อาการปวดศีรษะข้างเดียว บางครั้งจี๊ดขึ้นสมอง ตาพร่ามัว กับคลื่นไส้ อีกต่างหาก นั่นคือ "ไมเกรน" ที่มักมาเยือนศีรษะคุณแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
          หลายคนพึ่งยาแก้ปวด ทว่าหลังๆ เริ่มเอาไม่อยู่และที่สำคัญ ไม่อยากเพิ่มสารเคมียาในร่างกายให้ตับไตเพลียอีกต่อไป
          "การฝังเข็มรักษาไมเกรน" จึงเป็นอีกทางเลือกน่าสน ซึง นพ.พศิน จิรภัทรธนทัต ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์แผนจีน มาให้ข้อมูลความรู้ค่ะ
          ประจักษ์มากับตัวมาดามเองเลยค่ะ จากการทรมานปวดไมเกรนมานานนม เอะเอะอะไรก็ยัดยาแก้ปวด-คลายกล้ามเนื้อ ทว่าพักหลังเริ่ม เอาไม่อยู่ กินยาหลับแล้วตื่นมายังปวดหัวต่อ กระทั่งตัดสินใจไปฝังเข็ม ปักกลางหัวปั๊บอาการปวดตุ๊บๆ หายทันที ทำไมอานุภาพการฝังเข็มอเมซิ่งขนาดนี้!?
          ประเด็นนี้ต้องให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ คุณหมอพศิน จิรภัทรธนทัต Alternative Medicine Director ประจำเฮอร์ทิจูด คลินิก ซึ่งสำเร็จการศึกษาจาก Shanghai University of Traditional Chiness Medicine มาอธิบาย โดยไล่เรียงให้เข้าใจความเป็นไมเกรนก่อนว่าเป็นโรคประสาทอัตโนวัติ
          ปวดหัวอัตโนวัติ เกิดเอง หลายสาเหตุ ไม่หายขาด
          "มาจากระบบประสาทอิสระ Autonomic Nervous System ครับ คือเป็นของมันเอง
          ไมเกรนเกิดขึ้นจากสาเหตุหลายอย่าง และเป็นโรคที่ไม่หายขาด คนที่เป็นแล้ว ก็จะเป็นอีกซ้ำแล้วซ้ำอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาเจอปัจจัยกระตุ้น ได้แก่อากาศเปลี่ยนแปลงหรือช่วงที่มีความเครียด ไม่ว่าจะเป็น ความเครียดด้านร่างกาย หรือจิตใจ
          ด้านร่างกายเช่น เจ็บป่วย ด้านจิตใจก็อย่างเช่น อกหักรักคุด และกระทั่งช่วงมีประจำเดือนด้วย เพราะประจำเดือนเป็นความเครียดอย่างหนึ่งของผู้หญิง"
          แต่ละคนที่เป็นสาวกไมเกรนต่างมีปัจจัยชักนำไม่เหมือนกัน บางคน แค่ได้กลิ่นฉุน แสงไฟกระพริบ หรือเจออาหารที่กระตุ้น อย่าง ไวน์แดง ผงชูรส เนย นม ช็อคโกแลต กล้วยหอม ส้ม กาแฟ และชา ก็ปวดจี๊ดขึ้นสมองปวดตึ๊บแล้ว
          ขณะที่ปัจจัยชักนำของบางคนเป็นเรื่องฮอร์โมน อาทิ นอนไม่พอ ตอนตั้งครรภ์ระยะเริ่มแรก หรือสาวที่กินยาคุมกำเนิดเป็นประจำ
          ปวดทรมาน เนิ่นนาน พร้อมของแถม
          อาการปวดไมเกรนมักจะปวดศีรษะข้างเดียว อาจจะสลับซ้ายขวาได้ ลักษณะปวดเป็นแบบตุ๊บๆ น้อยรายที่จะปวดพร้อมกันสองข้าง
          "อาการปวดไมเกรนจึงมักจะปวดศีรษะข้างเดียว ยังมักปวดบริเวณหน้าผาก รอบดวงตา ขมับและขากรรไกร" คุณหมอพศิน กล่าวว่า คนไข้จำนวนไม่น้อยมีอาการอื่นร่วมด้วย
          บางคนปวดศีรษะมากจนไม่สามารถทำงานได้ เรียกว่าปวดข้ามวันข้ามคืน ยาวต่อเนื่อง 4-72 ชั่วโมงก็มี
          "อย่างที่บอกครับว่าหาสาเหตุที่แท้จริงไม่ได้ แต่เชื่อว่าสมองของผู้ป่วยที่เป็นไมเกรนมีการไวในการตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งอาจจะอยู่นอกร่างกาย หรืออยู่ภายในร่างกายทำให้หลอดเลือดมีการอักเสบ เมื่อหลอดเลือดขยายจึงปวดศีรษะ" ไม่อยากกินยาแก้ปวดฝังเข็มคือทางเลือก
          แน่ละ ปฏิกิริยาแรกเมื่อปวดศีรษะ คนเรามักคว้ายาแก้ปวดมากิน แต่ประเด็นคืบางคนกินยาบ่อยครั้งเข้า เสมือนยานั้นไม่สสามารถระงับอาการปวดได้ ขณะที่อีกหลายคนกังวลกลัวเรื่องภัยร้ายของการกินยามากเกินไป
          "ไมเกรนเป็นโรคที่ต้องคอยควบคุมมันเอาไว้ ผังเข็มมันจะช่วยในกรณีคนไข้เป็นบ่อยเหลือเกิน ไม่อยากกินยาแล้ว กินยามากไปจะเป็นไรหรือเปล่า " คุณหมอพศินมือฝังเข็ม ย้ำว่า
          "การฝังเข็มจึงเป้น Atlernative Treatment การรักษาทางเลือกให้คนไข้ดีขึ้น โดยไม่ต้องกินยา และไม่มีข้อเสียเหมือนกินยา
          จุดหลักสำคัญที่ฝังเข็มลงไป คือ บนศีรษะ ตรงกลางหัว ข้างที่ปวดขมับที่ปวด ตามจุดฝังเข็มซึ่งเป็นจุดลมปราณ เพือ่ไปกระตุ้นการไหลเวียนเลือดของบริเวณนั้น ให้มีการไหลเวียนที่ดีขึ้น ส่วนจุดอื่นๆ ที่เป็นจุดเสริม อาทิ ท้ายทอย ฝ่าเท้า ฯลฯ หมอจะฝังเข็มไปตามสภาพร่างกายของคนไข้นั้นๆ"
          จิ้มปั๊บ หายปวดปุ๊บ อยากหายขาด ต้องดูแลสุขภาพ
          คุณหมอพศิน เผยว่า ปกติใช้ประมาณ 5-6 เข็ม และใช้เวลาราวครึ่งชั่วโมง อาจมีการกระตุ้นด้วยมือ หรือกระตุ้นด้วยกระแสไฟฟ้าอ่อนๆ
          "จากประสบการณ์เรื่องไมเกรน ฝังแค่ 1-2 ครั้งก็ดีขึ้นแล้ว อาการปวดลงลง ไม่ถี่ขึ้น"
          ทว่าโดยทั่วไป แนะนำให้ผู้ป่วยขยันไปหาหมอฝังเข็มอย่างต่อเนื่องสัก 3-5 ครั้ง พร้อมหมั่นดูแลสุขภาพ การอิ่มหลับสนิท ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ไมเกรนจะไม่อยากมาหาคุณอีกเลย
          "การฝังเข็มเป็นการช่วยบรรเทาอาการ แต่ถ้าคนไข้ยังอยู่ในสภาพสิ่งแวดล้อมเหมือนเดิมก็อาจเป็นอีกได้ ส่วนเรื่องหายขาดไปเลยนั้น ต้องขึ้นกับสภาพร่างกายคนไข้ ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ สภาพแวดล้อมที่อยู่ และปัจจัยอารมณ์ความเครียดด้วย"
          สำคัญ ก่อนฝังเข็มต้องกินอิ่มนอนพอ
          คุณหมอพศิน กำชับว่าก่อนไปฝังเข็ม ต้องนอนหลับมาให้พอ กินมาให้อิ่ม มิฉะนั้นอาจเกิดอาการเมาเข็มได้
          "ก่อนฝังเข็ม ต้องพักผ่อนให้เต็มที่ ทานอาหารมาก่อน อย่าอดอาหารมา อย่าอดนอน หากไม่ได้พักผ่อนมาพอเพียงและท้องว่าง อาจเกิดอาการ "เมาเข็ม" ได้ คือ มีอาการความดันตก คลื่นไส้ อาเจียน
          เวลาโดนเข็มจิ้ม บางคนขึ้นเขียว เพราะไปโดนเส้นเลือด ก็บวมช้ำนิดหน่อย เป็นเรื่องปกติ ไม่ได้ถือว่าหนักหนาสาหัสอะไร โดยทั่วไปแพทย์ทุกคนพยายามหลบหลีก ไม่ให้โดนเส้นเลือดข้างใน" และเมื่อฝังเข็มเสร็จ บางคนอาจรู้สึกปวดหน่วงๆ
          "แสดงว่าเกิดจากกล้ามเนื้อตึง  เป็นอาการปกติครับ อาจจะปวดหน่วงๆ สัก 1 คืน ตื่นเช้ามาก็เป็นปกติ"
          แพทย์แต่ละท่านต่างมีวิธีการฝังเข็มไม่เหมือนกัน บางท่านจิ้มแค่ 1-2 เข็มพอ ขณะที่บางท่านอาจใช้เข็มเยอะหน่อย เป็นร้อยเข็มก็มี
          "ขึ้นอยู่กับเทคนิคของแต่ละคน" คุณหมอพศิน พูดข้อเท็จจริงให้สบายใจ ทว่าสิ่งสำคัญคือต้องเป็นแพทย์ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญจริง มีใบประกอบโรคศิลป์พร้อม "ต้องพิจารณาดูว่าตัวคุณหมอมีใบประกอบโรคศิลป์อย่างถูกต้องหรือเปล่า มีการศึกษามาจริงไหม และสถานที่คลินิกมีความปลอดภัย ได้รับการรับรองอย่างถูกต้องไหม"
          ค่ะ อย่ามัวแต่เชื่อป้ายหน้าร้าน และดิ่งเข้าไปให้หมอตี๋จิ้มมั่วซั่ว... ...
          เพราะหากเกิดข้อผิดพลาดจากแค่ปวด จะกลายเป็นป่วยเปื่อยปวกเปียกไปเลย.. หมอฝากเตือนค่ะ