|
|
|
ผู้จัดการรายวัน [ วันที่ 25/12/2563 ] |
|
|
|
|
สหรัฐฯฉีด วัคซีนโควิด แล้วกว่า1ล้านคนเชื่อบรรลุเป้าหมายภูมิคุ้มกันวงกว้างกลางปีหน้า |
|
|
|
|
ชาวอเมริกันมากกว่า 1 ล้านคนได้รับวัคซีนโควิด-19 โดสแรกไปแล้ว ถึงแม้พวกเจ้าหน้าที่ยอมรับว่าการดำเนินการยังคงล่าช้ากว่าตารางเวลาที่กำหนดไว้ อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญแถวหน้าด้านโรคติดต่อของอเมริกาคาดหมายว่า หากทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่น สหรัฐฯน่าจะบรรลุเป้าหมายมีภูมิคุ้มกันในประชากรอย่างกว้างขวางช่วงฤดูร้อนปีหน้า
โรเบิร์ต เรดฟิลด์ ผู้อำนวยการของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ(ซีดีซี) แถลงในวันพุธ(23ธ.ค.) ตั้งแต่เริ่มโครงการฉีดวัคซีนเมื่อ 10 วันก่อนเวลานี้จำนวนผู้ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 โดสแรกแล้ว มีมากกว่า 1 ล้านคน ถือว่าเป็นหลักหมายที่สำคัญ และเป็นความสำเร็จในขั้นต้น
อย่างไรก็ตาม มอนเชฟ สลาอุย หัวหน้าที่ปรึกษาโครงการ Operation Warp Speed ของรัฐบาล ยอมรับว่าเป้าหมายสร้างภูมิคุ้มกันประชาชน 20 ล้านคนใน เดือนนี้ "ไม่น่าจะเป็นไปได้" กระนั้นเขาบอกว่าสหรัฐฯยังคงวางเป้าสร้างภูมิคุ้มกัน 100 ล้านคนในช่วงสิ้นสุดไตรมาสแรกของปี 2021 และอีก 100 ล้านคนในไตรมาส 2
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีการส่งมอบวัคซีน 1 ล้านโดสทั่วสหรัฐฯ โดยที่วัคซีนของไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทค ซึ่งเป็นตัวแรกที่ได้รับการอนุมัติ เริ่มดำเนินการฉีดให้ประชาชนเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ส่วนในสัปดาห์นี้ อเมริกามีเป้าหมายแจกจ่ายวัคซีนของโมเดอร์นา 6 ล้านโดสและอีก 2 ล้านโดสของไฟเซอร์
สหรัฐฯ ชาติที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 หนักหน่วงที่สุดในโลก เวลานี้กำลังเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดที่รุนแรงอย่างมาก ท่ามกลางสภาพอากาศฤดูหนาว
เวลานี้ในสหรัฐฯมีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แล้วมากกว่า 320,000 คน และกลายเป็นสาเหตุลำดับต้นๆของการเสียชีวิตของผู้คนในสหรัฐฯ ในปี 2020 เป็นรองเพียงโรคหัวใจและโรคมะเร็ง
ผู้พักอาศัยถาวรตามบ้านพักคนชราและบรรดาเจ้าหน้าที่สาธารณสุขคือบุคคลลำดับต้นๆที่ได้รับการฉีดวัคซีน ส่วนขั้นต่อไปวางเป้าหมายไปที่คนสูงวัยอายุเกิน 75 ปีและคนงานในภาคที่มีความสำคัญต่างๆ
นพ.แอนโทนี เฟาซี ผู้อำนวยการสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐฯซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อที่ได้รับความเชื่อถืออย่างสูง คาดหมายว่าหากกระบวนการฉีดวัคซีนเป็นไปอย่างราบรื่น บางทีอเมริกาอาจบรรลุเป้าหมายสร้างภูมิคุ้มกันประชาชนอย่างกว้างขวางในฤดูร้อนปีหน้า พร้อมบ่งชี้ว่าคู่รักอาจได้รับอนุญาตให้จัดพิธีแต่งงานได้อย่างเร็วที่สุดคือในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม
เฟาซี เชื่อว่าพลเมืองในลำดับต้นๆ อาทิผู้พักอาศัยอยู่ตามบ้านพักคนชรา, เจ้าหน้าที่สาธารณสุข, คนงานภาคที่มีความสำคัญ, คนชรา, บุคคลที่มีความเสี่ยงสูงน่าจะได้รับวัคซีนครบในเดือนมีนาคมหรือต้นเดือนเมษายน "เราน่าจะเริ่มได้ในเดือนเมษายน ในสิ่งที่ผมเรียกว่า การเปิดฤดูกาลสำหรับวัคซีน กล่าวคือ ทุกคนในประชาชนทั่วไปที่ต้องการรับวัคซีน จะได้รับการฉีดวัคซีน"
เขากล่าวต่อว่า "พอเราเข้าสู่ช่วงกลางหรือช่วงปลายฤดูร้อน ผมเชื่อว่า ถ้าเราดำเนินการอย่างถูกต้อง เราจะมีประชากรที่ได้รับวัคซีนราวๆ 75% ถึง 80% และ เมื่อสิ่งนั้นเกิดขึ้น เรามีจะมีร่มสำหรับปกป้องผู้คนทั้วประเทศ" . |
| | |
|
| |