HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
กรุงเทพธุรกิจ [ วันที่ 21/01/2556 ]
'เปลี่ยน'เพื่อสุขภาพฟันดี

ภาพลักษณ์ภายนอก ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า หน้า ผม เป็นสิ่งที่หนุ่มสาว ยุค 3G ให้ความสำคัญ แต่น่าเสียดาย ที่อวัยวะสำคัญอย่าง ฟัน หลายคนกลับมองข้ามไป
          แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะแปรงฟันทุกเช้าค่ำเพื่อขจัดกลิ่นปากและชอบใช้ยาสีฟันที่มีสารขัดฟันขาวปิ๊ง หรือนิยมทำเลเซอร์ฟันขาว แต่รู้หรือไม่ว่า นั่นเป็นสาเหตุหนึ่งในการทำให้เคลือบฟันสึกกร่อน และเกิดอาการเสียวฟันที่เป็นๆ หายๆ สร้างความรำคาญใจไม่หายขาด
          หมอกอล์ฟ หรือ ผศ.ดร.ทันตแพทย์ สมภพ เบญจฤทธิ์ ที่มีประสบการณ์ด้าน ทันตกรรมในประเทศไทยและสหรัฐอเมริกามากว่า 15 ปี ได้ศึกษาด้านทันตประดิษฐ์ระดับปริญญาเอกในปี 2541-2548 ที่สหรัฐอเมริกา ปัจจุบันประจำอยู่ ภาควิชาทันตกรรมประดิษฐ์ และภาควิชาเภสัชวิทยา คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนอร์ธ แคโรไลนา แอทแชเพิลฮิลล์ มลรัฐนอร์ธ แคโรไลนา สหรัฐอเมริกา และเป็นผู้เชี่ยวชาญจากเซ็นโซดายน์ เล่าว่า  "คนไทยส่วนใหญ่มักมาพบหมอฟัน เมื่อสาย คือเมื่อมีปัญหาด้านสุขภาพในช่องปาก และฟันที่หนักแล้ว อย่างฟันผุ ฟันแตกหรือร้าว หรือสูญเสียฟัน นอกจากอุบัติเหตุแล้ว โรคในช่องปาก และฟันสามารถป้องกันได้ เริ่มจากเคลือบฟันที่เป็นชั้นบางๆ คอยปกป้องฟันของเรา การรับประทานอาหารตามปกติ หรือใช้สารขัดฟอกฟันหรือยาสีฟันฟอกฟันขาว หรือการทำเลเซอร์ฟันขาว ซึ่งได้รับความนิยมสูงขึ้นในปัจจุบัน
          ขณะที่คนอเมริกันกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ เคยฟอกฟันขาว และทำบ่อยๆ ล้วนเป็นสาเหตุทำให้เคลือบฟันถูกกัดกร่อนทำลาย เกิดเป็นรูพรุนขนาดเล็กในเนื้อฟัน หากดื่มของเย็นจัด เปรี้ยวจัด หรือร้อนจัด ก็จะกระตุ้นของเหลวในท่อฟันไปกระตุ้นปลายประสาทฟัน ทำให้เกิดอาการเสียวแปล๊บๆ จี๊ดๆ เฉียบพลัน ซึ่งเรียกว่า "อาการเสียวฟัน" มักพบมากกับคนวัย 20 ปี ขึ้นไป และเป็นสัญญาณเตือนภัยให้เราต้องรีบดูแลรักษาสุขภาพฟันให้ดี มิฉะนั้นหากมีอาการเสียวฟันต่อเนื่อง ก็ทำให้เคลือบฟันสึก ลุกลามเป็นโรคเหงือก ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของฟันหลุดในที่สุดได้"
          จากการสำรวจคนไทยโดยบริษัท Synovate Research พบว่า คนไทยกว่า 69 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 7 ใน 10 คนมักมีปัญหาเสียวฟัน แต่มักจะคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย เพราะเกิดอาการเสียวฟันแบบเป็นๆ หายๆ เลยไม่สนใจดูแล ทำให้สุขภาพฟันแย่ลง คนที่มีอาการ เสียวฟันส่วนใหญ่มักคิดว่ายาสีฟันที่ใช้ก็ดี อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้ยาสีฟันลดการเสียวฟัน หรือใช้ยาสีฟันลดการเสียวฟันเฉพาะช่วงที่เป็นแล้วเลิกใช้เมื่ออาการเสียวฟันลดลง
          สำหรับอาการเสียวฟัน สาเหตุส่วนใหญ่มาจากการที่เคลือบฟันสึก เหงือกร่น ใช้ยาสีฟันฟอกฟันขาวมากเกินไป ฟันผุ รวมถึงฟันแตก ฟันร้าว จากการกระทบกระเทือน เช่น ถูกต่อย ทำให้กระทบเส้นประสาทอย่างรุนแรง โพรง- ประสาทอักเสบ ก็เกิดอาการเสียวฟันได้
          "คนที่มีอาการเสียวฟัน สังเกตง่ายๆ อย่างดื่มน้ำเย็นจัดๆ หรือรับประทานอาหารที่เปรี้ยวจัดๆ แล้วรู้สึกเสียวแปล๊บๆ หมอจะแนะนำให้ "เปลี่ยนยาสีฟัน" เพราะเป็นวิธีลดอาการเสียวฟัน ด้วยตัวเองที่ง่ายที่สุด และถูกจุด ยาสีฟันที่ช่วยลดอาการเสียวฟัน จะมีสารช่วยอุดโพรงประสาทฟันให้เล็กลง และยังให้คุณประโยชน์ หลักๆ ที่มีในยาสีฟันทั่วไปด้วย เช่น ให้ความสดชื่น ป้องกันฟันผุ ทำให้เหงือก และฟันสุขภาพดีไว้ในหลอดเดียว จึงสามารถใช้เป็นประจำทุกวัน แต่หากใช้แล้วยังมีอาการ เสียวฟัน หรือเป็นโรคฟันก็ต้องรีบไปปรึกษาหมอฟันให้รักษาทันที อย่านิ่งนอนใจ"
          ทันตแพทย์ท่านนี้แนะนำว่า ถ้าอยากให้สุขภาพฟันดีตลอดชีวิต ต้องหมั่นดูแลฟันตลอดเวลา โดยเฉพาะในด้านสุขภาพความ แข็งแรงของฟัน ไม่ใช่แค่ความสวยงามภายนอก "ที่สำคัญอย่าละเลยอาการเสียวฟันที่เคยเป็นๆ หายๆ ลองหันมาใช้ยาสีฟันลดอาการเสียวฟันเป็นประจำทุกวัน เพื่อสุขภาพฟันดี ที่ยั่งยืน เพราะฟันขาวจากเลเซอร์หรือ สารฟอกสีฟันไม่ได้อยู่กับเราตลอดไป เพราะการทำให้ฟันขาว ต้องแลกกับเคลือบฟันที่ บางลง ทำให้ฟันสึก นานวันเข้าเกิดฟันผุ มีอาการเสียวฟัน และต้องสูญเสียฟันไป" หมอกอล์ฟกล่าวสรุป
          ที่ดีที่สุดคือเริ่มดูแลฟันตั้งแต่อายุน้อยๆ แปรงฟันให้ถูกวิธี ใช้ยาสีฟันที่ไม่ทำลายเคลือบฟัน เพื่อสุขภาพฟันที่แข็งแรง และอยู่กับเราไปนานๆ

          คนไทยส่วนใหญ่ มักมาพบหมอฟัน เมื่อสาย คือเมื่อมีปัญหาด้านสุขภาพ ในช่องปากและ ฟันที่หนักแล้ว


pageview  1205500    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved