HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
โพสต์ทูเดย์ [ วันที่ 12/06/2555 ]
ถึงเวลา...'เพิ่มพลังชีวิต'

  เคยสงสัยไหมว่าบางครั้งเวลาที่คนเราเป็นหวัดไม่จำเป็นต้องไปหาหมอ หรือเวลาโดนมีดบาดแล้วทำไมแผลหายเองได้ นั่นเพราะร่างกายมีพลังมหัศจรรย์ในการดูแลและรักษาตนเองโดยอัตโนมัติ และในสมัยก่อนกลไกในการดูแลรักษาสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ในปัจจุบันสภาวะสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง มลพิษ อากาศที่ไม่บริสุทธิ์ รวมถึงพฤติกรรมการดำเนินชีวิตต่างๆ เช่น ละเลยการออกกำลังกาย ทำงานหนัก หรือเครียดมากเกินไป พักผ่อนน้อย และการเลือกรับประทานอาหารที่ไม่ถูกต้องตามหลักโภชนาการ ฯลฯ ทำให้ร่างกายต้องใช้พลังงานในการต่อสู้กับสิ่งเหล่านี้ เป็นเหตุให้พลังมหัศจรรย์ในการดูแลซ่อมแซมตนเองถดถอยลดลงหรือทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
          ดังนั้น มนุษย์จึงพยายามเสริมสร้างพลังงานบำบัดในร่างกายด้วยวิธีการต่างๆ เพื่อกระตุ้นการเพิ่มพลังงานในร่างกายให้มีการไหลเวียนของพลังงานธรรมชาติอย่างต่อเนื่องไม่ติดขัด อาทิ การรำชี่กง ไทเก๊ก โยคะ หรือการออกกำลังกายอื่นๆแต่สิ่งสำคัญที่จะช่วยเพิ่มพลังงานในร่างกายให้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้นคือการรู้จักหรือเข้าใจธรรมชาติของกลไกอวัยวะต่างๆ ภายในร่างกายว่าช่วงเวลาใดเป็นช่วงเวลาที่ควรเติมพลังงาน
          ปรียารัตน์ นิธิบุญญาพันธ์แพทย์แผนจีนจาก ALIVE Wellness Solutions ให้ข้อมูลว่าร่างกายจะมีการไหลเวียนของพลังชีวิตผ่านอวัยวะภายใน เรียกว่า "นาฬิกาชีวิต" คือ มีเวลาของแต่ละอวัยวะที่ทำงานอย่างเต็มที่และพึงหลีกเลี่ยงไม่ให้อวัยวะนั้นทำงานหนักเกินไปรวมทั้งเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเสริมสร้างพลังให้อวัยวะภายในแข็งแรง นอกจากนี้วิถีชีวิตที่ผิดเวลา พลังอวัยวะภายในก็จะผิดปกติด้วย จึงควรดูแลและเติมพลังให้กับร่างกายในแต่ละช่วงเวลาของวัน ช่วงเวลาเช้า
          ปรียารัตน์ แนะนำว่า ตี 3 ถึงตี 5 เป็นช่วงเวลาของปอด จึงควรตื่นนอนแต่เช้ามืดลุกจากที่นอนเพื่อออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์และรับแสงแดดยามเช้านอกตัวบ้าน ช่วยเติมพลังให้ปอดแข็งแรง แต่หลังตื่นนอนก่อนแปรงฟันทุกครั้งควรดื่มน้ำอุ่นหรือน้ำธรรมดา1-2 แก้วก็ได้ เพื่อช่วยเพิ่มภูมิต้านทานและขับสารพิษในร่างกาย ถ้าตื่นนอนและปฏิบัติเช่นนี้ในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นประจำย่อมทำให้ปอดดี แข็งแรง และผิวดีขึ้น
          ตี 5 ถึง 7 โมง ได้แก่ช่วงเวลาของลำไส้ใหญ่ที่ต้องบีบของเสียออกมา จึงถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการขับถ่าย ถ้าไม่ขับถ่ายในช่วงนี้ ของเสียจะถูกดูดซึมกลับ การขับถ่าย จึงควรทำให้เป็นนิสัยทุกเช้า ถ้ายังไม่ถ่ายให้ดื่มน้ำอุ่น2 แก้ว เพื่อช่วยให้เกิดการขับถ่าย 7 โมงถึง 9 โมง คือช่วงเวลาของกระเพาะอาหารทำงาน ควรรับประทานอาหารมื้อเช้าในช่วงนี้ เพื่อให้กระเพาะอาหารแข็งแรง ถ้าไม่รับประทานอาหารเช้าในช่วงดังกล่าว ของเสียในลำไส้ใหญ่(อาหารเก่า) จะถูกดูดกลับมาที่กระเพาะอาหาร แล้วกลิ่นตัวจะเหม็น ซึ่งถ้าปล่อยให้กระเพาะอาหารอ่อนแอจะส่งผลให้เป็นคนตัดสินใจช้า ขาไม่ค่อยมีแรง และหน้าแก่เร็วกว่าวัยด้วยช่วงกลางวันแพทย์แผนจีน บอกว่า ในช่วงกลางวันสมาธิการทำงานของคนเราเริ่มลดลง ควรชาร์จพลังด้วยอาหารกลางวันที่อุดมด้วยไฟเบอร์ เช่น ผัก ผลไม้สด จะช่วยให้ร่างกายขับสารพิษดีขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเวลา 11.00-13.00 น. ถือเป็นช่วงที่หัวใจกำลังทำงานหนักควรหลีกเลี่ยงความเครียดและเหตุที่จะต้องใช้ความคิดหนัก อาจหาเวลางีบนอนสัก 15-20 นาที เพื่อเติมพลังให้สมองและหัวใจจะได้กลับมาทำงานอย่างกระปรี้กระเปร่า ช่วงเวลาเย็น
          เวลาบ่าย 3 ถึง 5 โมง เป็นเวลาที่ควรทำให้ร่างกายขับเหงื่ออาจโดยการออกกำลังกายหรืออบเซานา จะทำให้กระเพาะปัสสาวะแข็งแรง และไม่ควรอั้นปัสสาวะบ่อยๆ เพราะปัสสาวะจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้เหงื่อที่ออกมามีกลิ่นเหม็นเหมือนปัสสาวะ
          5 โมง ถึง 1 ทุ่ม เป็นช่วงเวลาของไต ควรทำจิตใจให้สดชื่นแจ่มใสอยู่เสมอหากมีอาการง่วงนอนในช่วงเวลานี้แสดงว่าผู้นั้นอาจมีปัญหาเรื่องไตเสื่อมและถ้าลำไส้เล็กมีไขมันเกาะอยู่มาก อาจทำให้อาหารที่อยู่ในรูปของสารละลายซึมผ่านลำไส้เล็กไม่ได้ จึงตกเป็นภาระของไตให้ต้องทำงานหนัก จึงควรรับประทานอาหารบำรุงไตที่มีเกลือต่ำรวมถึงสมุนไพรจีน เช่น เม็ดบัว เป็นต้น
          เวลา 1-3 ทุ่ม เป็นช่วงเวลาของเยื่อหุ้มหัวใจ สิ่งที่ควรทำในช่วงเวลานี้คือการพักผ่อนสบายๆ หรืออาจทำสมาธิ สวดมนต์บริหารกายและใจด้วยก็ได้ แต่ให้งดรับประทานอาหารหรือการออกกำลังกาย เพราะเป็นช่วงที่ร่างกายเริ่มการซ่อมแซมตนเอง
          เวลา 3 ทุ่ม ถือเป็นช่วงเวลาที่ควรเข้านอนที่สุด ควรอาบน้ำอุ่นก่อนนอน จะทำให้ไม่เป็นหวัดและเจ็บป่วยง่าย (อย่างที่โบราณบอกเช้าอาบน้ำเย็น เย็นอาบน้ำอุ่น) และควรนอนแต่หัวค่ำเพื่อที่ตับจะได้ทำหน้าที่ขจัดสารพิษฆ่าเชื้อโรคได้อย่างเต็มที่ ในทางกลับกันถ้านอนดึกไขมันจะพอกสะสมที่ตับ ทำให้ติดเชื้อง่าย
          หมอแผนจีนปรียารัตน์ ย้ำว่า ก่อนนอนหรือก่อนเวลา 5 ทุ่ม ควรดื่มน้ำมากๆเพื่อทำให้ร่างกายไม่ขาดน้ำ เพราะถ้าร่างกายขาดน้ำจะทำให้ถุงน้ำดีไม่แข็งแรง
          สนใจตรวจวัดพลังงานการทำงานของอวัยวะต่างๆ วิตามิน และแร่ธาตุในโครงการ"ตรวจสุขภาพฟรี สุขภาพดีถ้วนหน้า"สอบถามและนัดหมายการตรวจฟรีที่ ALIVE Wellness Solutions โทร. 02-677-7080-2 หรือ www.alivewellnessthailand.com n
 


pageview  1205457    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved