HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
สยามรัฐ [ วันที่ 04/10/2564 ]
โรคทางสายตา ภัยเงียบ! ที่มากับโควิด-19

โควิดชีวิตเปลี่ยน เรียนออนไลน์ Work From Home ดูเป็นเรื่องที่เหมือนจะดีที่ไม่ต้องเสียเวลาไปกับการเดินทางแต่จริงๆ แล้วก็มีอันตรายหลายอย่างตามมามากมาย โดยเฉพาะโรคที่เกิดขึ้นกับทางสายตาที่เรียกว่า Computer Vision Syndrome รวมถึงในเรื่องการเคลื่อนไหวร่างกายระหว่างวันที่น้อยลง และโรคจากออฟฟิศซินโดรมที่เกิดการจากการนั่งทำงานกับอุปกรณ์ต่างๆ ในท่านั่งที่ไม่ถูกสุขลักษณะ
          รศ.พญ.งามจิตต์ เกษตรสุวรรณ ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ หัวหน้าศูนย์เลเซอร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย กล่าวว่า คอมพิวเตอร์ วิชั่นชินโดรม หรือ CVS (Computer Vision Syndrome) คือ กลุ่มอาการทางตาที่เกิดจากการใช้สายตากับคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยมีปัญหาทางตา คอ บ่า ไหล่ โดยเฉพาะการทำงานแบบ Work from Home ทำให้เรามีการใช้คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟนมากจนเกินไป โดยอาการคอมพิวเตอร์วิชั่นชินโดรม มักเกิดกับผู้ที่ใช้อุปกรณ์ดังกล่าวต่อเนื่องนานเกินกว่า 2 ชั่วโมงติดต่อกัน
          วิธีการสังเกตอาการคอมพิวเตอร์วิชั่นชินโดรม - ตาแห้ง แสบและเคืองตา - ปวดเมื่อยตา เหนื่อยตาไม่ค่อยอยากลืมตา - ตาพร่ามัว มองเห็นไม่ชัด โฟกัสได้ช้าลงเวลากะพริบตาอาจมีน้ำตาไหลออกมา-ปวดบริเวณกระบอกตารวมไปถึงปวดศีรษะ หลังไหล่ หรือปวดต้นคอ เป็นอาการที่เรียกว่า Office Syndrome
          วิธีการช่วยลดอาการคอมพิวเตอร์วิชั่น ซินโดรม-จัดคอมพิวเตอร์และแป้นพิมพ์ให้อยู่ในระดับที่พอดี-ปรับระดับหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสมโดยให้จอคว่ำลงประมาณ 15 องศา-ระยะห่างของคอมพิวเตอร์จนถึงระยะสายตาประมาณ 80-100 เซนติเมตร-ขนาดตัวหนังสือที่ใช้ต้องมีความสบายตาไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป-สีของตัวหนังสือต้องมีความแตกต่างกัน ไม่จ้าเกินไป-ปรับความสว่างในห้องทำงาน และหน้าอุปกรณ์ที่ใช้งานให้เหมาะสม กะพริบตาบ่อย-พักสายตาตามหลัก 20 : 20 : 20 คือ ทุก 20 นาที พักสายตาจากหน้าจอ และมองออกไปไกลระยะ 20 ฟุต เป็นเวลา 20 วินาทีต่อครั้ง - วางแก้วน้ำที่ใส่น้ำ 1 แก้วไว้ข้างๆ เพื่อให้น้ำระเหยเพิ่มความชุ่มชื้นมากขึ้น
          รศ.พญ.งามจิตต์ กล่าวต่อไปว่าในยุคที่เด็กๆ ต้องเรียนออนไลน์ โดยใช้อุปกรณ์หลากหลายซึ่งมีทั้งคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ตสมาร์ทโฟน ส่งผลให้เกิดอุบัติการณ์ตาแห้งในเด็กสูงขึ้นถึง 50%
          เมื่อเด็กใช้อุปกรณ์เหล่านี้ในการเรียนต่อเนื่องกันกันเป็นเวลานาน รวมถึงการเล่นเกม ก็จะทำให้กล้ามเนื้อตาเกิดอาการเกร็งทำให้เด็กต้องบีบตา เค้นตา หรือกะพริบตาแน่นๆ ทำให้ตาแกว่งไปมาซึ่งเป็นความผิดปกติ ร่วมกับอาการตาแห้ง ดังนั้นผู้ปกครองจึงควรเอาใจใส่ให้เด็กๆ หยุดพักการใช้อุปกรณ์เหล่านี้บ้างรวมถึงดูแลในเรื่องระยะห่างระหว่างสายตากับอุปกรณ์ที่เด็กใช้งานด้วย
          นอกจากนี้ รศ.พญ.งามจิตต์ ยังได้ฝากถึงการดูแลป้องกันสุขภาพดวงตาของผู้สูงอายุที่เกิดจากต้อซึ่งมีอยู่ 4 ประเภท คือ ต้อลม ต้อเนื้อ เกิดจากความเสื่อมของเยื่อบุตา ที่ผ่านการโดนฝุ่น ลม แสงยูวี ดูแลรักษาด้วยการใส่แว่นหยอดน้ำตาเทียมหรือหยอดยาบางชนิดได้ ต้อชนิดนี้ไม่เกิดอันตราย
          ต้อกระจก เกิดจากแก้วตาขุ่นมัวจากการใช้งานมานาน ทำให้มองเห็นได้ไม่ชัด รักษาได้ด้วยการลอกออกแล้วใส่แก้วตาเทียมใหม่เพื่อทำให้กลับมามองเห็นได้ชัดเหมือนเดิม
          - ต้อหินพบได้ในผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปต้องมาทำการตรวจตัดกรองว่าเป็นต้อหินชนิดใดเพื่อหาวิธีการในการรักษาที่เหมาะสมต่อไป


pageview  1205070    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved