HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
ผู้จัดการรายวัน [ วันที่ 04/02/2556 ]
ดราม่า!'ชายได้ชาย'เรื่องที่คุณต้องตื่นตัว?

 ถึงเวลาที่ 'ผู้ชาย' จะต้องตื่นตัวในเรื่องปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศแล้ว เพราะที่ผ่านมามีเหตุการณ์ทำนองว่าชายหนุ่มถูกขืนใจโดยเพศเดียวกัน ไม่ว่าจะด้วยวิธีการตีสนิท ล่อลวง มอมเหล้า มอมยา หรืออะไรก็ตามแต่ เพียงสนองความใคร่ของบางคนที่นิยมรสสวาทแบบชายรักชาย
          ก็ไม่รู้ว่าการวางตัวระหว่างเพศชายกับเพศชายต้องมีความระมัดระวังมากขึ้นหรือไม่ เพราะข่าวคราวจำพวกผู้ชายโดนเพศเดียวกันข่มขืนก็มีปรากฏให้เห็นอย่างต่อเนื่อง
          ทั้งยังมีสถิติสุ่มเสี่ยงในเรื่องโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ระบุว่ากลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายด้วยกันนั้นเสี่ยงติดเชื้อเอดส์ในอันดับต้นๆ ทั้งยังมีโรคติดต่ออื่นที่ตามมาอีก
          เรื่องน่าอายของผู้ชายทั้งแท่ง
          ย้อนเหตุการณ์ที่เมื่อสัปดาห์ก่อนที่เป็นข่าวครึกโครม เหตุการณ์ตำรวจสืบสวน ภาค 5 แถลงข่าวการจับกุมแก๊งเกย์ล่าสวาทที่มอมยาข่มขืนชาย โดยจะหาเหยื่อหน้าตาดีจากเว็บไซต์ต่างๆ
          โดยเฉพาะเว็บเกย์ชื่อดัง เมื่อหลงเชื่อก็จะทำการมอมยาชนิดหนึ่งที่มีฤทธิ์ต่อประสาททำให้เหยื่ออยู่ในอาการหมดสติ แล้วลงมือข่มขืน ซึ่งแก๊งเกย์กลุ่มนี้ออกปฏิบัติการเช่นนี้มาหลายครั้ง มีชายหนุ่มจำนวนไม่น้อยโร่เข้าแจ้งความกับตำรวจเพื่อดำเนินคดีด้วย
          ก่อนหน้านี้ก็มีกรณีชายหนุ่มดื่มเหล้ากับชายแปลกหน้า มิตรภาพใหม่ที่มาเยือนอาจพ่วงประสบการณ์หายนะเข้ามาด้วย หรือตีเนียนมาในแบบเพื่อน รุ่นพี่รุ่นน้องแล้วฉวยโอกาสล่วงเกินก็เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง
          ว่ากันตามกระบวนการยุติธรรมทางกฎหมายผู้ชายที่โดนล่วงละเมิดทางเพศจากเพศเดียวกันนั้นมีสิทธิเรียกร้องความยุติธรรมแก่ตนเองได้ แต่ก็เป็นจำนวนน้อยที่จะออกมาแจ้งความดำเนินคดี เพราะหนุ่มๆ หลายคนสะท้อนความคิดเห็นหากพลาดพลั้งกับกลุ่มเกย์กะเทยในทำนองที่ว่าจะไม่ดำเนินคดี
          "คือถ้ามันพลาดไปแล้วก็คงทำอะไรไม่ได้ และมันก็อาจจะไม่ร้ายแรงถึงขนาดตั้งท้อง ก็หยวนๆ แล้วกัน ไม่แจ้งความ ก็ไม่ได้อาย รู้สึกว่ามันไม่ได้เสียหาย มันพลาด" ความคิดเห็นของ ไก่"ก็คงปล่อย ใช้ชีวิตต่อไป ไม่ทำอะไรอะ" ความคิดเห็นของ แม็ค"ไปหาหมอตรวจโรคครับ" ความคิดเห็นของ  เอ
          ชายได้ตุ๊ดคือยอดมนุษย์อุลตร้าแมน
          'ชายได้ชายคือยอดชาย ชายได้ตุ๊ด
          คือยอดมนุษย์อุลตร้าแมน' ถึงเป็นประโยคที่ฟังดูขำขัน แต่เมื่อลองพูดคุยกับ บอย เกย์หนุ่มวัยฉกรรจ์ก็ยืนยันถึงความเชื่อทำนองนี้อย่างเต็มปาก
          "สุดยอดจริงๆ ฟินมาก มันเป็นความเร้าใจอย่างหนึ่งนะ ได้ผู้ชายที่เป็นแบบผู้ชายแท้ๆ เพราะว่ากลุ่มเกย์กลุ่มกะเทยจะชอบมากเลยนะ โดนเฉพาะชายแท้ไม่ชอบเกย์ไม่ชอบกะเทย"
          บอยเล่าถึงพฤติกรรมของชายรักชายบางกลุ่ม ที่มีค่านิยมดังกล่าว โดยคนกลุ่มนี้มักจะมีวิธีจับเหยื่อ อาทิ อาจจะพามามอมเหล้า หรือมอมยา เพื่อสำเร็จความใคร่
          แต่ถ้าจะหาผู้ชายที่มีรสนิยมคล้ายกันนั้นไม่ใช่เรื่องยาก สามารถหาได้ทั่วไปในชุมชนเกย์ตามเว็บไซต์ทั่วไป เขาเล่าว่ากว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ที่เข้ามาหาเพื่อนออนไลน์นั้นมีเป้าหมายเรื่องเซ็กซ์ล้วนๆ
          "ถ้าถูกใจก็จะนัดแบบตัวต่อตัว เจอกันในพวกชุมชนเกย์ในเว็บไซต์ได้เบอร์ไปก็นัดเดตกันเจอกัน 90 เปอร์เซ็นต์ ส่วนใหญ่นัดเจอก็ไม่ได้เจอกันอย่างเดียว มีความสัมพันธ์ทางเพศกันด้วย เจอคนไหนปุ๊บ ปิ๊งเอาเลยนะ คืนเดียวจบ แต่ก็มีกลุ่มที่จริงใจอยากจะเจอคู่ที่จริงใจก็มี อยากจะเป็นเพื่อนคุย อยากจะเป็นเพื่อนคู่คิด แต่ส่วนใหญ่ที่เจอจะคืนเดียวจบเพื่อระบายความใคร่"
          บอย บอกว่าเกย์บางกลุ่มนั้นรักสนุกไม่ผูกมัด การสานสัมพันธ์เป็นความต้องการยิมยอมของทั้งสองฝ่าย อย่างไรก็ตาม ความสุขเพียงชั่วครั้งชั่วคราวก็อาจนำพาความทุกข์มาให้ทั้งชีวิตด้วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แต่บอยเปิดเผยข้อมูลที่น่าตกใจว่ากลุ่มคนที่สมัครใจมาเจอกันจะไม่ค่อยแคร์เรื่องนี้ แต่ส่วนตัวยืนยันว่าตน   ไม่เคยนัดเดตเพื่อบำบัดความใคร่ ไม่ได้โหยหาสัมผัสอุ่นเพียงครั้งคราว อีกอย่างเขารู้สึกกลัวปัญหาที่อาจจะตามมา
          "แต่คนพวกนี้ส่วนใหญ่เขาป้องกันนะ พวกนี้เขาจะใส่ถุงยาง หรือไม่ก็อาจจะทำความสะอาดก่อน เพื่อที่จะแบบว่าไม่ให้มันสกปรกกันเกินไป ถามว่ากลัวติดโรคหรือเปล่า..ไม่นะ ก็จูบกันปกติ เพราะเขารู้อยู่แล้วพวกเอดส์มันไม่ติดกันทางนี้อยู่แล้ว ต้องใช้น้ำลายเป็นปี๊บถึงจะติดเอดส์ได้ พวกนี้เขาไม่ค่อยแคร์กันก็จะเล้าโลมกันปกติ"
          บอย กล่าวถึงการที่กลุ่มชายรักชายมีเพศสัมพันธ์กันง่ายและเร็วขึ้นโดยไม่กังวลถึงปัญหาโรคติดต่อทางเพศ "ส่วนใหญ่ไม่ได้นึกถึงเรื่องความปลอดภัย เขาไม่กลัวด้วยเพราะเขาคิดว่าป้องกัน คิดว่าตัวเองเป็นเพศชายด้วยไม่เสียหายเท่าผู้หญิงไม่มีปัญหาท้องแท้งตามมา มันเป็นความสนุกแบบระบายได้ไม่ต้องเกรงอะไร ใส่ถุงยาง ก็ฟินได้ทุกอย่าง มันมีสิ่งเร้าเยอะด้วย แล้วบางทีอาจจะมีเรื่องของความเหงา คนเรามันเหงามากขึ้น"
          มะรุมมะตุ้มโรครุมเร้า
          นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่ากลุ่มชายมีเพศสัมพันธ์กับชายไม่จำเป็นต้องรักกันก็มีเพศสัมพันธ์กันได้  ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายมักจะเปลี่ยนคู่นอนค่อนข้างบ่อย อีกส่วนหนึ่งมันมีผลที่ไม่พึงประสงค์ตามมาค่อนข้างน้อยไม่เหมือนการร่วมรักกับต่างเพศ จึงเป็นสาเหตุให้การติดเชื้อเอดส์
          สถิติในรอบปีที่ผ่านมากลุ่มชายรักชายนั้นพบปัญหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มากที่สุด โดยเฉพาะโรคเอดส์ที่มีข้อมูลว่าชายกลุ่มนี้ตรวจพบเชื้อมากกว่าหญิงขายบริการเสียอีก
          พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) และในฐานะประธานคณะกรรมการมูลนิธิเอดส์กรุงเทพมหานคร เปิดเผยข้อมูลผ่านโครงการ "พวกเราชาวกรุง มุ่งอาสา แก้ปัญหาเอดส์ : Bangkok Getting to Zero" เมื่อปลายปี 2555 ว่า แม้จะมีการรณรงค์ป้องกันปัญหาเอดส์ แต่สถานการณ์เอดส์ในประเทศไทยนั้นยังมีสถิติสูงขึ้นเรื่อยๆ  ซึ่งกลุ่มที่มีความเสี่ยงและตรวจพบเชื้อสูงสุด คือ กลุ่มชายรักชาย
          ข้อมูลสุ่มสำรวจตามโครงการฯ เปิดเผยว่าปี 2555 มีผู้ติดเชื้อเอชไอวีในพื้นที่กรุงเทพฯ  54,280 คน
          มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,350 ราย ส่วนสาเหตุเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน ซึ่งกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายติดเชื้อสูงสุด ร้อยละ 21.3
          รองลงมากลุ่มผู้ใช้สารเสพติดชนิดฉีด ร้อยละ 18.97 และหญิงบริการทางเพศในสถานที่สาธารณะร้อยละ 5.97
          กลายๆ ว่า การสำรวจพบว่ากลุ่มชายรักชายมีอัตราความชุกของการติดเชื้อเอชไอวีสูงกว่าประชากรทั่วไป 10 เท่า แบ่งเป็นกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย (MSM) และกลุ่มที่สาวประเภทสอง (TG) ที่การติดเชื้อเอชไอวีอยู่ในระดับที่สูงกว่ากลุ่มอื่น
          นอกจากโรคเอดส์ก็ยังมีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่กลุ่มชายรักชายต้องพึ่งระวังอีก ไม่ว่าจะเป็น กามโรค ซิฟิลิส ไวรัสตับอับเสบบี ฯลฯ
          อย่างไรก็ตาม นพ.ประพันธ์ ภานุภาค ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย ให้สัมภาษณ์ผ่านหนังสือพิมพ์คมชัดลึก ความว่าการพบผู้ชายเป็นโรคมะเร็งปากทวารหนักนานแล้ว แต่มีจำนวนน้อยมาก จนกระทั่งจำนวนเริ่มเพิ่มขึ้น โดยพบว่ากลุ่มชายรักชายจะเป็นมากกว่าผู้ชายทั่วไปถึง 40 เท่า และยิ่งมีเชื้อเอดส์ด้วยแล้วจะมีโอกาสเป็นมะเร็งปากทวารหนักเพิ่มสูงถึง 80 เท่า
          ชายโดนชายข่มขืนมีกฎหมายคุ้มครอง
          สุรพล กระแจะจันทร์ ผู้ก่อตั้งเว็บไซค์ thailawyer.net กล่าวถึงบทลงโทษทางกฎหมายกรณีผู้ชายถูกผู้ชายด้วยกันล่วงละเมิดทางเพศ ว่ามีความผิดเท่าเทียมกับกรณีของผู้หญิงโดนกระทำ
          เดิมทีกฎหมายให้ความคุ้มครองจำเพาะเพศหญิงแต่ภายหลังมีการเปลี่ยนจากคำว่าผู้หญิง เป็น ผู้ใด เท่ากับว่ากฎหมายระบุ ผู้ใด ข่มขื่นผู้อื่น ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น (หมายรวมทั้งหญิงและชาย) จะได้มีความผิดตามกฎหมาย แน่นอนมีความผิดทั้งจำคุกและปรับเงิน
          มององค์รวมของสังคมไทยมีหน่วยงานออกมาเรียกร้องสิทธิของผู้หญิงที่โดนกระทำ แต่กลับกันหน่วยงานสำหรับคุ้มครองเพศชายไม่มีปรากฏ อีกอย่างในเรื่องเพศสัมพันธ์ระหว่างชายด้วยกันก็ดูจะเป็นเรื่องน่าอับอายกว่าชายใดจะออกมาแจ้งความดำเนินคดี
          นพ.สมศักดิ์ แสดงทัศนะว่าในสังคมไทย แม้ผู้ชายจะโดนล่วงละเมิดทางเพศจากผู้ชายด้วยกันก็มักปล่อยให้เรื่องเงียบไปเพราะรู้สึกอับอาย เสียศักดิ์ศรี
          คุณหมอ ทิ้งท้ายว่า ปัญหาในเรื่องการคุกคามทางเพศของผู้ชายโดยผู้ชายนั้นจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลยหากคุณไม่เข้าไปข้องเกี่ยวกับเขา อย่างเช่น ในเรื่องของการแชตทางอินเทอร์เน็ตรวมทั้งทุกเพศไม่จำเพาะเกย์คงต้องระวังการติดต่อกับเพื่อนทางเน็ตต้องระวังเพศนี้ บางทีบางคนปลอมว่าตัวเองเป็นผู้หญิงแล้วนัดผู้ชายออกไป จริงๆ อาจจะเป็นผู้หญิงแปลงเพศ กะเทย ทุกเพศต้องระหวังหมด
          ด้าน นที ธีระโรจนพงษ์ ประธานกลุ่มเกย์การเมือง ได้ยืนยันว่ากลุ่มเกย์ก็มีดีมีชั่วปะปนกันไปเหมือนผู้หญิงผู้ชาย ฉะนั้นต้องมองเป็นเรื่องจำเพาะบุคคลไม่ได้เหมาว่าเกย์กะเทยทั้งหมดจะต้องเป็นดั่งข่าวลบที่ถูกนำเสนอออกมา
          "อยากให้เข้าใจว่าเกย์ก็เป็นประชากรเหมือนเพศชายหญิง อยากให้สังคมเข้าใจและเห็นใจว่ามันเป็นกลุ่มหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้แพร่หลาย แต่พอเป็นเรื่องของเกย์กะเทยสังคมก็จะเริ่มจับจ้องมองว่าผิดแปลก ผมไม่อยากให้คนมองเกย์ในเชิงลบเพราะว่าเกย์จะมีลักษณะที่เป็นเหยื่อของสังคมมาก"
          อย่างไรก็ตาม นที ฝากข้อคิดว่า "ผู้ชายเองเลือกได้อยู่แล้วละ การที่ไปไหนกับเกย์นั้นแสดงว่าเป็นความพึ่งพอใจเป็นประโยชน์ได้ เพราะฉะนั้นพวกเราต่างหากตกเป็นเหยื่อของผู้ชายมาโดยตลอด ผมไม่เชื่อหรอกว่าผู้ชายตกเป็นเหยื่อของเกย์ พาไปมอมเลี้ยงเหล้าเลี้ยงเบียร์ เขาต้องคิดอยู่แล้วว่าเกย์คิดเขาหวังอะไร ถ้าคุณรู้ว่ามีข่าวอย่างนี้แล้วก็อย่าได้ไปอย่าได้คุยพบปะกับเขา"
 


pageview  1205881    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved