HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
ประชาชาติธุรกิจ [ วันที่ 17/05/2564 ]
ปูพรมวัคซีนเดิมพันเปิดปท. ททท.ดึงนักท่องเที่ยวปลุก10จังหวัด

 ททท.เด้งรับโรดแมปเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวตามกำหนด สั่ง สนง.ต่างประเทศมอนิเตอร์สถานการณ์ดีมานด์ ผนึกเอเย่นต์ทัวร์-สายการบินไดเร็กต์ไฟลต์บูมภูเก็ต ตั้งเป้าตัวเลขนักท่องเที่ยว 3 เดือนแรก  1.29 แสนคน พร้อมแผนกระจายนักท่องเที่ยวสู่ 9 จังหวัด "ภูเก็ต" เปิดแผนเร่งฉีดวัคซีน-พร้อมเปิด 1 กรกฎาคม ด้านกระทรวงสาธารณสุขเปิดไทม์ไลน์รับวัคซีนล็อตใหญ่ 65 ล้านโดส ทยอยเข้าไทย-เร่งสปีดการฉีดสร้างภูมิคุ้มกันหมู่
          หลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประกาศให้การฉีดวัคซีนเป็นวาระแห่งชาติ พร้อมกับย้ำว่า รัฐบาลสามารถจัดหาวัคซีนให้กับประชากรในประเทศได้ทุกคนอย่างแน่นอน เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา ขณะที่กระทรวง สาธารณาสุข (สธ.) ได้เร่งปรับแผนการฉีดวัคซีนเป็นเชิงรุก ปูพรมการฉีดวัคซีน ให้เร็วขึ้นทันที เพื่อให้ครอบคลุมประชาชน ได้มากที่สุด โดยเปิดกว้างทั้งการลงทะเบียน ผ่านแอป และเปิดให้ประชาชนที่ต้องการจะฉีดวัคซีนเดินเข้าไปรับการฉีดได้เลย
          ผนวกกับแผนการจัดหาวัคซีนของรัฐบาลที่จะเริ่มทยอยเข้ามามากขึ้นตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมนี้เป็นต้นไป และในช่วงตั้งแต่เดือนมิถุนายนจนถึงสิ้นปีจะมีวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าเข้ามาเฉลี่ยเดือนละประมาณ 10 ล้านโดส ทำให้ธุรกิจเริ่มคลายความกังวลเรื่องการจัดสรรจำนวนวัคซีนลงไปในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อให้ภูเก็ตสามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยไม่กักตัวตามแผน "ภูเก็ตแซนด์บอกซ์" ในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ และในอีก 9 จังหวัด ที่เป็น พื้นที่เปิดรับนักท่องเที่ยวชาติโดยไม่กักตัวในวันที่ 1 ตุลาคมนี้
          ขณะที่ สธ.เสนอให้มีการผ่อนคลายมาตรการป้องกันควบคุมโควิด-19 และระดับของพื้นที่สถานการณ์ย่อยในพื้นที่ทั่วราชอาณาจักรต่อ โดยเฉพาะมาตรการผ่อนคลายทางเศรษฐกิจผู้ประกอบการบางพื้นที่รายย่อยและรายเล็ก ร้านอาหาร โดยจะผ่อนคลายมาตรการตามระดับของพื้นที่สถานการณ์ย่อย ดังนี้ 1.พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ร้านอาหารสามารถบริโภคในร้านโดยนั่งได้ไม่เกิน 25% หรือโต๊ะ 4 คน นั่งได้ 1 คน ไม่เกิน 21.00 น. สั่งกลับบ้านได้ไม่เกิน 23.00 น. 2.พื้นที่ควบคุมสูงสุด ร้านอาหารบริโภคในร้านได้ ไม่เกิน 23.00 น. งดการจำหน่าย และดื่มสุราในร้าน 3.พื้นที่ควบคุม ร้านอาหาร สามารถบริโภคในร้านได้ตามปกติ งดจำหน่ายและงดดื่มสุราทุกพื้นที่
          วางแผนเจาะลูกค้า Long Haul
          นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ททท.เตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยไม่กักตัวตามโมเดลภูเก็ตแซนด์บอกซ์ ในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ โดยมีแผนด้านการ ตลาดซึ่งเป็นภารกิจหลักนั้น ได้มอบหมาย ให้สำนักงาน ททท.ในต่างประเทศสำรวจ ความคิดเห็น ติดตามสถานการณ์ นโยบาย อนุญาตให้คนเดินทางออกนอกประเทศ ของประเทศต่าง ๆ รวมถึงความต้องการการเดินทางท่องเที่ยวของแต่ละตลาด เพื่อนำมาทำแผนด้านการตลาดร่วมกับบริษัทนำเที่ยวและกลุ่มสายการบิน
          ททท.จะโฟกัสกลุ่มนักท่องเที่ยวระยะไกล (Long Haul)อาทิ ยุโรป อเมริกา ฯลฯ และมุ่งจับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่คุ้นเคยและรู้จักตลาดประเทศไทยแล้วเป็นหลัก และเน้นสื่อถึงนักท่องเที่ยวในต่างประเทศ ให้เห็นถึงความพร้อมในการบริหารจัดการเฉพาะของพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และในอีก 9 จังหวัดท่องเที่ยวที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยว ต่างชาติโดยไม่กักตัวในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ เป็นหลัก
          ผนึกสายการบิน-เอเย่นต์ทัวร์บูม
          นายยุทธศักดิ์กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ ททท.ได้เจรจากับสายการบินบางส่วนไปบ้าง แล้ว ทั้งที่บินตรงเข้าภูเก็ตและสุวรรณภูมิ รวมถึงผู้ให้บริการเครื่องบินเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟลต์) รวมทั้งได้เจรจากับบริษัท ท่าอากาศยานไทย หรือ ทอท. เพื่อเตรียม แผนสำรองด้านการขนส่งนักท่องเที่ยว ต่างชาติเข้าภูเก็ตด้วย ว่าหากศักยภาพ การรองรับของสายการบินที่บินตรงเข้า ภูเก็ตไม่เพียงพอ ทอท.จะจัดสรรพื้นที่บริเวณเทอร์มินอล E9 ไว้สำหรับเป็น ทรานสิตเทอร์มินอล ให้นักท่องเที่ยว เดินทางต่อไปยังภูเก็ต โดยไม่ปะปนกับ ผู้โดยสารอื่น ๆ นอกจากนี้สำนักงาน ททท. ในต่างประเทศยังได้วางแผนร่วมกับ บริษัทนำเที่ยว (เอเย่นต์ทัวร์) เพื่อเตรียม ทำแพ็กเกจทัวร์เสนอขายต่อไป เบื้องต้นวาง แพ็กเกจทัวร์ 7-8 วัน ราคาเฉลี่ย 1.5-2.2 แสน บาทต่อแพ็กเกจ เนื่องจากต้นทุนการท่องเที่ยวหลังโควิดได้ปรับตัวสูงขึ้น
          "ตอนนี้เราได้ดำเนินการไปแล้วบางส่วน รอเพียงแค่ความชัดเจนเรื่องคู่มือมาตรฐานการปฏิบัติงานภายใต้การ ท่องเที่ยวในรูปแบบ new normal ที่เรียกว่า SOP หรือ standard operation procedures ซึ่งต้องผ่านการพิจารณาของ ศบค. อย่างเป็นทางการอีกครั้ง คาดว่า จะสรุปและประกาศใช้ได้ภายในสิ้นเดือน พฤษภาคมนี้ หลังจากนั้นทุกอย่างจะมี ความชัดเจนขึ้น ทั้งในเรื่องดีมานด์ นักท่องเที่ยวและการกำหนดตารางบินของสายการบิน รวมถึงเที่ยวบินเที่ยวเหมาลำด้วย"
          ตั้งเป้า 3 เดือนแรก 1.2 แสนคน
          ผู้ว่าการ ททท.ระบุด้วยว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ ททท. ตั้งเป้า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วง 3 เดือน แรกของการเปิดภูเก็ต (1 ก.ค.-30 ก.ย.) ไว้ประมาณ 1.29 แสนคน หรือประมาณ 3-4 หมื่นคนต่อเดือน พร้อมกันนี้ ททท.ยังเตรียมแผนสำหรับการกระจายนัก ท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าภูเก็ต และพักอยู่ในภูเก็ต ครบ 7 วันตามข้อกำหนด ไปยังเมืองท่องเที่ยวอื่น ๆ ด้วยการทำโปรโมชั่น ร่วมกับสายการบินภายในประเทศ ด้วยการ subsidize หรือให้เงินอุดหนุนบางส่วน สำหรับตั๋วเครื่องบินทุกเส้นทางจำนวน 1 แสนใบ เพื่อสนับสนุนให้นักท่องเที่ยว เดินทางไปท่องเที่ยวและใช้จ่ายในพื้นที่ อื่น ๆ และทำให้พื้นที่อื่น ๆ ได้ประโยชน์จากการเปิดภูเก็ตด้วย
          นอกจากนี้ คณะกรรมการบริหาร (บอร์ด) ททท.ยังได้กำชับให้ทุกภาคส่วนเตรียมความพร้อมด้านแผนการพัฒนาด้านซัพพลายไซด์ เพื่อเตรียมรองรับการท่องเที่ยวในรูปแบบใหม่ตามนโยบายรัฐบาล แผนการกระจายและฉีดวัคซีน และแผนการตลาด สำหรับจังหวัดที่เป็นพื้นที่นำร่องในการเปิดประเทศรับ นักท่องเที่ยวในอีก 9 จังหวัด ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ คือ กระบี่, พังงา, สุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย, พะงัน, เกาะเต่า), เชียงใหม่, ชลบุรี (พัทยา), กรุงเทพฯ, เพชรบุรี, ประจวบคีรีขันธ์ และบุรีรัมย์ ไปพร้อม ๆ กันด้วย โดยมีเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยว รวมสำหรับปีนี้ ที่ 3-4 ล้านคน หรือมีรายได้รวมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 3 แสนล้านบาท
          "ภูเก็ต" ยืนยันความพร้อม
          รายงานข่าวจากจังหวัดภูเก็ตเปิดเผยว่า ภูเก็ตได้รับการจัดสรรวัคซีนสำหรับการฉีดในจังหวัด ประมาณ 200,000 โดส ที่ผ่านมา ได้ระดมฉีดวัคซีนแล้วกว่า 95,000 คน เป็นผู้รับวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 101,325 คน ผู้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม 93,781 คน ยังเหลือประชากรที่ยังไม่ได้รับวัคซีน 321,000 คน โดยตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้เสร็จก่อนสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมิถุนายน ในจำนวน 460,000 คน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ก่อนเปิดรับนักท่องเที่ยว ต่างประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำที่ผ่าน การพิจารณาจาก ศบค.ในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ ขณะนี้ฉีดวัคซีนได้สูงสุดถึงวันละ 15,000 คน และพร้อมจะเพิ่มศูนย์ฉีด วัคซีนเป็น 9 ศูนย์ จากเดิม 5 ศูนย์ หากได้รับวัคซีนตามแผนที่รัฐบาล สนับสนุน
          นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัด ภูเก็ต กล่าวว่า ล่าสุด กระทรวงสาธารณสุข ส่งวัคซีนซิโนแวกมาให้จังหวัดภูเก็ต 200,000 โดส โดยจะเริ่มฉีดวันที่ 18 พฤษภาคม 2564 เพิ่มกำลังการฉีดอีก เท่าตัว และในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2564 จะส่งวัคซีนชิโนแวกอีก 200,000 โดส และต้นเดือนมิถุนายน จะได้วัคซีนแอสตร้า เซนเนก้ามาอีก 140,000 โดส สรุปว่าภูเก็ต จะได้วัคซีนตามแผน Phuket Tourism Sandbox เพื่อเปิดเกาะรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเดือนกรกฎาคม 2564 ได้
          65 ล้านโดสทยอยเข้าไทย
          รายงานข่าวจากกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา กระทรวงได้มีการประชุม เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและชี้แจงความคืบหน้าในการด้านแผนการจัดหาวัคซีน ระบุว่าในเดือนพฤษภาคมนี้ จะมีวัคซีนเข้ามารวมประมาณ 4.2 ล้านโดส แบ่งเป็น ซิโนแวก 2.5 ล้านโดส (รวมวัคซีน บริจาค 500,000 โดส) และแอสตร้าเซนเนก้า 1.7 ล้านโดส จากตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายนที่ผ่านมา มีวัคซีนเข้ามาแล้วทั้งสิ้นประมาณ 2.5 ล้านโดส
          ส่วนในช่วงเดือนมิถุนายน-ธันวาคม 2564 จะมีวัคซีนเข้ามารวมประมาณ 61 ล้านโดส โดยในแต่ละเดือนจะมีวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าเข้ามาเฉลี่ยประมาณเดือนละ 10 ล้านโดส และวัคซีนซิโนแวกอีกจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขจะมีการเจรจากับบริษัทผู้ผลิตวัคซีนเพื่อจัดหาวัคซีนเพิ่มอีกประมาณ 35-37 ล้านโดส
          พร้อมกันนี้ยังได้ประชุมกำหนดแผนการบริหารจัดการวัคซีนโควิด-19 ให้กับกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 100 ล้านโดส ภายในปี 2564 ได้กำหนดและวางแผน การฉีดวัคซีนจำนวนดังกล่าวให้กับ 1.บุคลากรทางการแพทย์ 2.บุคลากรด่านหน้า เช่น อสม. ทหาร ตำรวจ สถานที่กักกัน SQ/ASQ/LQ การบิน ท่าอากาศยาน 3.ประชาชน และเจ้าหน้าที่รัฐ กลุ่มเสี่ยง อาทิ ครู พนักงานบริการโรงแรม ขับรถสาธารณะ ข้าราชการบริการประชาชน พนักงานกำจัดขยะมูลฝอย พนักงานการรถไฟ/รถไฟฟ้า มัคคุเทศก์ ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะ นักธุรกิจที่เดินทางระหว่างประเทศ คนวัยทำงานขับเคลื่อนเศรษฐกิจ 4.นักเรียน นักศึกษาที่ต้องไปเรียนต่อต่างประเทศ 5.คณะผู้แทนทางการทูตและองค์การระหว่างประเทศ 6.ประชาชนผู้มีโรค เรื้อรัง ประชาชนผู้สูงอายุ 7.ประชาชน ทั่วไปในจังหวัดอื่น ๆ อาทิ กรุงเทพฯ เกาะสมุย ภูเก็ต เชียงใหม่ พังงา กระบี่ 8.ต่างชาติและแรงงานต่างด้าว
          "ทั้งหมดนี้จะทยอยเร่งการฉีดให้เร็วขึ้นและเปิดกว้างมากขึ้น เพื่อให้ครอบคลุมและเกิดภูมิคุ้นกันหมู่ตามแผนให้เร็วที่สุด"
          คนไทยฉีดแล้ว 2.1 ล้านโดส
          รายงานข่าวจากกรมควบคุมโรค เปิดเผยความก้าวหน้าการให้บริการฉีด วัคซีน ประจำวันศุกร์ที่ 14 พฤษภาคม ซึ่งเป็นข้อมูล ณ วันที่ 13 พฤษภาคม เวลา 18.00 น. โดยระบุว่า จำนวนการได้รับ วัคซีนสะสมล่าสุด (ตั้งแต่ 28 กุมภาพันธ์- 13 พฤษภาคม) รวม 2,124,732 โดส แบ่งเป็น ผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 1,416,432 ราย และเข็มที่ 2 จำนวน 708,300 ราย และจังหวัด ที่มีร้อยละความครอบคลุมการให้บริการ วัคซีนโควิด-19 สูงสุด เทียบกับประชากร รายจังหวัดตามทะเบียนราษฎร 5 อันดับแรก ประกอบด้วย ภูเก็ต เข็มที่ 1 จำนวน 101,325 คน (25.35%) เข็มที่ 2 จำนวน 93,787 คน (23.46%) สมุทรสาคร เข็มที่ 1 จำนวน 136,760 คน (24.93%) เข็มที่ 2 จำนวน 90,079 คน (16.42%) ระนอง เข็มที่ 1 จำนวน 15,462 คน (8.63%) เข็มที่ 2 จำนวน 6,886 คน (3.84%) ตาก เข็มที่ 1 จำนวน 46,452 คน (8.57%) เข็มที่ 2 จำนวน 33,115 คน (6.11%) และกรุงเทพมหานคร เข็มที่ 1 จำนวน 356,041 คน (6.56%) เข็มที่ 2 จำนวน 118,460 คน (2.18%)
          ขณะที่การจัดสรรวัคซีนโควิดให้หน่วยบริการ (28 กุมภาพันธ์-13 พฤษภาคม) รวม 2,490,656 โดส แบ่งเป็น ซิโนแวก 2,375,566 โดส และแอสตร้าเซนเนก้า 115,090 โดส


pageview  1204945    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved