นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันประชาชนมีการใช้แอลกอฮอล์ในการฆ่าเชื้อโรคอย่างแพร่หลาย ซึ่งมี 2 ชนิด คือ เอทิลแอลกอฮอล์หรือ เอทานอล และไอโซโพรพิลแอลกอฮอล์มีประสิทธิภาพทำลายเชื้อโรคได้ดีเมื่อมีความเข้มข้น 60-90% ความเข้มข้นที่ต่ำกว่านี้ก็ฆ่าเชื้อได้น้อยลง ความเข้มข้นที่มากเกินจะมีปริมาตรน้ำไม่เพียงพอทำให้ดูดซึมผ่านเข้าเยื่อหุ้มเซลล์เข้าไปทำลายเชื้อได้ และยังทำให้แอลกอฮอล์เจลระเหยเร็ว ทำให้ผิวแห้งและระคายเคือง  ก่อนใช้ควรทดสอบการแพ้โดยทาใต้ท้องแขนทิ้งไว้ 24 ชม.และสังเกตความผิดปกติ หากมีผื่นแดง ปวดแสบ บวม หรือมีอาการแพ้ คัน แนะนำให้หยุดใช้
          สำหรับแอลกอฮอล์ อีกชนิดคือ เมทิลแอลกอฮอล์,เมทานอล หรือแอลกอฮอล์ขาวเป็นแอลกอฮอล์มีพิษ ซึ่งอาจมีความเข้าใจผิดว่าสามารถนำมาใช้ได้นั้น ส่วนใหญ่จะใช้ในอุตสาหกรรมทำเชื้อเพลิง ทินเนอร์ผสม สี ห้ามใช้กับร่างกาย สามารถดูดซึมได้ทางผิวหนังและลมหายใจ ทำให้หลอดลม ลำคอ เยื่อบุตาอักเสบ ปวดท้อง เวียนหัว คลื่นไส้ อาเจียน กล้ามเนื้อกระตุก หายใจลำบาก การมองเห็นผิดปกติและอาจทำให้ตาบอดได้
          ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ไม่อนุญาตให้ใช้เมทิลแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสมในการผลิตเครื่องสำอางโดยเด็ดขาด ดังนั้นประชาชนต้องไม่ใช้ผิดประเภทเพราะอาจเกิดอันตรายได้ ซึ่งต้องตรวจสอบก่อนใช้ให้ละเอียด