ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสร้างสรรค์องค์กรให้เดินหน้าไปสู่องค์กรแห่งการสร้างสุข เพราะด้วยมิติแห่งความเป็นองค์กรแห่งความสุขนั้นมีการบูรณาการของกระบวนการการจัดการและการพิจารณามากถึง 8 ด้าน องค์กรจำนวนไม่น้อยที่เข้าใจถึงวิธีการ และรูปแบบของการสร้างสุขตามแบบฉบับที่ สสส. หรือสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ได้บัญญัติเอาไว้ แต่ไม่สามารถนำมาปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม เพราะด้วยความกดดัน และแรงบีบคั้นของเศรษฐกิจในวันนี้ ทำให้หลากหลายองค์กรยังเดินไปไม่ถึงฝั่งฝัน
          แต่ปีนี้เป็นโอกาสอันดีที่เราจะมาปัดฝุ่นพูดคุยกันในเรื่องการสร้างองค์กรแห่งความสุขอีกครั้ง โดยอิงอาศัยโอกาสอันเป็นมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 85 พรรษา รวบรวมองค์กรแห่งความสุข 85 แห่งเพื่อเป็นตัวอย่างให้กับองค์กรรุ่นน้องที่จะก้าวเดินไปในแนวทางเดียวกัน เพื่อประโยชน์ปลายทางคือการยกระดับสังคมของประเทศให้เป็นสังคมอุดมปัญญา และความสุข ลดปัญหาอาชญากรรม และสร้างมาตรฐานคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับคนไทย
          Happy Workplace รวมพลังสามัคคีทำดีเพื่อพ่อ คือชื่อของโครงการที่เฟ้นหา 85 องค์กรแห่งความสุข ซึ่งมีองค์กรรุ่นพี่ที่ส่งผู้บริหารมืออาชีพที่คร่ำหวอดอยู่กับการทำโครงการ Happy Workplace ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมมาร่วมแชร์ประสบการณ์ และระดมสมอง รวมทั้งชี้จุดบอดและอุปสรรคของการสร้างสรรค์องค์กรให้เกิดความสุขครบสมบูรณ์แบบทั้ง 8 ด้าน รวมทั้งวิธีการที่จะก้าวข้ามอุปสรรคเหล่านั้น
          คุณวรรณา ธรรมร่มดี ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัทไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด องค์กรที่เป็นตัวอย่างที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดคุยกันเสมอในระดับผู้บริหารที่ต้องการจะทำโครงการ Happy Workplace ให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรม คุณวรรณาเล่าให้ฟังว่า ไลอ้อน มองว่า โครงการสร้างสุขในสถานประกอบการนั้น จะเข้ามาเป็นคำตอบให้กับปัญหาการเข้า-ออกของพนักงานที่เพิ่มขึ้นสูงมากอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า พนักงานไม่มีความสุขในที่ทำงาน ที่ซึ่งพวกเขาใช้เวลากว่าครึ่งหนึ่งของวันคลุกคลีอยู่กับสังคม สภาพแวดล้อม เนื้องาน และเพื่อนร่วมงาน
          ผู้บริหารได้มานั่งประมวลผลกันว่า ในปัจจุบันมีโครงการ หรือกิจกรรมอะไรบ้างที่ผูกโยงเข้ากับเรื่องราวความสุขทั้ง 8 มิติ และมีสิ่งใดที่เรายังไม่ได้ทำ หรือทำไม่ทั่วถึงบ้าง คุณวรรณากล่าว พร้อมกับเล่าให้ฟังว่า กิจกรรมที่ทำดีอยู่แล้ว อย่างเช่น Happy Society ที่พนักงานจะร่วมออกไปทำบุญ และบริจาคทรัพย์สิ่งของเพื่อเป็นสาธารณประโยชน์ เป็นเรื่องที่ต้องสนับสนุนให้เกิดมีต่อไป ในขณะเดียวกันก็มีบางแง่มุมที่ขาดหายไป อย่างเช่นการส่งเสริมความสัมพันธ์ของสถาบันครอบครัวของพนักงาน หรือ Happy Family ซึ่งแน่นอนว่า ในระดับครอบครัว บางธุรกิจอาจจะดูแลพนักงานได้ไม่ถึง เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว
          Happy family เป็นหัวใจหลัก เพราะครอบครัวเป็นสิ่งที่ส่งผลต่อชีวิตการทำงาน คงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าเวลาทะเลาะ หรือมีปัญหาจากที่บ้านมาแล้ว จะอารมณ์ดี ทำงานได้ เราจึงเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับชีวิตของพนักงานมากขึ้น มีการสร้างศูนย์ Day Care ไว้ให้พ่อแม่ที่มีลูกยังไม่เข้าโรงเรียน สามารถเอาลูกมาฝากกับพี่เลี้ยงที่ได้รับการฝึกมาอย่างถูกต้องเพื่อลดภาระพนักงาน นอกจากนี้ เรายังมีการอบรมคู่รักที่คบกันมานานเกิน 5 ปี เพื่อสานความสัมพันธ์ไม่ให้ห่างหายอีกด้วย ซึ่งมันก็ดีขึ้นจริงๆ คุณวรรณากล่าว
          นอกจากบริษัทไลอ้อนแล้ว บริษัท แอล แอนด์ อี แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ที่เคยมองข้ามด้านการสร้างความสุขในองค์กร ก็หันมาทบทวนแนวทางและเริ่มก้าวเดินในการทำให้องค์กรเต็มไปด้วยความสุข และคุณกฤดา ทรัพย์ทวยชน กรรมการผู้จัดการก็ออกมายอมรับว่าการดำเนินกิจการเป็นไปอย่างราบรื่นขึ้น เพราะความทุกข์ของพนักงานหมดไป และความสุขก้าวเข้ามาแทนที่
          ผมเริ่มจากการปรับเปลี่ยนทัศนคติ เราอยู่กับงานแทบ 24 ชั่วโมง ทุกอย่างที่เราทำคืองานทั้งสิ้น ไม่ว่าจะทำกับข้าว งานบ้าน ถ้าไม่มีความสุข ชีวิตเราจะสุขได้อย่างไร ผมจึงเริ่มมองโลกใหม่ ไม่เบียดเบียนคนอื่น ความสุขที่แท้จริงมันอยู่กับเราตลอด เกิดขึ้นจากภายในใจ
          คุณกฤดาเล่าว่า เขาเริ่มนำหลัก Happy workplace ทั้งแปดเข้ามาผูกโยงกับกิจกรรมในการทำงานของบริษัท และแก้ปัญหาทีละเรื่อง อย่างเช่นการลดภาระของพนักงานเรื่องหนี้นอกระบบ ด้วยการจัดตั้งธนาคารเล็กๆ ในองค์กร เพื่อไถ่ถอนหนี้จากนอกระบบ เข้ามาเป็นหนี้ภายใน และให้พนักงานผ่อนชำระจากเงินเดือนของตัวเอง ส่วนดอกเบี้ยที่คิดอัตราต่ำอยู่แล้ว ก็จะนำมาเป็นต้นทุนในการปล่อยให้กู้ยืมต่อไป
          เราลดปัญหาหนี้นอกระบบของพนักงานได้ภายในเวลาไม่นาน การที่คนเรามีความสุขในการทำงาน ก็ถือเป็นการทำดีกับองค์กร และถ้าทุกคนช่วยกันทำความดีกันไปทีละเล็ก ทีละน้อย ทุกคนในสังคม ไม่ใช่เฉพาะในองค์กร ก็เชื่อว่าจะมีความสุขกันทั้งหมด เขากล่าว
          นี่เป็นเพียงตัวอย่างของสององค์กรแห่งความสุขที่ประสบความสำเร็จจากความ ใส่ใจ ของผู้บริหาร และจะเป็นแนวทางสำหรับบริษัทอื่นๆ ที่จะก้าวเข้าสู่การปฏิวัติองค์กรให้เป็น Happy Workplace เหมือนเช่นรุ่นพี่เหล่านี้ในอนาคต