เริ่มกันที่ Super Foods ที่ชื่อ สวิสชาร์ด ผักที่มีรสชาติคล้ายผักโขม แต่มีสารอาหารหลากชนิดคือมีวิตามินถึง 16 ตัว และสารอาหารสำคัญอีกมากมาย แทบไม่มีแคลอรีเลย การกินสวิสชาร์ด 35 แคลอรี จะได้วิตามิน K มากกว่าปริมาณขั้นต่ำที่ควรได้รับต่อวันถึง 300% และได้รับวิตามิน A มากกว่าถึง 100% นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันมะเร็ง ทำให้สายตาดีขึ้น และได้วิตามิน E ที่หาได้ยากจากพืชชนิดอื่นจำนวนมาก ยิ่งไปกว่านั้นไฟโตนิวเทรียน (สารอาหารที่ช่วยระบบภูมิคุ้มกัน ป้องกันโรคต่างๆ) และไฟเบอร์ที่พบในสวิสชาร์ด ยังช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ได้ด้วย

          อัลมอนด์ การรับประทานอัลมอนด์ 23 เม็ดต่อวันจะให้กรด oleic acid ประมาณ 9 กรัม ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อหัวใจมากๆ โดยไขมันไม่อิ่มตัวแบบโมเลกุลเดี่ยวนี้ เป็นที่รู้กันว่าจะเป็นประโยชน์ต่อหัวใจ ทั้งยังช่วยในเรื่องความจำอีกด้วย ซึ่งหนูในการทดลองสามารถหาทางออกจากเขาวงกตได้เร็วขึ้นกว่าครั้งแรก หลังจากมันได้กินกรดตัวนี้เข้าไป และผลดีนี้น่าจะเกิดกับมนุษย์ด้วยเช่นกัน

          พริกหยวก พริกหยวกทุกชนิดอุดมไปด้วยสารแอนตี้ออกซิแดนต์ แต่ชนิดที่ดีที่สุดคือพริกหยวกแดง เหลือง และส้ม สีเหล่านี้ก็มาจากสาร "แคโรตินอย" ที่อัดแน่นอยู่ในเนื้อของพริกหยวกเป็นชนิดเดียวกันกับที่อยู่ในมะเขือเทศ และแครอตด้วย สารแคโรตินอยนี้มีประโยชน์มากมาย ตั้งแต่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันอันตรายจากแสงแดด และลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งหลายๆ ชนิด

          ควินัว ควินัวเป็นเมล็ดพืชประเภทข้าวชนิดหนึ่ง ซึ่งหาซื้อยากในเมืองไทยแทบไม่มี ควินัวให้สารอาหารมากกว่าเมล็ดพืชชนิดอื่นใดบนโลกนี้ มันมีไฟเบอร์มากกว่าข้าวกล้องถึงสองเท่า และมีกรดอะมิโน แอซิด ซึ่งร่างกายจะนำมาสร้างเป็นโปรตีน นำไปใช้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย

          อะโวคาโด ผลไม้ชนิดนี้มีวิตามินที่สำคัญต่อร่างกายมนุษย์สูงกว่าผลไม้อื่นๆ นั่นคือ วิตามินอี ช่วยบำรุงผิว ชะลอวัย และช่วยไม่ให้เป็นหมัน วิตามินซีช่วยป้องกันหวัดและเลือดออกตามไรฟัน วิตามินเอ (เบต้าแคโรทีน) ช่วยบำรุงสายตา และยังมีโปรตีนสูงกว่าผลไม้สดอื่นๆ ให้ค่าพลังงานความร้อนต่อร่างกายสูง แต่มีปริมาณคาร์โบไฮเดรตต่ำ ไขมันของอะโวกาโดอยู่ในจำพวกโมโนอันแซตตูเรตเทต โอลีอิกแอซิด ซึ่งเป็นประโยชน์ในการลดกรดไขมันในเส้นเลือด คนที่เป็นกรดไขมันในเลือดสูงก็บริโภคผลไม้ชนิดนี้ได้และใช้ลดน้ำหนักได้ดี เพราะปริมาณคาร์โบไฮเดรตต่ำ

          นอกจากบรรดาพืชผักที่กล่าวมาแล้วข้างต้นยังมี Super Foods ที่เราๆคุ้นเคยอย่าง ไข่, โยเกิร์ต, เกรพฟรุต, กระเทียม และชาเขียว รวมอยู่ด้วย

          ด้าน Super Fruits ที่อยากจะแนะนำทับทิมประเภทแรกก็คือ ทับทิม จากการวิจัยทางการแพทย์ของสหรัฐอเมริกา พบว่าในน้ำทับทิมมีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด และมีประสิทธิภาพสูงมาก สามารถลดภาวะการแข็งตัวของเส้นเลือด จากไขมันในเลือดสูงได้ และยังทำให้เส้นเลือดที่หนาตัวและมีไขมันสะสม มีความหนาตัวลดลง และลดไขมันที่สะสมลงอีกด้วย ผลงานวิจัยดังกล่าวนี้เป็นรายงานใหญ่ที่ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ที่เชื่อถือได้

          จากการทดลองในผู้ป่วยน้ำทับทิมมีคุณสมบัติ ลดความดันโลหิตได้เล็กน้อยอีกด้วย คือลดได้ประมาณ 5% ในผู้ป่วยที่ความดันโลหิตสูง ซึ่งทานน้ำทับทิมวันละ 50 ซีซี เป็นเวลา 2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตามถ้าเราไม่ต้องการผลนี้ก็ไม่จำเป็นต้องทานมากขนาดนั้น สารต้านอนุมูลอิสระในทับทิม ยังบำรุงตับ โดยมีรายงานการให้สารจากทับทิมในหนูทดลองก่อนที่จะให้สารพิษคาร์บอนเตตราคลอไรด์ต่อตับ พบว่าหนูที่ได้รับสารจากทับทิมมีฤทธิ์ป้องกันการเป็นพิษต่อตับได้จริง (Hepatoprotective effect) ยังมีงานวิจัย ด้วยน้ำทับทิม ทั้งในรูปน้ำสดและผ่านการหมักต่อเซลล์มะเร็งหน้าอกของคน (Human breast cell) พบว่ามีฤทธิ์ในการ ยับยั้งของเซลล์มะเร็งได้จริงอีกด้วย นอกจากนี้ทับทิมยังมีสรรพคุณในการบรรเทาโรคหัวใจ และความดันโลหิตสูง ช่วยเพิ่มพลัง เพิ่มความงาม และประโยชน์อื่นอีกมากมาย

          ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ผลไม้ในกลุ่มเบอร์รี่มีมากมาย เช่น บลูเบอร์รี่ ราสพ์เบอร์รี่ แบล็กเบอร์รี่ แครนเบอร์รี่ สตรอว์เบอร์รี่ เป็นต้น สีจัดจ้านของผลไม้กลุ่มนี้ใช่ว่าจะดูเพียงน่ารัก น่ารับประทานแต่เปี่ยมไปด้วยคุณค่ามหาศาล จากการศึกษาวิจัยพบว่าหนูที่เป็นมะเร็งช่องปาก หลอดอาหาร ลำไส้ใหญ่ ถ้ากินแบล็กราสพ์เบอร์รี่เป็นประจำแล้วมะเร็งจะลดลงครึ่งหนึ่ง เมื่อเทียบกับหนูที่ไม่ได้กินเบอร์รี่เป็นประจำ

          นอกเหนือไปจากฤทธิ์ต้านมะเร็ง เบอร์รี่ยังขึ้นชื่อว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระตัวยงเลยทีเดียว และเบอร์รี่แต่ละชนิดก็จะมีฤทธิ์ต่างกันเล็กน้อยในด้านผลดีต่อสุขภาพ เช่น บลูเบอร์รี่จะเด่นด้านสุขภาพตา ช่วยป้องกันต้อกระจกหรือต้อหิน ป้องกันการติดเชื้อของกระเพาะปัสสาวะ และอาจมีสรรพคุณช่วยลดน้ำตาลในเลือด

          สตรอว์เบอร์รี่จะเด่นด้านบำรุงและป้องกันระบบทางเดินอาหาร เป็นต้น แต่โดยรวมๆ สารต้านอนุมูลอิสระ อันหลากหลายในเบอร์รี่จะมีส่วนช่วยในการเพิ่มการทำงาน และลดการอักเสบของหลอดเลือด อันเป็นสาเหตุของโรคหัวใจและหลอดเลือด รวมทั้งโรคทางระบบประสาทและสมอง มีงานศึกษาวิจัยเบื้องต้นเกี่ยวกับสตรอว์เบอร์รี่ว่าผลไม้ชนิดนี้อาจจะช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์ หรือโรคที่เกี่ยวเนื่องกับความเสื่อมของระบบประสาทได้

          รู้อย่างนี้แล้วจะช้าอยู่ไยรีบออกไปหาซื้อมารับประทาน เพื่อสร้างเสริมสุขภาพให้แข็งแรงกันโดยด่วนเถอะ...