|
|
|
กรุงเทพธุรกิจ [ วันที่ 11/02/2556 ] |
|
|
|
|
3 วิธีรับมือกับ 'หนังศีรษะแห้ง' |
|
|
|
|
'หนังศีรษะ' เปรียบเหมือนกับ 'แผ่นดิน' ที่ทำหน้าที่เป็นฐานยึดรากต้นไม้ไว้อย่างแน่นหนา เมื่อต้องเจอกับสภาพอากาศแห้งและลมหนาวก็ย่อมสูญเสียความชุ่มชื้น เกิดความแห้งแล้ง และหน้าดินแตกระแหง ส่งผลต่อความแข็งแรงและการเติบโต
ของต้นไม้ เช่นเดียวกับ "อาการหนังศีรษะแห้ง" ที่ย่อมส่งผลต่อสภาพ "เส้นผม" รวมทั้งเป็นจุดเริ่มต้น ของปัญหารังแคและปัญหาที่เกี่ยวกับหนังศีรษะอื่นๆในอนาคต
หลายคนที่มีอาการหนังศีรษะแห้งคงกังวลใจอยู่ไม่น้อย เพราะไม่ว่าจะพยายามแก้ไขอย่างไรก็ไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร ดังนั้นก่อนอื่นควรจะทราบถึงลักษณะของหนังศีรษะและปัจจัยที่ทำให้หนังศีรษะแห้งกันสักนิด เพื่อที่การดูแลเส้นผมและหนังศีรษะในครั้งต่อๆ ไปจะได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
นายแพทย์ พูลเกียรติ สุชนวณิช ผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผมจากโรงพยาบาลรามาธิบดี ให้ความรู้ในเรื่องนี้ว่า หนังศีรษะแห้งคืออาการที่ผิวหนังบริเวณหนังศีรษะสูญเสียน้ำหรือความชุ่มชื่นจากการระเหยจนเกิดอาการแห้ง มีลักษณะเหมือนกับรอยแผ่นดินแตกแห้ง ส่งผลให้หนังศีรษะทนทานต่อปัจจัยกระตุ้นภายนอกได้น้อยลง หรือเสียสมดุลจนเกิดอาการอักเสบ ค่อยๆ กลายเป็นขุยสีขาว แล้วเริ่มแตกลอกเป็นแผ่นกลายเป็นรังแค ดังนั้นอาการ "หนังศีรษะแห้ง" ที่คนมักมองข้ามจึงอาจเป็นจุดเริ่มต้นของโรครังแคเรื้อรัง หรืออาจเป็นอาการแสดงเริ่มต้นของโรคผิวหนังอื่นๆ เช่น โรคต่อมไขมันในหนังศีรษะอักเสบหรือ "เซ็บเดิร์ม" โรคสะเก็ดเงิน โรคผื่นแพ้สัมผัส หรือโรคภูมิแพ้ตนเองที่อาจทำให้เกิดอาการผมร่วงอย่างรุนแรง
"อาการหนังศีรษะแห้งอาจเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ทั้งจากกรรมพันธุ์ เช่น อาการของโรคภูมิแพ้ผิวหนังที่มีชั้นเคลือบผิวหนังและผิวบริเวณหนังศีรษะที่อ่อนแอ ซึ่งทำให้เกิดปัญหารังแคได้บ่อยและง่ายกว่าคนปกติ และอาจเกิดจากความเครียดที่ทำให้สารสื่อประสาทบางชนิดเข้าไปกระตุ้นให้บริเวณหนังศีรษะเกิดอาการอักเสบ หรือจากสภาพอากาศที่เย็นและแห้งเป็นเวลานาน น้ำใต้ผิวบริเวณหนังศีรษะก็ยิ่งระเหยออกไปเร็วขึ้นส่งผลให้หนังศีรษะแห้งเร็วขึ้น รวมถึงอาจเกิดจากการสระผมที่ปราศจากการดูแลหรือเติมเต็มความชุ่มชื่นหลังสระผม เพราะทุกครั้งที่สระผมนั้นเท่ากับล้างเอาความชุ่มชื้นของหนังศีรษะออกไปด้วย"
นอกจากนั้น "รังแค" ที่เกิดจากอาการ "หนังศีรษะแห้ง" ยังอาจส่งผลให้เกิดการอาการคัน และกระตุ้นให้เกิดการสัมผัสและจับบริเวณหนังศีรษะบ่อยขึ้น ยิ่งสัมผัสซ้ำๆ เรื่อยๆ ก็ยิ่งกระทบต่อบริเวณรูขุมขนบริเวณหนังศีรษะทำให้เกิดอาการอักเสบ หากเกิดการอักเสบมาก รูขุมขนก็จะปิดลงทำให้เส้นผมไม่สามารถงอกขึ้นมาใหม่ได้ และทำให้เกิดอาการผมร่วงจนสูญเสียความมั่นใจ
เพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว นายแพทย์พูลเกียรติจึงได้แนะนำ 3 เคล็ดลับเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับ หนังศีรษะ เริ่มจากข้อแรก ผู้บริโภคควรเลือกแชมพูที่มีประสิทธิภาพในการขจัดรังแคและมีส่วนผสมของสารที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้หนังศีรษะ เพื่อคงความสมดุลบนหนังศีรษะอย่างสม่ำเสมอ และใช้ครีมบำรุงผมหลังสระผมทุกครั้ง ข้อสอง อย่าสัมผัส ถู หรือเกาหนังศีรษะมากเกินไป เพราะการสัมผัสหนังศีรษะบ่อยๆ อาจเป็นการกระตุ้นให้รูขุมขนบริเวณหนังศีรษะเกิดการอักเสบ รูขุมขนปิด ทำให้ผมร่วงได้ และข้อสุดท้าย ควรรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินซี วิตามินอี น้ำมันปลา และโอเมก้า 3 เพื่อช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้กับผิวหนังบริเวณหนังศีรษะให้แข็งแรง ทั้งยังควรหลีกเลี่ยงอาหารทะเล ของหมักดองและแอลกอฮอล์ เพราะมีฤทธิ์ในการกระตุ้นอาการภูมิแพ้ต่างๆ รวมถึงอาการภูมิแพ้ของหนังศีรษะ
อันตรายหรือโรคภัยไข้เจ็บบางอย่าง เกิดขึ้นจากจุดเริ่มต้นเล็กๆ เท่านั้น และหลายครั้งเราสามารถป้องกันหรือบรรเทาได้ด้วยการดูแลตัวเอง ดีกว่าปล่อยให้เป็นเรื่อง "เส้นผมบังภูเขา"
|
| | |
|
| |
|
pageview 1206113 |
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO) ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000 Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th | | |
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved
|
| |