แม้จะมีความเชื่อว่าการฝึกลูกให้ขับถ่ายด้วยการนั่งกระโถนนั้นเป็นสิ่งที่ยิ่งฝึกไวยิ่งมีประโยชน์ เพราะช่วยลดการใช้ผ้าอ้อม และยังช่วยฝึกลูกให้ขับถ่ายเป็นเวลา แต่ก็มีกุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบขับถ่ายจากสหรัฐอเมริกาออกมาแย้งว่า บางทีการทำเช่นนั้นอาจทำให้ลูกมีปัญหาด้านระบบขับถ่ายแทนก็เป็นได้
          ผู้เชี่ยวชาญที่ออกมาแสดงความเห็นแย้งกับความเชื่อของพ่อแม่กว่าครึ่งโลกในครั้งนี้คือ ดร.สตีฟ ฮอดจ์ส กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบขับถ่ายจากมหาวิทยาลัย Wake Forest ในนอร์ธ   แคโรไลน่า สหรัฐอเมริกา โดยเขาได้เผยว่า การฝึกให้เด็กนั่งกระโถนไวเกินไป หรือฝึกโดยที่เด็กยังไม่พร้อมนั้นอาจเพิ่มความเสี่ยงในด้านต่าง ๆ ให้กับเด็กมากกว่าจะมีประโยชน์
          "การที่เด็กเล็กต้องถูกจับนั่งกระโถนเพื่อฝึกการขับถ่ายตั้งแต่ยังไม่รู้เดียงสานั้นอาจนำไปสู่อาการท้องผูก ไตมีปัญหา หรือแม้แต่การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะได้ เพราะเด็กจะต้องถูกจับให้นั่งอยู่บนกระโถนเป็นเวลานาน" ดร.ฮอดจ์สเผย
          โดย ดร.ฮอดจ์สได้ให้คำแนะนำเอาไว้ในหนังสือของเขาชื่อว่า It's No Accident ว่า พ่อแม่ยังไม่ควรฝึกลูกนั่งกระโถนหากลูกยังมีอายุไม่ถึง 3 ขวบ พร้อมเหตุผลดังนี้
          "ไตของเด็กเล็กนั้นต้องใช้เวลา 3 - 4 ปีในการพัฒนาให้แข็งแรงพอ ซึ่งในช่วงเวลาของการพัฒนานั้น ก็เป็นช่วงที่เด็กควรได้รับอนุญาตให้ขับถ่ายได้ตามที่ต้องการ และเมื่อเด็กพร้อม เขาจะเกิดความรู้สึกอยากเลียนแบบการเข้าห้องน้ำของผู้ใหญ่ขึ้นมาเอง และเป็นโอกาสทองที่พ่อแม่จะจับลูกมาฝึกนั่งกระโถนหรือนั่งชักโครก"
          "การฝึกลูกนั่งกระโถนเร็วเกินไปนั้น นำมาซึ่งปัญหาด้านการขับถ่ายหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น การปัสสาวะรดที่นอน การปัสสาวะบ่อยเกินไป การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ และยังพบว่ามีความเกี่ยวข้องกับการอั้นปัสสาวะ หรืออุจจาระในเด็กด้วย โดยเฉพาะในเด็กที่ได้รับการฝึกเร็วเกินไปนั้น ยิ่งพวกเขาฝึกง่ายเท่าไร ปัญหาที่จะเกิดตามมาก็หนักมากขึ้นเท่านั้น"
          นอกจากนี้ ดร.ฮอดจ์สเผยว่า ในจำนวนคนไข้ของเขา กว่าครึ่งเป็นผู้ที่มีปัญหาด้านการขับถ่าย และพบว่า ทั้งหมดล้วนเคยถูกฝึกให้นั่งกระโถนไวกว่าที่ควรจะเป็น คือถูกฝึกก่อน 3 ขวบทั้งสิ้น และยังพบว่า 8 เปอร์เซ็นต์ของเด็กผู้หญิงวัย 7 ขวบยังมีการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะด้วย
          ทั้งนี้ จากข้อมูลของวารสาร the Journal of Neurogastroenterology and Motility ก็ชี้ไปในทางเดียวกัน โดยพบว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานี้ มีเด็ก    ท้องผูกเพิ่มมากขึ้นถึง 4 เท่า
          ขณะที่ตัวเลขจาก the National Association for Continence อ้างว่า มีเด็กประมาณ 5 ล้านคนปัสสาวะรดที่นอน โดย 20 เปอร์เซ็นต์เป็นเด็กวัย 5 ขวบ 12 เปอร์เซ็นต์เป็นวัย 6 ขวบ และ 10 เปอร์เซ็นต์เป็นวัย 7 ขวบ
          แต่ดร.ฮอดจ์สเชื่อว่า ตัวเลขต่างๆ เหล่านี้ยังต่ำกว่าตัวเลขของจริง เพราะเมื่อพ่อแม่เชื่อว่าปัญหาเกี่ยวกับการขับถ่ายของลูกเป็นเรื่องปกติ พวกเขาก็มักจะไม่พาลูกๆ ไปพบแพทย์นั่นเอง