หมอไพร www.praivechs.com

          หยางกระเพาะและหยางม้ามพร่องดังที่กล่าวมาแล้วว่า การทำงานของม้ามต้องควบคู่ไปกับการทำงานของกระเพาะ ม้ามเป็นอวัยวะยิน เป็นอวัยวะตัน เป็นภายใน ที่มีหน้าที่ในการย่อยและส่งลำเลียงสารอาหารไปเลี้ยงร่างกายสามารถปรับสมดุลหยางของม้ามและกระเพาะ จะไม่
          ส่วนกระเพาะเป็นอวัยวะหยาง เป็นอวัยวะกลวง เป็นภายนอก ที่รับอาหาร คลุกเคล้าย่อยในเบื้องต้น แล้วจึงส่งลงสู่ลำไส้เล็กและม้ามต่อไป ม้ามและกระเพาะจึงมีความเกี่ยวพันกันอย่างแน่นแฟ้น หนึ่งนอกหนึ่งใน หนึ่งยินหนึ่งหยาง หนึ่งขึ้นหนึ่งลง ที่ทำงานร่วมกันอย่างเป็นองค์เอกภาพ
          หยางคือ การมีพลังในการทำงานที่คึกคัก หยางของกระเพาะทำงานดี การย่อยอาหารจึงดี และส่งอาหารลงล่างได้ดี ที่สำคัญส่งผลให้หยางม้ามดี ชี่ม้ามจึงมีแรงดึงขึ้นได้ตามปกติ
          สาเหตุ หยางกระเพาะถูกทำลายมาจาก - ความหนาวเย็น ไม่ว่าจะด้วยอากาศหนาว ใส่เสื้อผ้าเปิดท้อง ทำให้ท้องถูกความเย็น หรือกินน้ำแข็ง กินน้ำปั่น กินไอศกรีมมาก ทำลายหยางกระเพาะ จนหยางพร่อง กระเพาะย่อยอาหารต้องการพลังงาน พลังงานก็คือหยางชี่ จึงจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ พอความหนาวเย็นทำลายหยางชี่ของกระเพาะไปแล้ว การย่อยอาหารจึงทำไม่ได้ดี ชี่ของกระเพาะหยุดนิ่ง อาหารส่งลงไม่ได้ จึงรู้สึกท้องอืด ลำไส้ไม่ขยับ หากยังกินอาหารหนาวเย็นอีก ไม่ยอมหยุด หรือไม่ได้รักษา กระเพาะไม่ใช่อยู่นิ่ง แต่ชี่กระเพาะดันขึ้นบน เกิดอาการเรอ สะอึก กลืนอาหารไม่ลง จุกที่คอหอย ต่างๆ ตามมา โดยเราเองไม่รู้สาเหตุ
          เราพบผู้ป่วยที่ใส่ใจดูแลร่างกายตัวเองมาก กลัวพิษในเนื้อสัตว์ กลัวไขมันในเลือดสูง จึงกินสลัด พืชผักผลไม้มากกว่าการกินธัญพืชและอาหารหลัก ดื่มน้ำปั่นผัก น้ำปั่นผลไม้และน้ำสมุนไพรที่มีฤทธิ์เย็นต่อเนื่องกันนาน เริ่มแรกกินจะรู้สึกดี พอผ่านไปสักระยะหนึ่ง เกิดอาการเรอ ท้องร่วง สะอึก กินข้าวไม่ได้ อ่อนเพลีย ไปหาหมอ บอกว่าเป็น 'กรดไหลย้อน' ร่างกายทรุดโทรมลงอย่างน่าตกใจ ความหนาวเย็นในอาหารทำลายหยางกระเพาะไปมาก กว่าจะปรับสมดุลของยินหยางกระเพาะลำไส้ขึ้นมาได้ บางคนต้องใช้เวลานานพอสมควร
          - จากการกินอาหารอิ่มมากเกินไป หรือปล่อยให้หิวเกินไป จนกระเพาะอ่อนแอ หนาวเย็น ไม่อาจเติมหยางให้แก่ม้ามได้ หยางม้ามพร่องตาม เกิดอาการกินข้าวไม่ได้ ปัสสาวะไม่สะดวก มือเท้ามีเหงื่อ เกิดมีก้อนขึ้น
          อาการ แสดงออกที่. - เวลาถ่ายเริ่มแรกแข็ง จากนั้นเหลว นี่เป็นลักษณะพิเศษของกระเพาะถูกความหนาวเย็น ในช่วงเวลานี้หากรักษาทันเวลาและถูกวิธี กระเพาะอบอุ่นขึ้น การทำงานของม้ามสามารถกลับมาเป็นปกติได้ แต่ถ้าไม่ได้รักษา หรือรักษาผิด กระเพาะยังหนาวเย็นต่อไป
          - โรคจะลึกเข้าสู่ม้าม ทำให้ม้ามหนาวเย็น กลายเป็นหยางม้ามพร่อง เป็นโรคไท่ยิน ทำให้เกิดอาการท้องอืดแน่น ปวดเป็นบางครั้ง ถ่ายเหลว อันเป็นอาการที่ชี่ม้ามไม่ดึงขึ้นตามมา กลายเป็นหยางกระเพาะและหยางม้ามพร่องทั้งคู่
          ในทางตรงข้าม หากม้ามหยางไม่พอ ก็ส่งผลให้กระเพาะหยางไม่พอได้เช่นเดียวกัน ถ้าอาการไม่หนัก สามารถปรับสมดุลหยางของม้ามและกระเพาะ จะไม่ทำให้เกิดโรค แต่ถ้าหนักหน่วงขึ้น จากม้ามหยางพร่องลามไปสู่กระเพาหยางพร่อง กลายเป็นกระเพาะลำไส้พร่องหนาวเย็น
          เมื่อจำแนกได้ว่าโรคเกิดจากกระเพาะ แล้วลามไปที่ม้าม ต้องรักษาจากกระเพาะเป็นจุดหนัก ม้ามเป็นรอง ถ้าโรคเกิดจากม้ามลามไปยังกระเพาะ ต้องรักษาจากม้ามเป็นจุดหนัก กระเพาะเป็นรอง
          อาการของกระเพาะและม้ามหนาวพร่อง แสดงออก ดังนี้
          - รู้สึกไม่สบายท้องและหนาวเย็นบริเวณยอดอก หากใช้มือกุมท้อง หรือเอาผ้าปิดทับ หรือประคบด้วยกระเป๋าน้ำร้อน จะรู้สึกอุ่นสบาย
          - ปวดท้องเรื่อยๆ โดยเฉพาะเวลาอากาศเปลี่ยน หรือกินดื่มอาหารเย็น
          - ชอบเอามือกด ชอบอุ่น - ถ่ายเหลว วันละ 3-4 ครั้ง  - มือเท้าเย็น โดยเฉพาะเวลาอยู่ในห้องแอร์ หรือในฤดูหนาว
          ผู้ที่กระเพาะม้ามหนาวพร่อง  - มักจะมีน้ำลายมาก เวลานอนชอบมีน้ำลายไหล - อาการเบาๆ ก็คือ อมน้ำลาย - ถ้าหนัก เวลานอนน้ำลายจะหยดจนเปียกหมอน  - ดูลิ้นจะเปียกชื้นเหมือนเอาลิ้นไปชุบน้ำมา ถ้าแลบลิ้นนานจะมีน้ำใสหยดที่ปลายลิ้น
          - พอตื่นเต้นแล้วเหงื่อจะออกที่มือ-เท้า หรือมีอาการปวดท้องต้องอยากเข้าห้องน้ำ
          - หรือพอหิว กินของเย็น อากาศเปลี่ยน จะมีอาการปวดท้อง
          เป็นเพราะสมรรถภาพการทำงานของกระเพาะลำไส้อ่อนแอ หนาวเย็นไม่อุ่น หยุดนิ่ง ไม่ย่อย ไม่ลำเลียง การจัดระเบียบในการขับสารน้ำ ทำได้ไม่ดี
          'คลินิกไพรเวช' เลขที่ 113/61-62
          บ้านบัวทอง ต.บางรักพัฒนา
          อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี สนใจปรึกษาปัญหาสุขภาพ ติดต่อ 'หมอไพร'
          ได้ที่โทร.0-2594-5832 หรือ 08-3001-5832
          โทรสาร 0-2986-5309 อีเมล praivach@hotmail.com
          เวบไซต์ www.praivechs.com