HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
สยามรัฐ [ วันที่ 04/07/2555 ]
อร่อยปาก...อาจทำลายผิว

          อาหารในปัจจุบันนับวันยิ่งมีเมนูใหม่ๆ เพิ่มขึ้นทุกวัน ทำให้สาวๆ ทุกวันนี้ สนุกกับการรับประทาน รสชาติอาหารที่อร่อย แต่ทราบหรือไม่คะอาหารที่อร่อยก็อาจทำให้เราเกิดอาการแพ้ได้เหมือนกัน แพทย์หญิงปิยะดา ทิพรังกร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านผิวหนัง โรงพยาบาลผิวหนัง อโศก กล่าวว่า อาการแพ้อาหาร อาจมีสาเหตุจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรม ผู้ที่มีอาการแพ้ จึงมักมีคนในครอบครัวที่มีอาการภูมิแพ้อยู่ อาการแพ้นั้น มีตั้งแต่แพ้เพียงเล็กน้อยจนถึงขั้นรุนแรง คือ อาจจะแค่คัน บวม หรืออาจมีความดันโลหิตลดอย่างเฉียบพลัน และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ ปฏิกิริยาของการแพ้อาหารที่พบได้บ่อยที่สุดคือ
          1.อาการทางผิวหนัง ซึ่งเป็นอาการ ที่สามารถสังเกตเห็นได้ชัดเจนที่สุด เช่น เป็นลมพิษ มีผื่น รู้สึกคัน มีผิวหนังสากๆ หรือผิวหนังอาจบวมหรือนูนขึ้นมา และรู้สึกแสบร้อน
          2.อาการทางระบบทางเดินหายใจ เช่น การไอ หรือหอบ หากเป็นมากๆ อาจทำให้ร่างกายขาดอากาศและหมดสติได้ คนไข้บางราย อาจมีอาการแพ้ที่แสดง ออกทางระบบทางเดินอาหาร ทำให้รู้สึกคลื่นไส้ อาเจียน หรือปวดท้อง ซึ่งอาจเป็น อาการแพ้แบบแอบแฝง หรือ IgG (Im-munoglobin G) ซึ่งไม่ได้มีสาเหตุเกี่ยวข้องกับแม็สเซลล์ แต่เกิดจากการที่ร่าง กายได้รับอาหารที่แพ้บ่อยๆ ทำให้ร่างกายสร้าง IgG อยู่อย่างต่อเนื่อง จนถึงจุดที่เม็ดเลือดขาวจะต้านทานไว้ได้ ทำให้เกิดกระบวนการที่ไปกระตุ้นให้ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายเกิดการอักเสบอย่าง ต่อเนื่อง เกิดความไม่สมดุล ทำให้เจ็บออดๆ แอดๆ อาจพบผู้ที่เกิดอาการแพ้ชนิดนี้ในผู้ป่วยที่เป็นโรคเรื้อ รัง เช่น กล้ามเนื้ออักเสบเรื้อรัง หวัดเรื้อรัง ไซนัสเรื้อรัง เป็นต้น จึงควรสังเกตอาการของร่างกายคุณให้ดีค่ะ
          ทั้งนี้ อาการแพ้มักจะเกิดกับอาหารที่เคยสัมผัสมาแล้ว เพราะร่างกายคนเราจะสร้างสารต่อต้านหรือภูมิต้านทาน (Antibody) ที่เรียกว่า IgE (Immuno globin E) ซึ่งเป็นอาการแพ้แบบเฉียบพลัน ในกรณีของการแพ้อาหาร เมื่อได้รับประทานอาหารชนิดที่แพ้นั้นอีกครั้ง อาหารจะไปกระตุ้นให้มีการสร้าง IgE ขึ้นมามาก และ IgE นี้ก็จะไปเกาะบนผิวของแม็สเซลล์ (Mast cell) ซึ่งเป็นเซลล์ขนาดใหญ่ที่อยู่ตามเนื้อเยื่อเกี่ยวพันต่างๆ โดยเฉพาะอย่าง ยิ่ง เนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่ขนานกับหลอดเลือด ทำให้เกิดการหลั่งสารเคมีที่ทำให้เกิดอาการแพ้อย่าง “ฮีสตามีน” (Histamine) ขึ้นมา พูดง่ายๆ ก็คือ ร่างกายจะสร้างสาร ต่อต้านก็ต่อเมื่อเคยรู้จักกับสารนั้นๆ มาแล้ว ถ้ามีการหลั่งของฮีสตามีนบริเวณ ใด ก็จะมีอาการคันหรือบวมที่ตรงนั้น เช่น ที่ปาก คอ ก็จะทำให้หายใจลำบาก หรือกลืนอาหารลำบาก
          อย่างไรก็ตาม หากไม่ทราบก็ลองไป ค้นหาดูสูตรเครื่องปรุงของเมนูจานต่างๆ เรามาดูอาหารที่อาจก่อให้เกิดการแพ้กันดีกว่าคืออาหารที่มักแพ้ เช่น 1.อาหารจำพวกพืช ที่มักพบ เช่น งา ถั่ว ไม่ว่าจะเป็นถั่วลิสง เฮเซลนัท ถั่วเหลือง บางคนอาจแพ้กลูเต็นซึ่งเป็นเส้นใยโปรตีน ที่อยู่ในพืชอย่าง ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ ข้าวไรย์ พืชที่หมักดอง เช่น ผักดอง หน่อไม้ดอง หรือผงชูรส ซึ่งผลิตมาจากมันสำปะหลังหรืออ้อย 2.อาหารโปรตีน เช่น ไข่ขาว ไข่แดง นม เนื้อวัว เนื้อไก่ แต่พบอาการแพ้น้อยมากในเนื้อหมูและปลาน้ำจืด 3.อาหารทะเล เช่น ปลา กุ้ง หอย ปู
          พ.ญ.ปิยะดา กล่าวทิ้งท้ายว่า หากคุณคิดว่าคุณแพ้อาหารใด ก็ควรหลีกเลี่ยง อาหารนั้น บางคนคิดว่าถ้าแพ้อาหารอะไร ก็ให้กินอาหารนั้นไปเยอะๆ ร่างกายจะได้สร้างภูมิ อันนี้ไม่จริง และก็เป็นอันตรายมากด้วย เพราะอาการแพ้อาหารหากมีอาการมาก สามารถทำให้เสียชีวิตได้


pageview  1205914    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved