HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
กรุงเทพธุรกิจ [ วันที่ 22/05/2562 ]
ติดธงแดงเตือนก่อนจิตป่วย

  ภายหลังจากรักษาฟื้นฟูจนอาการสงบดีและ กลับไปอยู่ที่บ้านได้แล้ว จะป่วยซ้ำสูงถึง ร้อยละ 60  เนื่องจากการขาดยา
          กรุงเทพธุรกิจ
          ภาพบุคคลที่แสดงความเกรี้ยวกราดอาละวาดด่าทอไปจนถึงทำร้ายผู้อื่นมีให้เห็นในข่าวแทบทุกวัน และมักจบลงด้วยการที่ญาติแจ้งว่าคนเหล่านั้นมีประวัติการรักษาด้านจิตเวช แต่เนื่องจากขาดการรักษา หรือบางรายขาดยาเพียงช่วงระยะเวลาหนึ่ง อาการจึงกำเริบขึ้น หลายครั้งเป็นเหตุให้เกิด
          ความสูญเสียที่ไม่สามารถเอาผิดกับใครได้
          การดูแลผู้ป่วยจิตเวช เป็นเรื่องที่ต้องอาศัยความเข้าใจและการเอาใจใส่อย่างมาก ซึ่งปัจจุบันปัญหานี้ยังคงมีช่องโหว่ในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นจากตัวผู้ป่วยเอง ครอบครัว หรือสถานพยาบาล ล่าสุด โรงพยาบาลจิตเวชนครราชสีมาฯ ได้เปิดเผยถึงสถานการณ์ดังกล่าวว่า มีผู้ป่วยทาง จิตหลังบำบัดรักษาแล้วกลับมาป่วยซ้ำขณะอยู่ที่บ้านสูงถึงร้อยละ 60 เหตุจากขาดยา ไม่ยอมรับการเจ็บป่วย ทำให้อาการแย่ลง ในปีที่ผ่านมาพบมีอาการกำเริบและต้องรับตัวรักษา 208 คน  ด้วยเหตุนี้ทางโรงพยาบาลจึงได้เร่งหาวิธีป้องกัน โดยจัดเป็น 4 ระบบการดูแลผู้ป่วยต่อเนื่องที่บ้านและชุมชน ครอบคลุมพื้นที่ 4 จังหวัดในเขตสุขภาพที่ 9 พร้อมทั้งพัฒนาเครื่องมือเยี่ยมบ้านประเมินปัญหาผู้ป่วย 10 ด้าน และ ธงแดงแสดง 5 พฤติกรรมเตือนก่อนอาการ ทางจิตกำเริบให้ญาติใช้เฝ้าระวัง หากพบเพียง 1 อาการ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที
          นายแพทย์กิตต์กวี โพธิ์โน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ จังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ขณะนี้โรงพยาบาลจิตเวชนครราชสีมาฯได้เร่ง เพิ่มประสิทธิภาพการบริการรักษาฟื้นฟูผู้ป่วยโรคทางจิต ซึ่งเกิดมาจากสมองทำงานผิดปกติ ทำให้ผู้ป่วยมีความผิดปกติทางด้านความคิด อารมณ์ และพฤติกรรมต่างจากคนปกติทั่วไป เช่นมีหูแว่ว ประสาทหลอน หวาดระแวง มีความคิดว่าตัวเองมีพลังอำนาจเหนือมนุษย์ เป็นต้น ซึ่งในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 9 ที่อยู่ใน ความดูแล 4 จังหวัด ประกอบด้วยนครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์และสุรินทร์ คาดว่าจะมีผู้ป่วยโรคทางจิตประมาณ 43,000 คน ที่พบอันดับ 1 คือ โรคจิตเภท (Schizophrenia) มีประมาณ35,000 คน ผลการดำเนินการในปีที่ผ่านมา พบว่าผู้ป่วยเข้าถึงบริการได้ร้อยละ 81 ในปีนี้ตั้งเป้าครอบคลุมให้ได้ร้อยละ 90
          นายแพทย์กิตต์กวี กล่าวต่อไปว่า  ที่ผ่านมาพบว่าผู้ป่วยจิตเวชในเขตสุขภาพที่ 9 ที่มีอาการรุนแรง ยุ่งยาก  ซับซ้อน มีปีละเกือบ 4,000 คน เช่น  ในรายป่วยจิตเภทและใช้สารเสพติดด้วย หรือรายที่มีประวัติทำร้ายตัวเองหรือ คนอื่น เป็นต้น ภายหลังจากรักษาฟื้นฟูจนอาการสงบดีและกลับไปอยู่ที่บ้านได้แล้ว จะป่วยซ้ำสูงถึงร้อยละ 60 เนื่องจากการขาดยา ซึ่งพบได้ประมาณร้อยละ 90 รวมทั้งเกิดมาจากการไม่ยอมรับการเจ็บป่วยของตัวเอง การใช้สารเสพติด และขาด ผู้ดูแล ทำให้การรักษายุ่งยากขึ้น ยิ่งอาการกำเริบถี่เท่าใดก็จะยิ่งส่งผลให้อาการผู้ป่วยแย่ลง
          ในปี 2561 พบผู้ป่วยมีอาการป่วยกำเริบและต้องรับตัวเข้ารักษาซ้ำจำนวน 208 คน ในปีนี้รพ.จิตเวชนครราชสีมาฯได้แก้ไขปัญหาโดยจัดระบบการดูแล ผู้ป่วยต่อเนื่องที่บ้านและในชุมชน เชื่อมโยงกับโรงพยาบาลชุมชนและ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล  (รพ.สต.) ในเขตสุขภาพที่ 9 ทั้งหมด เพื่อให้ผู้ป่วยอยู่ในระบบการดูแลจนหายขาด ลดปัญหาป่วยกำเริบซ้ำ มีคุณภาพชีวิตดี สร้างความปลอดภัย ความมั่นใจในชุมชน โดยเน้น 4 ระบบหลักคือ
          1.การเยี่ยมบ้านติดตามอาการ ผู้ป่วย ซึ่งทีมเจ้าหน้าที่ในชุมชนจะออกเยี่ยมทุกเดือนอย่างต่อเนื่อง 2.การเฝ้าระวังความเสี่ยงผู้ป่วยอาการกำเริบ  3.การบริการจิตเวชฉุกเฉิน และ  4.การฟื้นฟูสมรรถภาพให้ผู้ป่วยใช้ชีวิตประจำวันและประกอบอาชีพได้ตามศักยภาพ โดยมีระบบการสนับสนุน การทำงานของเจ้าหน้าที่และญาติอย่างเต็มที่
          ทั้งนี้ โรงพยาบาลจิตเวชนครราชสีมาฯ ได้พัฒนาเครื่องมือ ใช้ประกอบการดูแลผู้ป่วยที่บ้านและในชุมชน 2 ชุด ชุดแรกคือ แบบประเมินคัดกรองปัญหาอาการของผู้ป่วยทั้งปัญหาเดิมและปัญหาใหม่ที่อาจจะเกิดขึ้น เพื่อให้ทีมเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และอสม. ใช้ประเมินขณะเยี่ยมบ้านครอบคลุม 10 ด้าน ได้แก่ อาการทางจิต การกินยา ผู้ดูแลหรือญาติ การทำกิจวัตรประจำวัน การประกอบอาชีพ สัมพันธภาพ สิ่งแวดล้อมในบ้าน ที่อยู่อาศัย การสื่อสารในครอบครัว ความสามารถในการเรียนรู้ เบื้องต้นและการใช้สารเสพติดต่างๆ  ที่เป็นข้อห้ามสำคัญ เช่น เหล้า บุหรี่ ยาบ้า เป็นต้น หากพบปัญหาจะสามารถวางแผนแก้ไขป้องกันอย่างเป็นระบบและสอดคล้องกับบริบทของผู้ป่วย
          เครื่องมือชุดที่ 2 คือ ธงแดง เพื่อให้ ญาติหรือผู้ดูแลใช้เฝ้าระวังพฤติกรรมความเสี่ยงผู้ป่วยจะมีอาการทางจิตกำเริบ ที่สำคัญ 5 อาการ ได้แก่ 1. ไม่หลับไม่นอน ได้แก่ มีปัญหาการนอน นอนไม่หลับ  ไม่ยอมนอน หลับๆ ตื่นๆ 2. เดินไปมา ได้แก่ผุดลุกผุดนั่ง นั่งไม่ติด เดินไปเดินมา มีพฤติกรรมแปลกๆ 3. พูดจาคนเดียว ได้แก่ พูด ยิ้ม หัวเราะคนเดียว 4. มีอารมณ์หงุดหงิดฉุนเฉียว คือมีอารมณ์แปรปรวน เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย หงุดหงิดง่าย ฉุนเฉียว และ 5. เที่ยวหวาดระแวง คือมีอาการหวาดระแวง คิดว่าคนไม่หวังดีนินทา ว่าร้าย มีคนคอยติดตามจะทำร้าย  ถูกกลั่นแกล้ง
          หากพบว่ามีพฤติกรรมข้อใดข้อหนึ่ง ให้ญาติหรือผู้ดูแล แจ้งเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเพื่อดำเนินการวางแผนให้การช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที อาจดูแลได้ที่บ้านหรืออาจส่งห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลชุมชน  ขึ้นอยู่กับอาการความเร่งด่วน
          นับเป็นตัวอย่างที่ดีของการสร้างเครือข่ายความร่วมมือและรูปแบบ การดูแลผู้ป่วยจิตเวชให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
          - ไม่หลับไม่นอน
          - เดินไปมา
          - พูดจาคนเดียว
          - หงุดหงิด ฉุนเฉียว
          - เที่ยวหวาดระแวง


pageview  1205099    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved