HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
ประชาชาติธุรกิจ [ วันที่ 23/04/2563 ]
โควิดอยู่เหนือการเมือง ปลดล็อกธุรกิจ รอเปิดประเทศใหม่รับนักลงทุน

  มื่อการแก้ปัญหาการระบาดไวรัส โควิด-19 ถูกยกให้เป็น "วาระแห่งชาติ"ทุกสรรพกำลังของรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถูกระดมมาต่อสู้กับไวรัสมรณะ ภายใต้ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า (โควิด-19) หรือ ศบค. ที่นายกรัฐมนตรีเป็นผู้บัญชาสถานการณ์
          กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ภายใต้การกำกับของ "อนุทิน ชาญวีรกูล" คือมือวางอันดับสองรองจากนายกรัฐมนตรี ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน
          ปัจจัยชี้ขาด จะให้ประเทศล็อกหรือคลายจากล็อก ขึ้นอยู่กับข้อวินิจฉัยของ "วอร์รูมหมอ" ในกระทรวง "ประชาชาติธุรกิจ" สนทนากับ "อนุทิน" policy maker เบอร์ 1 ของ สธ. ถึงการต่อสู้ข้าศึกโควิด-19 และ ฉากอนาคตที่คนจะใช้ชีวิตแบบ new normal
          รวมถึงตอบคำถาม ที่ "นักการเมืองอาชีพ" ถูกลดบทบาทในสถานการณ์วิกฤต เขายืนยันว่าไม่ถูก "ริบอำนาจ"คุมโควิดได้ เพราะทุกคนร่วมมือ
          "อนุทิน" เปิดประเด็นสนทนาว่า โควิด-19 ถือเป็นวาระสำคัญของรัฐบาลที่ต้องมากอบกู้สถานการณ์และป้องกัน ไม่ให้เกิดการระบาดในวงกว้าง ทุกหน่วยงาน มีความสำคัญเท่าเทียมกัน ผลลัพธ์ที่ควบคุมการระบาดได้ ถือเป็นการร่วมมือกัน ระหว่างฝ่ายปกครอง ฝ่ายความมั่นคง และสาธารณสุข
          "สิ่งที่ สธ.ทำได้ถึงปัจจุบัน คือ ควบคุมให้มีการระบาดในวงจำกัด ควบคุมผู้ติดเชื้อ ในแต่ละวันให้ได้น้อยที่สุด และสถานการณ์นิ่งมา 2 สัปดาห์แล้ว แม้จะมีผู้เสียชีวิตบ้าง แต่ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ค่อนข้างมีอาการอื่น ๆ แทรกซ้อน ไม่สามารถทนต่อการลุกลามของโรคได้ แต่ผู้ป่วยส่วนใหญ่เมื่อถึงมือแพทย์อย่างทันท่วงที กว่า 85% หาย"
          "จนขณะนี้มีผู้รักษาหายแล้วมากกว่า ผู้ติดเชื้อ เป็นสิ่งบ่งชี้ได้ว่าโรคนี้มีทางรักษาหายได้ ถ้าผู้คนมีความแข็งแรง เอาใจใส่ ต่อสุขภาพ ยา เวชภัณฑ์ บุคลากรทางการแพทย์ ค่อนข้างมีความพร้อมเพียงพอในการดูแลรักษา อุปกรณ์ต่าง ๆ เราเตรียมเอาไว้ ห้องความดันลบ ห้อง ICU เราเตรียมพร้อม เปรียบเสมือนประเทศที่ระบาดอย่างรุนแรง ทั้งที่ยังไม่มีการระบาดรุนแรง ทำให้เรามีความมั่นใจว่า หากมีวิกฤตเกิดขึ้น เราก็ยังรองรับสถานการณ์ได้"
          ยุคหมอหนูไม่มีปิดข้อมูล
          2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลงจากหลักร้อย เหลือต่ำกว่า 50 ราย ชาวบ้านเริ่ม "กังขา" ในตัวเลขว่าเป็นตัวเลขจริงหรือไม่ "อนุทิน" ตอบว่า ในยุคที่เขาเป็นรัฐมนตรี ข้อมูลทุกชุดต้องเป็น "ข้อมูลจริง" ไม่มีการ "ปกปิด"
          "สิ่งที่ สธ.ยืนยันภายใต้รัฐมนตรีคนนี้ ก็คือ จะต้องให้ข้อเท็จจริง ตัวเลข ข้อมูล บทความต้องอยู่บนความเป็นจริงทั้งหมด ไม่มีปิดบังใด ๆ กับประชาชนแม้แต่น้อย ตัวผมเองมีความเชื่อมั่นว่า เมื่อสถานการณ์อะไรก็ตาม การที่ประชาชนได้รับข้อมูลที่เป็นความจริงมากที่สุด เท่ากับเป็นการป้องกัน ทำให้ทุกคนใส่ใจ ให้ความร่วมมือกับภาครัฐ"
          "สิ่งที่เป็นข้อพิสูจน์ที่ทำให้ประชาชนควรจะไว้วางใจ อย่าได้มีข้อกังขาในเรื่องการรับข้อมูล คือ ประเทศไทย โดย สธ.เป็นประเทศแรกที่ประกาศว่ามีผู้ติดเชื้อ นอกประเทศจีน ถ้ากังวลว่า เราปิด ข้อเท็จจริงเราก็ไม่ควรจะประกาศ"
          "ประเทศไทยตอนมีผู้ป่วยติดเชื้อเริ่มมากขึ้นก็ประกาศ มีผู้ป่วยเสียชีวิตคนแรกก็ประกาศทันที มีผู้ป่วยหายก็ประกาศ ใช้การตรวจ 2 แล็บก็ประกาศ ใช้ตรวจ 1 แล็บ แล้วยืนยันเลยก็ประกาศ เรารักษาค่อนข้างได้ มีเครื่องมือ บุคลากรพร้อม แสดงว่าเราสามารถครอบคลุมดูแลผู้ป่วยในวงกว้างได้"
          หาจุดลงตัวเปิดห้าง-คลายล็อก
          เมื่ออัตราการ "ติดเชื้อ" โควิด-19 ในประเทศเริ่มนิ่ง ภาคธุรกิจขนาดใหญ่ จนถึง SMEs กระทั่งชาวบ้านร้านถิ่น อยากให้รัฐบาลคลายล็อก เปิดห้าง "อนุทิน" ยอมรับว่า ตราบใดที่ยังไม่มี "วัคซีน" รักษา จะใช้ชีวิตตามปกติเหมือนตอนที่ยังไม่มีโรคระบาดไม่ได้
          "ไม่มีรัฐบาลไหนที่จะให้ประชาชนอยู่ในสภาพเช่นนี้ได้เป็นระยะเวลานาน ทำให้ประชาชนไม่ได้รับความสะดวก แต่เนื่องจากการระบาดของโรคระบาดได้ง่ายมากจริง ๆ แค่คนคนเดียวเป็น แล้วไปที่ชุมชนที่มีคนมาก ๆ เช่น สนามมวย ผับ บาร์ ก็จะมีการติดเชื้อก้าวกระโดด เราจึงต้องใช้มาตรการเข้มข้น แต่ พ.ร.ก.ฉุกเฉินไม่นานก็ต้องผ่อนคลายลงไป แต่จะผ่อนคลายหรือไม่ผ่อนคลายอยู่ที่ความร่วมมือของประชาชน"
          "เมื่อเราอยู่ในสภาวะที่นิ่ง เราได้เตรียมการออกมาตรการคลี่คลายสถานการณ์ ต้องดูว่าทำอย่างไรให้หาจุดลงตัว ค่อย ๆ ผ่อนคลาย ต้องดูว่าธุรกิจไหน กิจกรรมไหน ปล่อยได้ก่อน แล้วให้คนทำความเข้าใจ แต่ สิ่งที่สำคัญ การออกกฎระเบียบไม่มีความขลัง มีความศักดิ์สิทธิ์ เท่ากับประชาชนทุกคนเข้าใจในสถานการณ์อย่างลึกซึ้ง และให้ความร่วมมือ"
          "เมื่อผู้คนเห็นแล้วว่า การทำงาน work from home ทำได้ ลดการเดินทาง ทำไมต้องมานั่งประชุมผู้ถือหุ้น ประชุมต่าง ๆ ที่รวมตัวกันมาก ๆ ทำไมไม่ใช้ออนไลน์ ไม่ใช้เทเลคอนเฟอเรนซ์ ที่ผ่านมา 2-3 เดือนเราใช้แบบนี้ ลดการจราจร ลดการแออัด กทม.ไม่มีใครพูดถึง PM 2.5 อีกเลย แม้เราจะสูญเสีย เหนื่อย ถูกโควิดทำลายหลาย ๆ อย่าง แต่เราก็ใช้สถานการณ์นี้หันมามองตัวเองว่าจะปรับปรุงวิถีชีวิตตัวเองอย่างไร"
          "ถ้าเอาพื้นฐานโควิด-19 ออกไป ที่เราสามารถปรับปรุงวิธีทำงาน วิถีการดำรงชีวิตได้ อีกหน่อยร้านอาหารต้องเปิดแน่ การจ้างงานประเภทหาเช้ากินค่ำ ต้องเปิดแน่ แต่สิ่งที่ไม่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต เช่น การสรวลเสเฮฮา ต้องรอไปหน่อย ส่วนห้างสรรพสินค้าต้องหามาตรการจำกัดผู้คนที่เข้าไปในห้าง อย่างน้อยการตรวจไข้ช่วยได้ระดับหนึ่ง ตอนที่คนยังไม่ชินก็ต้องจำกัดจำนวน จำกัดเวลาเป็นรอบ ๆ สิ่งที่สำคัญคือ social distancing ทิ้งไม่ได้ ต้องอยู่ห่างกัน 2 เมตร ใส่หน้ากาก ทำได้ไหม ถ้าทำได้ เปิดห้าง เปิดเลย"
          "ยกตัวอย่างตัวผม ทั้งชีวิตทำไมต้องไปงานเลี้ยง เลี้ยงรุ่นในหลักสูตรต่าง ๆ งานแต่งงาน ทำไมผมไม่ส่งโน้ต ส่งความปรารถนาดีไป ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยกลับบ้านก่อน 1 ทุ่ม เดี๋ยวนี้ 6 โมงเย็น ผมถึงบ้าน กินข้าวก่อนฟ้ายังไม่มืด ได้ออกกำลังกาย นอน 3 ทุ่ม เกิดมาในชีวิตไม่เคยได้นอน 3 ทุ่ม ตั้งแต่เป็นทารก แล้วมั้ง (หัวเราะ) ตื่นตี 5 ออกกำลังกาย 6 โมง 8 โมงครึ่งถึงที่ทำงาน ตื่นมาด้วยความสดใส พักผ่อนเพียงพอ"
          ขอให้คนไทยมองแง่บวก
          "อนุทิน" ขอให้ประชาชนมองสถานการณ์โควิดใน "มุมบวก" ว่า ไทยเมื่อเทียบกับประเทศมหาอำนาจอื่น ๆ เรื่องเศรษฐกิจ เรื่องอาวุธยุทโธปกรณ์ เราไม่มีอะไรเทียบกับเขาเลย แต่ทำไมเรื่องสุขภาพของประชาชนที่สำคัญที่สุดในยุคนี้เราเป็นผู้นำได้ ดังนั้น ต้องมีความหวังว่า มหาอำนาจตะวันตก ตะวันออก ให้ความเชื่อถือประเทศไทยว่ามีระบบสุขภาพ สาธารณสุขที่ดี ดังนั้น อนาคตหลังจากมีวัคซีนรักษาโควิด ระหว่างไปประเทศที่มีระบบสุขภาพดี กับไปประเทศที่ระบบสุขภาพไม่ดี จะไปเที่ยวที่ไหน
          "ยิ่งประเทศไทยสวยงาม คนไทยสามารถรักษามลพิษให้เป็นเหมือนช่วงนี้ได้ โอ้โห...ประเทศไทยก็จะมีแต่คนหลั่งไหล เข้ามา การลงทุนนักลงทุนก็ต้อง เข้ามาประเทศไทย มี EEC ที่ชักชวนให้นักลงทุนเข้ามาลงทุน เราจะเป็นประเทศที่มีความแข็งแรงทุก ๆ ด้าน ไม่ไกลจากนี้ ศักยภาพเรามีอยู่ เมื่อมีการร่วมมือแบบส่วนรวมขึ้นมาเป็นพลังที่เราสามารถทำอะไรก็ได้ สุขภาพที่ดีสำคัญกว่าการมีธนาคารที่ใหญ่ที่สุด มีอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุด มีเทคโนโลยีที่ดีที่สุดเพราะจะมีความหมายอะไร ถ้าคนไม่มีสุขภาพที่ดี"
          วิกฤตโควิดอยู่เหนือการเมือง
          ทว่าในสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 นักเลือกตั้ง-พรรคร่วมรัฐบาล ถูกกีดกันออกจากวงโคจร พล.อ.ประยุทธ์รวบอำนาจ
          "อนุทิน" ตอบทันที อย่าไปมโนว่าถูกรวบอำนาจ คนสติดีคนไหนอยากรวบอำนาจในช่วงวิกฤต เป็นไปไม่ได้ นี่เป็นการร่วมกันทำงาน ดูสิมีอะไรที่ถูกรวบที่ต่างคนต่างทำ...ไม่มี ถ้าไม่มี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ผมรับผิดชอบอยู่คนเดียวจะขอเจ้าหน้าที่ตำรวจสัก 100 คน ทำได้ไหม เวลามีคนไม่ยอมให้กักตัว จะขอให้เขาไปปิดจังหวัด ตั้งด่าน ทำได้ไหม
          "คนไปพูดนายกฯรวบอำนาจ ท่านประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินแค่ 30 วัน จะไปรวบอำนาจทำไมแค่ 30 วัน ต่ออายุ... ถามว่าจะใช้ถึง 4 ปีไหม คอการเมืองก็ไปคิดอะไรที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่ใช่แล้ว เป็นการร่วมมือทำงานอย่างดีที่สุด"
          แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า มีบางทีมที่ถูกจัดการ เช่น ทีมหน้ากากของกระทรวงพาณิชย์ ถูกลดบทบาท "อนุทิน" ตอบว่า หลักพระพุทธเจ้า ใครทำอะไรไว้ก็รับผิดชอบ ในสิ่งที่ตนเองกระทำ ถ้าเรามั่นใจว่าเรา ไม่ได้ทำในสิ่งที่มันผิด มั่นใจว่าทำทุกอย่าง ในสิ่งที่ถูกต้องเพื่อส่วนรวม เราก็จะไม่มีการเพลี่ยงพล้ำ ควรจะยินดีที่ให้มีการตรวจสอบ เพราะจะพิสูจน์ว่า เราได้ทำทุกอย่างเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม
          "ไม่มีใครดีใจเท่าผมหรอก เพราะผมเป็น รมว.สาธารณสุข การที่ควบคุมการระบาดได้ ผมต้องขอบคุณท่านนายกฯ ขอบคุณรัฐมนตรีทุกคน ขอบคุณแพทย์ พยาบาล ข้าราชการ ที่สามารถทำให้เราควบคุมสถานการณ์นี้ได้ และ สธ.จะเป็นหน่วยงานที่ประชาชนไว้วางใจ"
          "และเรื่องนี้เหนือการเมืองแล้ว จะไปคิดเรื่องเกมการเมือง ชิงไหวชิงพริบทางการเมือง ถ้าคิดแบบนั้นก็...แย่เต็มทน คำว่านักการเมือง คือ คนที่รับใช้ประชาชน เมื่อมีสถานการณ์ที่เป็นอันตรายต่อประชาชน นักการเมืองก็ต้องออกมาทำหน้าที่ให้เกิดความปลอดภัยกับประชาชนมากที่สุด นั่นถึงจะได้ชื่อว่าเป็นผู้รับใช้ประชาชนทั้งจิตวิญญาณ"
          "ถ้าคิดเล่นเกมการเมืองตอนนี้ คนนั้นจะไม่ใช่ชื่ออนุทิน ผมทำอะไร ผมดูผลลัพธ์ คือ ความปลอดภัยของประชาชน กำจัดโควิดให้สิ้นซาก"


pageview  1205112    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved