ไม่ว่าจะยุคสมัยใด ผู้หญิงกับความสวยความงามก็เป็นสิ่งที่แยกจากกันไม่ออก โดยเฉพาะอวัยวะส่วนที่ต้องอวดชาวบ้าน อย่างหน้าตา มือ และเล็บ ซึ่งเป็นสิ่งที่ชาวบ้านเห็นอย่างชัดเจนมากที่สุด และเป็นการบ่งบอกถึงสุขภาพที่ดี นอกเหนือไปจากเรื่องของความสวยงาม
          แพทย์หญิงธนัตสุดา เอื้อบุญกุล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางผิวหนัง โรงพยาบาลผิวหนัง อโศก กล่าวว่า ปัจจุบันผู้หญิงนิยมทาเล็บกันมาก ทำให้พื้นฐานของเล็บจะต้องแข็งแรง โดยเล็บที่แข็งแรงจะต้องมาจากผิวที่ดี ชุ่มชื้น ไม่แห้งแตก
          อย่างเช่นรอยแห้งแตก หรือผิวที่ลอกเป็นขุย โดยเราสามารถหลีกเลี่ยงได้โดยการไม่ล้างมือด้วยสบู่บ่อยจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้ผิวมือแห้งมากเกินไป อาจจะแก้ไขด้วยการทาโลชั่น
          แต่ข้อสำคัญอีกอย่างหนึ่ง ก็คือ ผู้หญิงจะเป็นห่วงเรื่องเล็บ จึงนิยมเข้าสปาเล็บ ซึ่งจะมีการตัดแต่งหนัง
          ในแง่ของความสวยงาม ช่างจะตัดแต่งหนังให้เกลี้ยง บางทีถ้าช่างไม่ชำนาญมากพอ อาจทำให้รอยต่อบริเวณผิวหนัง และเล็บเกิดความเสียหาย ซึ่งบริเวณนี้เป็นส่วนที่ปกป้องเชื้อโรค ไม่ให้น้ำกัดเซาะ หรือแม้แต่กันไม่ให้เชื้อราเข้า ถ้าเราไปตัดจนหมด ก็หมายถึงการเปิดทางให้เชื้อราเข้า ซึ่งจะส่งผลในระยะยาวกว่าจะได้เล็บสวยๆ คืน เพราะต้องรักษาเล็บให้กลับมาสุขภาพดีดังเดิมก่อน
          ส่วนปัจจัยที่ส่งเสริมให้เกิดผิวแห้งมากขึ้น ก็ยังคงเป็นการล้างมือบ่อยมากจนเกินไป หากผลิตภัณฑ์ที่ใช้ล้างมือมีค่าความเป็นด่างมากไป ทำให้ผิวหนังสูญเสียความชุ่มชื้น ประกอบกับอุปนิสัยการชอบดึงหนังบริเวณเล็บนั้น เป็นการให้ผิวหนังลอก และอาจเป็นแผลได้
          ทั้งนี้ จริงๆ แล้ว วิธีนี้เป็นวิธีง่ายๆ ที่ให้ผลดี และประหยัด แต่การใช้ครีมที่มีมอยซ์เจอไรเซอร์ที่เข้มข้นมากพอในระดับหนึ่ง นอกจากจะช่วยเก็บกักความชุ่มชื้นแล้ว ยังช่วยสมานผิวมือ และจมูกเล็บ จากการทำร้ายของปัจจัยภายนอกได้
          หากผู้หญิงที่ต้องการจะตัดแต่งเล็บ ควรจะใช้ผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้นพอเหมาะ และในการตกแต่งเล็บและบริเวณใกล้เคียง ควรจะตัดเฉพาะส่วนที่เกินออกมาก็เพียงพอ ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ลอก หรือขูดผิวหนัง จนสูญเสียกลไกทางธรรมชาติ
          ส่วนในกลุ่มที่มีเล็บขบนั้น มีหลากหลายแบบ แต่อยากจะแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ เพราะในบางรายพบการอักเสบ และติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย
          ในช่วงระยะนี้ หากมีการตัด หรืองัดแงะเล็บ อาจเป็นการเพิ่มเชื้อ ซึ่งจะส่งผลให้มีการอักเสบมากขึ้น ก็ควรจะรักษาก่อน
          แพทย์หญิงธนัตสุดา บอกว่า เบื้องต้นของการติดเชื้อ เราจะสังเกตได้จาก 4 อาการ คือ ปวด บวม แดง ร้อน เมื่อไหร่ที่มีอาการเจ็บ บวม และมีหนอง ขั้นแรกอาจจะใช้ยาแดง หรือเบตาดีนหยดบริเวณที่เป็น เพื่อปฐมพยาบาลเบื้องต้น และควรมาให้แพทย์ดู เพื่อการรักษาที่เหมาะสมต่อไป
          อย่างไรก็ตาม การรับประทานอาหารก็เป็นเรื่องสำคัญสำหรับเล็บ ดังนั้น การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ก็เพียงพอ แต่ถ้าอยากจะเน้นการบำรุงเล็บนั้น อาจจะเน้นกลุ่มวิตามินบี วิตามินซี ไบโอติน และแคลเซียมอย่างอาหารยอดฮิต อาทิ ตำไทย ที่มีทั้งกุ้งแห้ง ที่ให้แคลเซียม อาจจะรับประทานพร้อมกับผักหลากชนิด เพียงเท่านี้ผู้หญิงก็จะมีมือ และเล็บที่สวยสุขภาพผิวที่ดีแล้ว