นับวันผู้หญิงยุคใหม่ก็ยิ่งแต่งงานกันช้าลงและน้อยลง ซึ่งแม้จะเป็นทิศทางที่น่าเป็นห่วง แต่ก็เป็นเรื่องที่ไร้ทางออก ในเมื่อการงานและความมั่งคั่งอาจตอบโจทย์ได้ดีกว่าการหาสามี ขณะที่ผู้ชายก็มีทิศทางจะหันไปหาคนเพศเดียวกันมากขึ้นเช่นกัน
          อย่างไรก็ดี สิ่งที่บรรดานักวิทยาศาสตร์ออกอาการเป็นห่วงนั้น ไม่ใช่การตัดสินใจเรื่องโสดหรือคานของผู้หญิง แต่เป็นการตัดสินใจมีบุตร ที่ยิ่งเสี่ยงมากขึ้นไปตามอายุของแม่มือใหม่
          ความกังวลดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่มีการเปิดเผยว่าผู้หญิงยุคใหม่เริ่มมีบุตรคนแรกกันช้าลง โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศองค์กรเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (โออีซีดี)ซึ่งมีค่าเฉลี่ยออกมาว่าผู้หญิงในกลุ่มนี้จะเริ่มมีบุตรคนแรกกันระหว่างอายุ27.8 ปี
          ส่วนผู้หญิงที่ครองสถิติเป็นคุณแม่ในวัยสาว(เหลือน้อย)ที่สุด ก็คืออังกฤษและเยอรมนี สองประเทศที่มีเศรษฐกิจแข็งแกร่งในลำดับต้นๆ ของยุโรป ซึ่งมีสถิติเป็นคุณแม่มือใหม่ในวัย 30 ปี โดยเฉพาะอังกฤษนั้นถือเป็นระดับอายุที่เพิ่มขึ้นมาถึงเกือบ 2 ปีจากตัวเลขเมื่อปี2538
          สถาบันสูตินรีแพทย์ รอยัลคอลเลจ ในอังกฤษ ได้ออกโรงเตือนว่าแนวโน้มที่กำลังเพิ่มขึ้นในกลุ่มผู้หญิงยุคใหม่นี้ อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อสุขภาพของทารกน้อยในครรภ์มากขึ้น โดยเฉพาะความเสี่ยงที่จะเป็นโรคดาวน์ซินโดรม ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นกับแม่ที่อายุ 35 ปีขึ้นไป
          นอกจากปัญหาความผิดปกติของโครโมโซมที่นำไปสู่ภาวะดาวน์ซินโดรมแล้ว ยังรวมไปถึงปัญหาอื่นๆที่เกี่ยวกับการคลอดได้ยากขึ้น เช่น ปัญหารกพันกัน เป็นต้น
          ผลสำรวจในกลุ่มโออีซีดี ระบุว่า ผู้หญิงอังกฤษส่วนใหญ่มักจะรอเวลาถึง 5 ปี กว่าจะพร้อมมีบุตรคนแรกสวนทางกับสาวอเมริกันที่พร้อมเป็นแม่คนตั้งแต่อายุเฉลี่ย 25 ปี
          ส่วนสาวแดนน้ำหอมนั้นมักจะพร้อมมีลูกคนแรกเมื่ออายุ28.5 ปีขณะที่บรรดาผู้หญิงในเขตหนาวจัดแถบสแกนดิเนเวียจะพร้อมเมื่ออายุเฉลี่ย 28 ปี
          โออีซีดีนั้นถือเป็นกลุ่มชาติอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก ดังนั้น จึงอาจสรุปได้ว่าอังกฤษและเยอรมนี ซึ่งเป็นแม่คนช้าที่สุดในโออีซีดีนั้น ยังอาจได้ชื่อว่าเป็นแม่คนช้าที่สุดในโลกด้วย
          จากสถิติในอังกฤษพบว่า เด็กที่เกิดใหม่ปีละเกือบ 3.5 แสนคน เกิดจากแม่ที่อายุมากกว่า 30 ปี และในจำนวนนี้ราว 2.8 หมื่นคนมีแม่อายุเกิน 40 ปี ยิ่งกว่านั้นในปี 2553 ยังพบว่ามีเด็ก 141 คน ที่ถือกำเนิดจากแม่ในวัย 50 ปีขึ้นไป
          บรรดาผู้เชี่ยวชาญต่างเชื่อว่าสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้หญิงมีครอบครัวกันช้าลง เป็นเพราะพวกเธอเลือกมหาวิทยาลัยและการงานมาก่อน บางคนเลือกที่จะสร้างฐานะก่อนจะตัดสินใจมีลูก ส่วนอีกหลายคนก็ต้องใช้เวลานานกว่าจะพบผู้ชายที่ทำให้อยากเริ่มต้นครอบครัวด้วย