HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
กรุงเทพธุรกิจ [ วันที่ 20/04/2563 ]
สธ.หาผู้ติด โควิด ในชุมชน เอกชนให้บริการตรวจถึงที่พัก

จากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ที่มีมาตั้งแต่เดือน ม.ค.2563 ส่งผลให้ทั่วโลกมีผู้ป่วยมากกว่า 2 ล้านราย สำหรับประเทศไทยเองก็พบผู้ป่วยสะสมกว่า 2,700 ราย ทำให้ประชาชนต่างวิตกกังวล และในบางรายที่เคยพบปะ หรือมีกิจกรรมร่วมกับผู้ป่วยโรคโควิด-19 ยิ่งเกิดความกังวล อยากตรวจสอบว่าติดโรคหรือไม่ แต่ก็อาจไม่สะดวกในการเดินทางไปสถานพยาบาล ด้วยเกรงว่าอาจเกิดการแพร่กระจายโรค
          กรุงเทพธุรกิจ   ดังนั้น การตรวจคัดกรองและตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อยืนยันการติดโควิด-19 นอกสถานที่จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดต่ออันตราย
          ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 เม.ย.2563 นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กรมสนับสนุนบริการสุขภาพได้ออกประกาศ เรื่อง "แนวทางการให้บริการตรวจคัดกรองและตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อยืนยันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 (Coronavirus Disease 2019 : COVID-19) นอกสถานพยาบาล" ช่วยปลดล็อกให้สถานพยาบาลเอกชนสามารถออกให้บริการตรวจคัดกรองและตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อยืนยันการติดเชื้อ โควิด-19 ณ ที่พักผู้ป่วยเป็นการชั่วคราวได้ แต่ห้ามให้บริการอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการตรวจคัดกรองผู้ป่วยโรคโควิด-19 โดยเด็ดขาด
          โดยผู้รับบริการเป็นผู้ป่วยกลุ่มที่มีปัจจัยเสี่ยงตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด เป็นผู้ที่เคยเดินทางในประเทศกลุ่มเสี่ยง ที่ระบาดมาแล้ว มีอาการระบบทางเดินหายใจ มีไข้ 37.5 องศา ไอ น้ำมูก เจ็บคอ หอบเหนื่อย หรือบุคคลกลุ่มเสี่ยงเช่น ลูกเรือสายการบิน คนขับรถบริการนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะเคยบริการกลุ่มประเทศที่เสี่ยงและบุคลากรทางการแพทย์ที่ดูแลเคสผู้ป่วย โดยโรงพยาบาล
          ส่วนผู้ให้บริการต้องเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม หรือผู้ประกอบวิชาชีพเทคนิคการแพทย์ และต้องดำเนินการตามมาตรฐานวิชาชีพ กรณีการให้บริการโดยใช้ชุดตรวจภูมิคุ้มกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 วัสดุ อุปกรณ์ หรือเครื่องมือดังกล่าวต้องได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และการส่งสิ่งส่งตรวจ เพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 จะต้องส่งตรวจใน ห้องปฏิบัติการที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ให้การรับรอง ขณะนี้มีทั้งหมด 93 แห่งทั่วประเทศ แบ่งเป็นเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 43 แห่ง และต่างจังหวัด 50 แห่ง
          ส่วนผู้ประกันตนที่มีอาการป่วยมีไข้ ไอ 4เจ็บคอ ให้สามารถไปเข้ารับการตรวจรักษา ซักประวัติในโรงพยาบาล ตามสิทธิการรักษาพยาบาลโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น โดยต้องให้ข้อมูลตามความเป็นจริงว่ามี ประวัติไปต่างประเทศหรือไม่ หรือมีญาติป่วยเป็นไข้หวัดหรือไม่ เพื่อแพทย์ประเมิน อาการได้ถูกต้อง หากแพทย์สงสัยว่าจะเข้าข่ายโรคโควิด-19 จะส่งตรวจเพาะเชื้อทางห้องแล็บ โดยผู้ประกันตนไม่ต้องจ่ายค่าตรวจใดๆ
          อย่างไรก็ตาม เมื่อเร็วๆ นี้ กระทรวงสาธารณสุขออกประกาศให้สถานพยาบาลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน (โรงพยาบาล) ทุกแห่ง จะต้องให้การรักษาพยาบาลโดยฉุกเฉินแก่ผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จนพ้นจากอันตรายตามมาตรฐานวิชาชีพและขีดความสามารถของสถานพยาบาล และหากจะต้องส่งต่อผู้ป่วยไปรับการรักษาพยาบาลยังสถานพยาบาลอื่น ต้องจัดการให้มีการจัดส่งต่อตามความเหมาะสม โดยไม่มีเงื่อนไขในการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 มี.ค.2563  โดยจะได้รับค่าใช้จ่ายระยะเวลาไม่เกิน 45 วัน เริ่มตั้งแต่ สปสช.ตรวจสอบความ ถูกต้องของเอกสาร สรุปค่าใช้จ่าย และแจ้ง ให้กองทุนของผู้มีสิทธิได้รับการรักษาพยาบาลตามกฎหมายซึ่งประกอบด้วย 3 กองทุน ได้แก่ 1.กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 2.กองทุนรักษาพยาบาลประกันสังคม และ 3.กองทุนรักษาพยาบาล
          สวัสดิการข้าราชการทราบภายใน 30 วัน นับตั้งแต่เวลาที่ได้รับเอกสารครบถ้วน
          หลังจากนั้นกองทุนจะดำเนินการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในอัตราตามบัญชีและอัตราค่าใช้จ่ายแนบท้ายหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไข ซึ่งมีการกำหนดรายละเอียดค่าบริการ ทั้งสิ้น 597 รายการ ให้แก่สถานพยาบาลภายใน 15 วัน
          ว่ากันว่าในเวลานี้มีโรงพยาบาลรัฐและเอกชนหลายแห่งที่พร้อมรับตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาหรือโควิด-19 ซึ่งกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ นำค่าบริการทางการแพทย์ 304 รายการของโรงพยาบาลเอกชน 356 แห่ง ให้ตรวจสอบราคาผ่านคิวอาร์โค้ดและเว็บไซต์ www.dit.go.th เพื่อ เปรียบเทียบราคาของโรงพยาบาลแต่ละ แห่งก่อนตัดสินใจเข้ารับบริการ
          กลุ่มอาชีพที่จะติดโรคได้ง่าย
          1 กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ทั้งหมด เพราะจะใกล้ชิดกับผู้ปวยโดยตรงหรือโดยอ้อม
          2 ผู้ที่อยู่ใกล้ชิดดูแลบริการบุคคล ผู้ป่วยหรือสัมผัสผู้ป่วยรวมทั้งผู้ที่ทำหน้าที่บริการ เช่น นวด ตัดแต่งผม
          3 อาชีพที่ทำงานในสถานที่ปิดเช่น สถานบันเทิง สนามมวย สนามกีฬาที่เป็นสถานที่ปิด
          4 อาชีพที่ต้องใกล้ชิดกับคนจำนวนมา
          ได้แก่ พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินคนขับรถโดยสารคนขับแท็กซี่ แม้กระทั่งตำรวจ สถานที่ตั้งด่าน
          5 แม่บ้านทำความสะอาดเช็ดถูสถานที่ต่างๆ คนเก็บขยะ
          6 ผู้ที่สัมผัสกับชาวต่างชาติหรือต้องทำงานสัมผัสกับชาวต่างชาติ
          "สถานพยาบาลเอกชนสามารถออกให้บริการตรวจคัดกรอง เพื่อยืนยันการติดเชื้อ ณ ที่พักผู้ป่วย เป็นการชั่วคราวได้'
          นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์


pageview  1205009    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved