่ยเกินกว่าค่ามาตรฐาน ซึ่งการจะบรรเทาปัญหาลงได้นั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่ประชาชนทุกคนจะต้องงดเว้นการเผาในที่โล่งในช่วงนี้อย่างเด็ดขาด เพราะหากยังคงมีการเผาเกิดขึ้นอยู่ ก็จะส่งผลต่อสภาพอากาศ โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่แอ่งกระทะที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุด
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากจังหวัดเชียงใหม่ที่กำลังเผชิญหน้ากับปัญหาหมอกควันไฟป่าและคุณภาพอากาศในช่วงเวลานี้แล้ว ยังมีอีกหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนที่กำลังประสบปัญหาเดียวกันนี้อย่างหนักเช่นเดียวกัน ทั้งจังหวัดลำปาง จังหวัดลำพูน จังหวัดพะเยาและจังหวัดแพร่ ซึ่งตรวจวัดพบค่า PM10 สูงเกินค่ามาตรฐาน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรแล้ว ตลอดช่วงหลายวันที่ผ่านมา
          ที่จังหวัดลำปาง ที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านท่าสีและสำนักงานการประปาส่วนภูมิภาคแม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง เมื่อเวลา 08.00 น.วันนี้ วัดค่า PM10ได้ 152.3 และ 192.33 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรตามลำดับ
          ส่วนปริมาณค่า PM 10 ที่ตรวจวัดได้จากสถานีในจังหวัดต่างๆ ในเวลา 08.00 น.วานนี้พบว่าที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศสนามกีฬา อบจ.ลำพูน อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน วัดได้177.83 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศสถานีอุตุนิยมวิทยา จังหวัดแพร่ วัดได้ 163.63 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศอุทยานการเรียนรู้กว๊านพะเยา จังหวัดพะเยา วัดได้ 141.25 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

pageview  1205122    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved