HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
กรุงเทพธุรกิจ [ วันที่ 07/01/2556 ]
ไวรัสตับอักเสบซี ร้ายกว่าที่คิด

ในบรรดาโรคร้ายที่คุกคามร่างกายเราได้ อย่างเงียบเชียบ ไวรัสตับอักเสบซีถือเป็นโรคที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดโรคหนึ่งทั้งนี้เพราะในบรรดาโรคไวรัสตับอักเสบซึ่งเกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่มีอยู่ถึง 5 ชนิด คือ A, B, C, D และ E ไวรัสที่พบมากที่สุดคือไวรัสตับอักเสบชนิดซี เพราะสามารถเป็นเรื้อรังได้บ่อย ไม่ติดต่อทางอาหาร และผู้ป่วยมักไม่ทราบว่าตัวเองติดเชื้อ ที่ร้ายกว่านั้นคือ ไวรัสตับอักเสบซี เป็นอีกสาเหตุสำคัญของมะเร็งตับ
          พลตรี นพ.อนุชิต จูฑะพุทธิ เลขาธิการมูลนิธิโรคตับ กล่าวว่า อาการเบื้องต้นของ ผู้ป่วยโรคไวรัสตับอักเสบซีจะไม่แสดงอาการออกมาอย่างชัดเจน บางรายพบว่า มีไข้ต่ำ อ่อนเพลีย เมื่อยล้า คลื่นไส้ เบื่ออาหาร ฯลฯ จึงทำให้ผู้ติดเชื้อคิดไม่ถึงว่าเป็นอาการของ โรคไวรัสตับอักเสบซี กว่าครึ่งของผู้ติดเชื้อ มักเป็นเรื้อรัง กว่าจะรู้ตัวก็มีอาการรุนแรงถึงขึ้นเป็นโรคตับแข็ง และลุกลามไปสู่มะเร็งตับในที่สุด  สำหรับสาเหตุของการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี โดยส่วนใหญ่ผ่านทางเลือด เช่น การเสพยาเสพติด ใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน การรับ โลหิตจากการบริจาคโดยไม่ผ่านหน่วยคัดกรอง ผู้ป่วยล้างไต การสัก เจาะหู หรือเจาะตามที่ต่างๆ ในร่างกาย ฯลฯ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ที่อยู่ในภาวะเสี่ยงเหล่านี้ควรจะได้รับการตรวจเลือด เพื่อวางแผนการรักษาได้ทันท่วงที ก่อนจะถึงขั้นร้ายแรง ค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคไวรัสตับอักเสบซีเรื้อรังอยู่ที่ ราวสองแสนบาท แต่โชคดีที่ปัจจุบันผู้ป่วยระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า ประกันสังคม และสวัสดิการข้าราชการ สามารถเบิกได้โดยไม่ต้องจ่ายค่ายาเอง
          นพ.อนุชิต กล่าวเพิ่มเติมว่า "การตรวจหาเชื้อทำได้ไม่ยาก เพียงแค่เจาะเลือดเพื่อตรวจหาภูมิไวรัสตับอักเสบซี (HCV-Antibody) หากผลออกมาเป็นบวก แพทย์จะให้ตรวจยืนยันอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่ามีเชื้อไวรัสจริงหรือไม่ ถ้าผลการตรวจครั้งนี้ ไม่พบเชื้อ ก็ต้อง ติดตามผลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งค่าใช้จ่ายในการตรวจคัดกรองไม่แพง มีบริการตรวจทั้ง โรงพยาบาลรัฐบาลและเอกชน
          แต่สำหรับผู้ที่ตรวจแล้วพบการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีแล้ว แพทย์จะทำการประเมินการรักษา โดยดูว่าตับมีความเสียหายมากน้อยแค่ไหน หากมีแนวโน้มว่าโรคจะพัฒนาไปเป็นตับแข็งหรือมะเร็งตับแพทย์ก็จะพิจารณาให้การรักษาต่อไป โดยยาที่ใช้รักษาเป็นยาเพ็คอินเตอร์- เฟอรอน (Peginterferon) ฉีดสัปดาห์ละครั้งร่วมกับยารับประทาน นาน 24-48 สัปดาห์ ซึ่งยาในกลุ่มนี้จะให้ตามน้ำหนักผู้ป่วยแต่ละคน แม้ปัจจุบันไม่มีวัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบซี แต่ก็มียารักษาให้หายขาดได้" ที่ผ่านมาแม้จะมีการให้ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับโรคไวรัสตับอักเสบซีตามสื่อต่างๆ อยู่บ้าง แต่คนทั่วไปก็ยังมองข้ามอันตรายของเชื้อไวรัสชนิดนี้และยังไม่รู้วิธีป้องกันตัวเองอย่างถูกต้อง โอกาสนี้สองสาวสังคมคู่ซี้ เล็ก กรกนก ยงสกุล และ เหลี่ยน โสรัจ อมาตยกุล จึงชวนกันมาเช็คสุขภาพและเลคเชอร์ข้อมูลจากคุณหมอ เพื่อดูแลสุขภาพของตัวเอง
          กรกนก บอกว่า "ในครอบครัวของเล็กมีคน ที่เป็นพาหะไรรัสตับอักเสบบี คุณหมอก็แนะนำ ให้ทานวิตามินบำรุง ทำตัวให้แข็งแรง ไม่ดื่มสุรา ส่วนตัวเล็กดูแลสุขภาพอยู่แล้ว ก็ระวังไม่ให้ตัวเองเข้าไปอยู่ในกลุ่มเสี่ยง และจะบอกต่อเพื่อนๆ ที่ฮิตรอยสัก โดยจะนำข้อมูลที่ได้รับ วันนี้ ไปเตือนเขาด้วยความห่วงใย เพราะโรค ไวรัสตับอักเสบซี ส่วนใหญ่กว่าจะรู้ตัวก็ลุกลาม รักษาไม่ทัน ฉะนั้นใครที่รู้ตัวว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยง ก็อยากให้มาตรวจคัดกรองเพื่อหาแนวทางป้องกัน ส่วนผู้ที่ไม่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงก็ควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมต่างๆ ที่จะนำไปสู่โรคร้าย"
          ส่วน โสรัจ แสดงความเห็นว่า "ฟังจากข้อมูลแล้ว ไม่คิดว่าตัวเองอยู่ในกลุ่มเสี่ยง แต่ก็ต้องระวัง เพราะตัวเองเป็นคนชอบเข้าร้านทำเล็บ เสริมสวยตามสไตล์ผู้หญิง ยิ่งมารู้ว่าโรคไวรัสตับอักเสบซีติดจากเลือด ยิ่งทำให้เราต้องระวังมากขึ้น โดยส่วนตัวจะมีอุปกรณ์ในการทำเล็บเป็นของตัวเอง เพราะเราไม่รู้ว่าอุปกรณ์ของร้านผ่านการฆ่าเชื้อมามากน้อยแค่ไหน อะไรที่เราป้องกันได้ก็ควรป้องกันไว้ก่อน มันทำให้เราอุ่นใจมากขึ้น ส่วนในกลุ่มเพื่อนก็จะเอาความรู้ที่ได้ไปบอกต่ออีกทางหนึ่ง"
          รู้อย่างนี้แล้ว ใครที่คิดว่าตนเองเป็น กลุ่มเสี่ยง ควรรีบมาตรวจคัดกรองเบื้องต้น ก่อนเพื่อความแน่ใจก่อนจะสายเกินแก้ เพราะไวรัสตับอักเสบซีถ้าเป็นแล้ว "ร้ายกว่า ที่คิดแน่ๆ"
          รู้เรื่อง 'ตับ'
          ตับเป็นอวัยวะที่สำคัญของร่างกาย ปกติจะมีน้ำหนัก 1.5 กิโลกรัม โดยอยู่หลัง กระบังลม มีหน้าที่เป็นคลังสะสมอาหาร เช่น แป้ง ไขมัน โปรตีน เอาไว้ใช้ และปล่อยเมื่อร่างกายต้องการ, สังเคราะห์สารต่างๆ เช่น น้ำดี สารควบคุมการแข็งตัวของเลือด ฮอร์โมน รวมถึง กำจัดสารพิษ และสิ่งแปลกปลอม เช่นเชื้อโรค หรือยา อ่านการทำงานของตับ
          ตับมีโอกาสเป็นโรคต่างๆได้แก่ โรคตับอักเสบ hepatitis โรคตับแข็ง cirrhosis มะเร็งตับ liver cancer โรคไขมันในตับ fatty liver โรคฝี ในตับ liver abscess
          สำหรับโรคตับอักเสบมี 2 ชนิดคือ 1.โรคตับอักเสบเฉียบพลัน [acute hepatitis] หมายถึงโรคตับอักเสบที่เป็นไม่นานก็หาย ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการ 2-3 สัปดาห์โดยมากไม่เกิน 2 เดือน ผู้ป่วยส่วนใหญ่หายขาดจะมีบางส่วนเป็นตับอักเสบเรื้อรัง และบางรายรุนแรงถึงกับเสียชีวิต
          2.โรคตับอักเสบเรื้อรัง (chronic hepatitis)หมายถึงตับอักเสบที่เป็นนานกว่า 6 เดือนจะแบ่งเป็น 2 ชนิด คือ chronic persistent เป็นการอักเสบของตับแบบค่อยๆ เป็นและไม่รุนแรงแต่อย่างไรก็ตามโรคสามารถที่จะทำให้ตับมีการอักเสบมาก และ chronic active hepatitis. มีการอักเสบของตับ และตับถูกทำลายมาก และเกิดตับแข็ง
          ส่วนสาเหตุของโรคตับอักเสบ ก็ได้แก่ เชื้อไวรัส เช่น ไวรัสตับอักเสบ เอ ,บ,ซี,ดี,อี เครื่องดื่ม ที่มีแอลกอฮอล์ ยาบางชนิด และเชื้อโรคบางชนิด
          การอักเสบของตับจะทำให้ตับบวม มีการทำลายเซลล์ตับ ทำให้มีอาการอ่อนเพลียจากการทำงานผิดปกติของตับ หากการอักเสบเกิดขึ้นเป็นเวลานานจะทำให้ตับถูกทำลายมาก และถูกแทนที่ด้วยพังผืด ทำให้ตับมีแผลเป็น และมีลักษณะแข็งเป็นตุ่มๆ
          แม้ว่าสาเหตุของตับอักเสบจะมีมากมายแต่สาเหตุที่สำคัญคือไวรัสตับอักเสบ ปัญหาโรคตับอักเสบและโรคตับอักเสบเรื้อรังเป็นปัญหาสำคัญทางสาธารณสุขของประเทศไทยและทั่วโลก


pageview  1205831    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved