รอยเตอร์ - วัคซีนโรคไข้เลือดออกขนานแรกของโลก ซึ่งพัฒนาโดยบริษัทซาโนฟี เอสเอผู้ผลิตยาสัญชาติฝรั่งเศส มีความสามารถที่จะป้องกันโรคติดต่อชนิดนี้ซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัส 3 ใน 4 สายพันธุ์ได้ จากการทดสอบทางคลินิกในประเทศไทย ถือเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ในรอบ 70 ปี
          ซาโนฟีแถลงเมื่อวานนี้ (25) ว่า การที่วัคซีนตัวนี้ผ่านการพิสูจน์ประสิทธิภาพได้ขนาดนี้ ถือเป็นหลักหมายสำคัญของการวิจัยพัฒนาตัวยาต้านโรคไข้เลือดออกที่ดำเนินการกันมา 70 ปีแล้ว นอกจากนั้น ยังทดลองยังยืนยันถึงความปลอดภัยของวัคซีนนี้ด้วย
          ไข้เลือดออกที่มียุงลายเป็นพาหะนำโรคนั้น มีสาเหตุจากไวรัสแดงกีชนิดต่างๆ กันรวม 4 สายพันธุ์ โดยที่แต่ละสายพันธุ์ไม่สามารถเทียบเคียงภูมิคุ้มกันกับสายพันธุ์อื่นได้
          วัคซีนของซาโนฟีผลิตจากแอนติบอดี้ ที่ตอบสนองต่อไวรัสเดงกีทั้ง 4 ชนิด แต่มีหลักฐานยืนยันว่าสามารถป้องกันเชื้อดังกล่าวได้จริงเพียง 3 ใน 4 สายพันธุ์ ที่แพร่หลายอยู่ในไทย โดยนักวิจัยก็ยังคงวิเคราะห์ต่อไปเพื่อหาสาเหตุที่วัคซีนนี้ไม่สามารถป้องกันไวรัสอีกสายพันธุ์หนึ่งได้
          การทดลองคราวนี้ ซึ่งถือเป็นการทดลองระยะ 2 บี กระทำในตัวอย่างเด็กไทยอายุตั้งแต่4-11 ปี จำนวน 4,002 คน ระหว่างที่ไข้เลือดออกกำลังแพร่ระบาด
          ด้าน มาร์ก คลาร์ก นักวิเคราะห์ของดอยช์แบงก์ชี้ว่า เมื่อวัคซีนตัวนี้ไม่สามารถป้องกันเชื้อไวรัสชนิดที่ 4 ได้ จึงทำให้การขายในเชิงพาณิชย์อาจต้องเลื่อนออกไปเป็นปี 2015
          แทนที่จะเป็นปี 2014 เนื่องจากซาโนฟีต้องรอข้อมูลของการทดลองระยะที่ 3 เสียก่อน
          ทั้งนี้ บริษัทย่อย ซาโนฟี ปาสเตอร์ ลงทุนไปแล้ว 350 ล้านยูโร สำหรับโรงงานผลิตวัคซีนป้องกันไข้เลือดออกแห่งใหม่ในฝรั่งเศสและเชื่อว่า สินค้าตัวนี้ของบริษัทจะทำเงินมากกว่า 1,000 ยูโรต่อปีทีเดียว
          ไข้เลือดออก เป็นโรคที่คุกคามประชากรร่วม 3,000 ล้านคนทั่วโลก และตลอด 50 ปีที่ผ่านมาจำนวนผู้ป่วยด้วยโรคนี้เพิ่มขึ้นถึง 30 เท่าตัวทีเดียว
          องค์การอนามัยโลกรายงานตัวเลขผู้ป่วยด้วยโรคไข้เลือดออกอย่างเป็นทางการว่า อยู่ระหว่าง 50-100 ล้านคนต่อปี โดยมีการประเมินว่ามีผู้เสียชีวิตประมาณ 20,000 รายใน ทุกๆ ปี ส่วนใหญ่เป็นเด็ก ซึ่งต้านทานเชื้อโรคนี้ได้น้อยกว่าผู้ใหญ่