โควิดไทยตายอีก117 ป่วยเพิ่ม13,576ราย
          โควิดไทยติดเชื้อรายใหม่ 13,576 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 117 ราย "กทม." ยอดติดเชื้อสูงสุด 2,880 ราย ด้าน "รบ."ลั่น "ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง" จัดหน่วยฯเคลื่อนที่-เร่งฉีดวัคซีนกลุ่มเปราะบางคนไร้บ้าน
          เมื่อวันที่ 19 ก.ย.64 ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานสถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ รวม 13,576 ราย จำแนกเป็น ผู้ป่วยจากระบบเฝ้าระวังฯ 12,048 ราย ผู้ป่วยจากการค้นหาเชิงรุก 1,120 ราย ผู้ป่วยภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 395 ราย ผู้ป่วยจากต่างประเทศ 13 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 1,476,477 ราย มีเสียชีวิต 117 รายรวมยอดเสียชีวิต 15,363 ราย สำหรับตัวเลขผู้ติดเชื้อประจำวันพบว่า กทม.ยังนำเป็นอันดับ 1 จำนวน 2,880 คนสมุทรปราการเป็นอันดับ2
          ด้าน น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ตามนโยบายของรัฐบาลที่จะ "ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง" ของศูนย์ปฏิบัติการบริหารภาวะวิกฤติโควิด-19 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ว่า ตั้งแต่วันที่ 28 ก.ค.-30 ส.ค.64 รวมจำนวน 66,048 ราย แบ่งเป็นในพื้นที่ กทม. 8,670 ราย ส่วนภูมิภาค 57,378 ราย ประกอบด้วย 1.เด็กและเยาวชน 11,489 ราย 2.คนพิการ 14,842 ราย 3.ผู้สูงอายุ 9,697 ราย 4.ผู้ป่วยติดเตียงและป่วยเรื้อรัง 1,153 ราย 5.คนเร่ร่อนและคนไร้ที่พึ่ง 2,355 ราย 6.สตรีตั้งครรภ์ 126 ราย และ7.ผู้ประสบปัญหาทางสังคมอื่นๆ 26,386 ราย
          "ขณะนี้ พม. ได้รับการจัดสรรวัคซีนโควิด-19 "ชิโนฟาร์ม" จากสภากาชาดไทย จำนวน 100,000 โดส โดยจะร่วมกับสำนักอนามัย และกรุงเทพมหานคร จัดตั้งจุดให้บริการฉีดวัคซีนในชุมชน และจัดชุดบริการเคลื่อนที่สำหรับกลุ่มเปราะบาง โดยเป็นการดำเนินการเชิงรุก ตามความมุ่งหวังของรัฐบาล และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกฯ ในการดูแลกลุ่มเปราะบาง กลุ่มคนตกหล่น ให้เข้าถึงวัคซีนโควิด-19 ได้อย่างทั่วถึงและรวดเร็ว"
          สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่ารัฐบาลเวียดนามประกาศอนุมัติการใช้วัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ขนาน "อับดาลา" ซึ่งวิจัยพัฒนาในประเทศคิวบาสำหรับการฉีดให้แก่ประชาชนในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยังคงลุกลามอย่างรุนแรง ในขณะที่อัตราการฉีดวัคซีนแก่ประชาชนยังอยู่ระดับต่ำ
          รายงานข่าวแจ้งว่า การประกาศอนุมัติดังกล่าว มีขึ้นภายหลังจากประธานาธิบดีเหวียน ซวน ฟุก ผู้นำเวียดนามออกเดินทางจากกรุงฮานอย เมืองหลวงของเวียดนาม ไปยังกรุงฮาวานา เมืองหลวงของคิวบา เพียงไม่กี่ชั่วโมง
          โดยแถลงการณ์ของกระทรวงสาธารณสุขเวียดนาม ระบุว่า การอนุมัติใช้วัคซีนขนานอับดาลา เนื่องจากมีความจำเป็นอย่างเร่งด่วนในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งทางคิวบาจะจัดส่งวัคซีขนานอับดาลาเป็นจำนวนมากมาให้แก่เวียดนาม และยังจะถ่ายทอดเทคโนโลยีในการผลิตวัคซีนขนานนี้ให้แก่เวียดนามภายในสิ้นปีนี้อีกด้วย
          สำหรับ วัคซีนขนานอับดาลานี้ ถือเป็นวัคซีนขนานที่ 8 ที่ทางการเวียดนามอนุมัติฉีดให้แก่ประชาชน ต่อจากไฟเซอร์โมเดอร์นา แอสตราเซเนกา จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน สปุตนิกวี ซิโนแวค ซิโนฟาร์ม แต่อัตราการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชน ณ เวลานี้ ยังอยู่ระดับต่ำเพียงร้อยละ 6.3 เท่านั้น ของจำนวนประชากร98 ล้านคน
          ทางด้านกระทรวงศึกษาฯของสิงคโปร์ แถลงว่า โรงเรียนระดับประถมศึกษาจะต้องกลับมาเรียนทางออนไลน์อีกครั้งเป็นเวลาอย่างน้อย 10 วัน ก่อนที่จะถึงการสอบระดับชาติครั้งสำคัญ เนื่องจากผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ในรอบ 24 ชั่วโมงเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่เดือน เม.ย.ปีที่แล้ว
          โดยกระทรวงศึกษาธิการของสิงคโปร์ เปิดเผยว่า นักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 1-5 จะต้องกลับไปเรียนที่บ้านผ่านระบบออนไลน์อีกครั้ง ตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย. ไปจนถึงวันที่ 10 ต.ค. ส่วนนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 6 จะหยุดพักการศึกษาระยะสั้นๆ ไม่กี่วันหลังจากวันที่ 25 ก.ย. ก่อนถึงวันสอบวัดผลระดับชาติ "พีเอสแอลอี" เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในโรงเรียน และลดจำนวนนักเรียนที่จะต้องถูกกักตัวเพื่อสังเกตอาการลง
          พร้อมกันนี้ ทางกระทรวงศึกษาธิการของสิงคโปร์ ยังระบุด้วยว่า ทางกระ
          ทรวงฯ จะดำเนินมาตรการอื่นๆ เพิ่มเติมเพื่อป้องกันเด็กนักเรียนที่ยังไม่มีสิทธิเข้ารับการฉีดวัคซีน และเพื่อให้ทั้งผู้ปกครองและนักเรียน เกิดความสบายใจ จาก
          สถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 และการสอบพีเอสแอลอี
          รายงานข่าวแจ้งว่า การกลับมาแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นในสิงคโปร์ มีขึ้นภายหลังจากทางการได้ผ่อนคลายมาตรการเข้มงวดต่างๆ รวมถึงการดำเนินนโยบายอยู่ร่วมกับโควิดในช่วงที่ผ่านมาส่งผลให้ในรอบ 24 ชั่วโมงเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่จำนวน 1,009 ราย ซึ่งเป็นสถิติมากที่สุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย.ปีที่แล้ว ทำให้มีผู้ป่วยติดเชื้อสะสมจำนวน 76,792 รายมาเป็นอันดับ 116 ของโลก ส่วนผู้ป่วยที่เสียชีวิตมีจำนวน 60 ราย และผู้ป่วยที่รักษาหายมีจำนวนสะสม 70,124 ราย
          ขณะที่สถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดฯ ในพื้นที่ประเทศต่างๆ ทั่วโลก ปรากฏว่า ยังคงลุกลามอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ล่าสุด มีจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 228,952,022 ราย ส่วนผู้ป่วยที่เสียชีวิตมีจำนวน 4,700,279 ราย และผู้ป่วยที่รักษาหายมีจำนวนสะสม 205,551,116 ราย
          โดยประเทศสหรัฐอเมริกา สถานการณ์แพร่ระบาดรุนแรงที่สุด จากการที่มีผู้ป่วยติดเชื้อสะสมมากที่สุดในโลกจำนวน 42,866,805 ราย และมีผู้ป่วยที่เสียชีวิตมากที่สุดในโลกจำนวน 691,562 ราย ส่วนผู้ป่วยที่รักษาหายมีจำนวนสะสม 32,483,226 ราย