HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
ผู้จัดการรายวัน [ วันที่ 12/07/2564 ]
โควิดพุ่งเฉียดหมื่น ให้ปชช.ซื้อชุดตรวจเองได้

 โควิดพุ่งเฉียดหมื่นให้ปชช.ซื้อชุดตรวจเองได้ จัดแอสตร้าฯเข็ม3ให้หมอ
          ผู้จัดการรายวัน360 - ป่วยโควิดในประเทศนิวไฮ 9,536 ราย เสียชีวิต86 คน ติดเชื้อสะสมระลอกเมษาฯ ทะลุ 3 แสนราย คลัสเตอร์ "ตลาดไท" น่าเป็นห่วง "บิ๊กตู่" นัดถกทีม ศก. เคาะเยียวยา "ล็อกดาวน์-เคอร์ฟิว" พร้อมปลดล็อกให้ประชาชนซื้อชุดตรวจโควิดเองได้ สธ. เตรียมฉีดวัคซีนเข็ม 3 "แอสตร้าฯ" เป็นวัคซีน บูสเตอร์ โดสให้บุคลากรทางการแพทย์ พร้อมเปิดลงทะเบียนฉีดวัคซีนให้ผู้สูงวัยอีกรอบ อายุ 75 ปีขึ้นไปวอล์กอินฉีดที่สถานีกลางบางซื่อ
          ผู้จัดการรายวัน360 - ป่วยโควิดในประเทศ นิวไฮ 9,536 ราย เสียชีวิต 86 คน ติดเชื้อสะสมระลอกเมษาฯ ทะลุ 3 แสนราย  คลัสเตอร์ "ตลาดไท" น่าเป็นห่วง "บิ๊กตู่" นัดถกทีม ศก. เคาะเยียวยา "ล็อกดาวน์-เคอร์ฟิว" พร้อมปลดล็อกให้ประชาชนซื้อชุดตรวจโควิดเองได้ สธ. เตรียมฉีดวัคซีนเข็ม 3 "แอสตร้าฯ" เป็นวัคซีน บูสเตอร์ โดสให้บุคลากรทางการแพทย์ พร้อมเปิดลงทะเบียนฉีดวัคซีนให้ผู้สูงวัยอีกรอบ อายุ 75 ปีขึ้นไปวอล์กอินฉีดที่สถานีกลางบางซื่อ
          วานนี้ (11 ก.ค.) ศูนย์ข้อมูลโควิด-19 รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นอีก 9,539 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ติดเชื้อในเรือนจำ-ที่ต้องขัง 103 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 86 คน ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมในช่วงการระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่ 1 เม.ย.-11 ก.ค. 64 มีจำนวน 307,508 ราย เสียชีวิตสะสม 2,617 คน
          เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 11 กรกฎาคม 2564 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์ประจำวัน ว่า พบผู้ป่วยเพิ่ม 9,539 ราย (ติดเชื้อในประเทศ 9,418 ราย/ในเรือนจำ 103 ราย/มาจากต่างประเทศ 18 ราย) รวมสะสม 336,371 ราย หายป่วยเพิ่ม 4,053 ราย รวมหายแล้ว 247,971 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 86 ราย รวมเสียชีวิตแล้ว 2,711 ราย
          คลัสเตอร์ "ตลาดไท" น่าเป็นห่วง
          สำหรับจังหวัดที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่มากสุดยังคงเป็น กรุงเทพฯ 2,741 ราย รองลงมาเป็น ปทุมธานี 1,108 ราย สมุทรปราการ 642 ราย สมุทรสาคร 563 ราย ชลบุรี 381 ราย นนทบุรี 338 ราย สงขลา 252 ราย ปัตตานี 215 ราย
          ทั้งนี้ จะเห็นว่าที่ จ.ปทุมธานี จะเห็นตัวเลขพุ่งสูงขึ้น เนื่องจากมีการตรวจเชิงรุกที่ตลาดไท โดยคณะกรรมการโรคติดต่อของ จ.ปทุมธานี เข้าไปตรวจเชิงรุก และตอนนี้การติดเชื้อของคนในกลุ่มปัจจุบันนี้เป็นสายพันธุ์เดลตา ซึ่งมีความรุนแรงและเป็นการแพร่เชื้อได้รวดเร็ว จากการตรวจเชิงรุกในตลาดไท พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 826 คน รวมยอดสะสมคลัสเตอร์ตลาดไทแล้ว 2,938 คน
          "บิ๊กตู่" ถกทีม ศก.เคาะมาตรการเยียวยา
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (12 ก.ค.) นายกรัฐมนตรีได้นัดประชุมทีมเศรษฐกิจวงเล็ก ที่มีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน ,นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง, นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒน์,นายเดชาภิวัฒน์ ณ สงขลา ผอ.สำนักงบประมาณ เพื่อพิจารณาออกมาตรการเยียวยาประชาชน และผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งล็อกดาวน์ และประกาศเคอร์ฟิว
          เบื้องต้นคาดว่ามาตรการที่ออกมายังคงเป็นการแจกเงินเยียวยาให้ผู้ที่ขาดรายได้ รวมถึงมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งจะต้องพิจารณาว่า จะเป็นการช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการ ที่อยู่ในพื้นที่ 10 จังหวัดควบคุมเข้มงวด หรือจะช่วยเหลือแบบเป็นวงกว้าง โดยมาตรการ ดังกล่าว ใช้เงินจาก พ.ร.ก.กู้เงิน
          ทั้งนี้ นายกฯ ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลัง และสภาพัฒน์ จัดทำข้อเสนอทั้งหมดมาพิจารณาในที่ประชุมในวันนี้ จากนั้นจะเสนอให้ที่ประชุม ครม.เห็นชอบ ในวันที่ 13 ก.ค. ต่อไป
          ให้ ปชช.ซื้อชุดตรวจโควิดเองได้
          นอกจากนี้ กองควบคุมเครื่องมือแพทย์ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มีมติเห็นชอบให้ชุดตรวจโควิด ประเภท Rapid Test แบบตรวจหา Antigen หรือ การตรวจหาเชื้อไวรัสด้วยวิธีการเก็บตัวอย่างจากทางจมูก และน้ำลาย ให้เป็นชุดตรวจที่ประชาชนสามารถซื้อมาตรวจหาเชื้อได้เองที่บ้าน โดยคาดว่าจะมีราคาอยู่ที่ ชุดละ 300-400 บาท มติดังกล่าวเพื่อลดความแออัด และบรรเทาความเดือนร้อนจากความยากลำบากของประชาชน ที่ต้องต่อคิวรับการตรวจหาเชื้อ รวมถึงเป็นการช่วยเจ้าหน้าที่ตรวจหาเชื้อเชิงรุกได้รวดเร็วขึ้น โดยกองควบคุมฯ จะเสนอให้ อย. รวมถึง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข พิจารณาให้ความ เห็นชอบในวันนี้ (12 ก.ค.)
          กทม.เปิด 6 จุดตรวจโควิดฟรี
          กทม. แจ้งหน่วยบริการตรวจเชิงรุก โควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพฯ วันที่ 12 ก.ค. 64 ตั้งแต่เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป ดังนี้
          กลุ่มเขตกรุงเทพกลาง เขตดุสิต บริเวณลานจอดรถ ศบส.38 (จี๊ด ทองคำ บำเพ็ญ), กลุ่มกรุงเทพเหนือ เขตลาดพร้าว บริเวณโลตัส สาขาเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา, กลุ่มกรุงเทพตะวันออก เขตมีนบุรี บริเวณสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา, กลุ่มกรุงเทพใต้ เขตสวนหลวง บริเวณวัดยาง ถนนอ่อนนุช, กลุ่มกรุงธนเหนือ เขตบางพลัด บริเวณลานใต้สะพานพระราม 8, กลุ่มกรุงธนใต้ เขตราษฎร์บูรณะ บริเวณวัดราษฎร์บูรณะ
          เอกสารและอุปกรณ์ที่ต้องใช้-บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง พร้อมสำเนา 2 ใบ- ปากกาสีน้ำเงินส่วนตัว เพื่อใช้ลงทะเบียน (เลี่ยงการสัมผัสหรือส่งต่อ)
          เตรียมฉีดเข็ม 3 "แอสตร้าฯ" ให้หมอ
          นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยระหว่างแถลงความ คืบหน้าการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อ โควิด-19 บูสเตอร์ โดส (Booster dose) ว่า กรณีการฉีดวัคซีนโควิด จำนวน 2 เข็ม เพียงพอหรือไม่นั้น เมื่อวันที่ 9 ก.ค. ในการประชุมคณะกรรมการวิชาการ ที่มีอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญจากด้านภูมิคุ้มกันวิทยา ไวรัสวิทยา และผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ ร่วมกันพิจารณา มีความเห็นพ้องว่า การฉีดวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม มีข้อมูลสนับสนุนว่า หลังจากฉีดไประยะหนึ่ง ภูมิคุ้มกันจะลดลง จึงเป็นที่มาของการเสนอให้ฉีดวัคซีนต่างชนิดกระตุ้นเป็นเข็มที่ 3 สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าที่มีความเสี่ยง  มีหน้าที่ให้การดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ที่อาจเป็นชนิดไวรัลเวกเตอร์ ที่เรามีในประเทศคือ แอสตร้าเซนเนก้า หรือชนิด mRNA ซึ่งในอนาคตไม่นานนี้ เราก็จะได้รับการบริจาคเข้ามา คือ วัคซีนไฟเซอร์ ทั้งนี้ ข้อเสนอนี้จะนำไปสู่การพิจารณาของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ในวันนี้ (12 ก.ค.) ซึ่งจะมีรายละเอียดและข้อเสนอแนะออกมา
          นพ.โสภณ ยืนยันว่า คนที่ฉีดวัคซีน มีโอกาสป่วยรุนแรงน้อยกว่าคนที่ไม่ได้ฉีด และเมื่อไวรัสมีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ ในช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค. จากเดิมสายพันธุ์อัลฟา ก็เป็นเดลตา ทำให้การป้องกันของซิโนแวค อาจ ไม่ได้ผลดีเท่ากับการป้องกันเชื้อเดิม
          ดังนั้น ผู้รับวัคซีนซิโนแวค 2 เข็มโดยเฉพาะบุคลากรแพทย์ด่านหน้า ก็ควรได้รับวัคซีนกระตุ้น อีก 1 เข็ม จึงได้เตรียมวัคซีน แอสตร้าเซนเนก้า ที่สามารถดำเนินการในสัปดาห์หน้า เพื่อฉีดเป็นเข็มที่ 3 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้สูงขึ้น ส่วนผู้ที่ประสงค์ฉีดวัคซีนชนิด mRNA เช่น วัคซีนไฟเซอร์ จะต้องอีกระยะหนึ่ง
          เปิดลงทะเบียนฉีดวัคซีนให้ผู้สูงวัยอีกรอบ
          นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ สธ. เผยว่าจากวิกฤตการแพร่ระบาดที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล จนนำสู่การล็อกดาวน์ และประกาศเคอร์ฟิวในบางพื้นที่นั้น ตัวเลขน่าเป็นห่วงที่พบก็คือ หากผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปี ได้รับเชื้อจะมีอัตราการเสียชีวิตสูงกว่ากลุ่มอื่นอย่างมีนัยยะสำคัญ ดังนั้น จึงเป็นที่มาของการ เร่งปูพรมฉีดวัคซีน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่กลุ่มผู้สูงวัยที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปอย่าง เต็มกำลัง
          ดังนั้น ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ จึงเตรียมเปิดให้ผู้สูงวัยที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปี ขึ้นไป สามารถลงทะเบียนเข้ารับการฉีดวัคซีน ได้ที่ช่องทางการลงทะเบียนของ 4 ค่ายมือถือ คือ AIS, TRUE, dtac และ NT ภายใต้การสนับสนุนของ กสทช. ตั้งแต่วันที่ 12 ก.ค. 64 เวลา 09.00น.เป็นต้นไป เพื่อเข้ารับการฉีดวัคซีนได้ตั้งแต่วันศุกร์ 16-31 ก.ค. 64 ช่วงเวลา 09.00-17.00 น. โดยช่องทางการจองของแต่ละค่าย ประกอบด้วย
          AIS:www.ais.th/vaccine, True : ระบบ USSD กด *707#โทรออก เฉพาะเลขหมายทรูมูฟ เอช เท่านั้น, เว็บไซต์ vaccine.trueid.net และ QR Codeที่สามารถสแกนได้จากสื่อในทรูวิชั่นส์ และสื่อประชาสัมพันธ์ในช่องทางต่างๆ ของทรู ทั้งนี้ผู้สนใจ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-700 9022 หรือ www.truecorp.co.th
          dtac : dtac app และ https://www.dtac.co.th/vaccine/registration/
          NT : https://covid19vaccine.ntplc.co.th
          ส่วนกลุ่มผู้สูงอายุตั้งแต่ 75 ปีขึ้นไป ที่ไม่สะดวกลงทะเบียนผ่านช่องทางออนไลน์ สามารถเดินทางมารับการฉีดวัคซีนได้ที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ประตูที่ 1 ได้ทุกวันตั้งแต่ เวลา 09.00-17.00 น. ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันอาทิตย์ที่ 18 ก.ค. 64.


pageview  1206088    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved