กรุงเทพธุรกิจ   สธ.ห่วงโควิดเมียนมาระบาด ขยายวง คาดใน 2 สัปดาห์ถึงแถบชายแดนไทย ขอปชช.ร่วมเป็นหูตาป้องกันลักลอบเข้าช่องทางธรรมชาติ ด้านกรมควบคุมโรคเผยผลตรวจผู้สัมผัสนักโทษดีเจ ติดโควิด 520 คน ไม่พบเชื้อ ขณะที่ทุกชายแดนสั่งคุมเข้มแรงงานลักลอบเข้าไทย สกัดแพร่เชื้อระลอก2
          การป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ระลอก2 วานนี้(7 ก.ย.)นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สถานการณ์ในประเทศเพื่อนบ้านอาทิ ประเทศเมียนมาว่า สถานการณ์ขณะนี้ ค่อนข้างน่าเป็นห่วงมาก พบว่ามีรายงานผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มวันละร้อยกว่าราย และเริ่มพบ ในหลายๆ เมือง จากพื้นที่ทางตะวันตกของประเทศ คือรัฐยะไข่ เริ่มเข้ามาทางตอนกลาง ของประเทศเมียนมาแล้ว แน่นอนว่าทำให้ความเสี่ยงกับประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น และแม้ว่าตอนนี้พื้นที่การระบาดจะอยู่ห่างไกลจากชายแดนไทย แต่มีการคาดการณ์ว่าประมาณ 2 สัปดาห์การระบาดจะขยายพื้นที่มาถึงพื้นที่แถบชายแดนไทย
          ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ทั้งทหารฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งบุคลากรการแพทย์ ต่างเฝ้าระวังอย่างเข้มข้นตามแนวชายแดน
          ตรวจผู้ใกล้ชิดดีเจกว่า500คนผลลบ
          ขณะที่ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานความคืบหน้าผลการสอบสวนและควบคุมโรคกรณีผู้ต้องขังชาย ที่อยู่ระหว่างกักกันก่อนเข้าแดนปกติในเรือนจำ ตรวจพบสารพันธุกรรมของเชื้อโรคโควิด 19 โดยหลังจากลงพื้นที่สอบสวนโรคเพื่อค้นหาและติดตามตัวผู้สัมผัสใกล้ชิด 12กลุ่มรวม 990 คน เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 118 คน ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 856 คน อยู่ระหว่างการตรวจสอบอีก 16 คน ส่งตรวจ 520 คน ทั้งหมดให้ผลเป็นลบ ไม่พบสารพันธุกรรมของเชื้อโควิด 19
          วันเดียวกันศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวัน ว่า ประเทศไทยพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 1 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสมอยู่ที่ 3,445 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมยอด ผู้เสียชีวิต 58 ราย ผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว 3,281 ราย ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 106 ราย โดย ผู้ป่วยรายใหม่ 1 ราย เป็นคนไทย ที่ เดินทางมาจากต่างประเทศ จาก อินเดีย เข้าพักสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้
          มั่นคงคุมเข้มสกัดลักลอบเข้าเมือง
          ส่วนการคุมเข้มตามแนวชายแดน หน่วยงานความมั่นคงทั้งทหารและตำรวจได้สั่งคุมเข้มการลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายและเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ อาทิที่จุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พล.ท.ธัญญา เกียรติสาร แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมคณะลงพื้นที่ ให้กำลังใจหน่วยงานที่ปฏิบัติหน้าที่ชายแดน
          พร้อมขอความร่วมมือทุกฝ่ายให้ปฏิบัติหน้าที่โดยเคร่งครัด เฉพาะการป้องกันโรคติดต่อโควิด-19 โดยเฉพาะการตรวจเข้มตามแนวชายแดนในการลักลอบเข้าเมืองตามช่องทางธรรมชาติ จากนั้นตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่บริเวณหน้าด่าน ในห้วงเวลาที่พ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาเดินทางกลับประเทศ
          ที่จ.ตากพ.ต.อ.สังคม ตัดโส ผู้กำกับการด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก เปิดเผยว่า ในขณะนี้ในพื้นที่อำเภอแม่สอด จ.ตากยังพบมีการลักลอบข้ามแดนของชาวเมียนมา ซึ่งตลอดเดือนส.ค.ที่ผ่านมา มีการจับกุมการลักลอบข้ามแดนของ ชาวเมียนมา และชาวจีน กว่า 100 คน
          ขณะที่นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ได้สั่งดำเนินการอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นจังหวัดชายแดนที่ กลุ่มเสี่ยงคือแรงงานต่างด้าวเมียนมา ที่ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองผ่านช่องทาง ธรรมชาติจากการผลักดันของประเทศเพื่อนบ้าน (มาเลเซีย)