นพ.มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ไทยมีรายงานผู้ป่วยโรคงูสวัดประมาณ 0.26 รายต่อ 1 พันคนพบร้อยละ 53.6 อายุมากกว่า 45 ปี ติดต่อทางการหายใจเอาเชื้อไวรัส หรือสัมผัสสะเก็ดน้ำเหลืองที่แผล ติดต่อได้ง่ายเหมือนโรคสุกใส แต่ผู้ที่เป็นสุกใสแล้วจะมีภูมิต้านทานโรคงูสวัดเพราะเป็นเชื้อตัวเดียวกัน การได้รับเชื้อไวรัสเพิ่มเติมเป็นการกระตุ้นภูมิต้านทานเทียบได้กับได้รับวัคซีน ป้องกันได้โดยฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิต้านทานในผู้สูงอายุและกลุ่มเสี่ยงอื่นๆ ให้สูงขึ้นมีการวิจัยประสิทธิภาพวัคซีนโรคงูสวัดในผู้มีอายุ 60 ปี ขึ้นไปพบว่าลดป่วยร้อยละ 51.3 และลดปวดหลังผื่นงูสวัดหายแล้วร้อยละ 66.5 
          พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผอ.สถาบันโรคผิวหนังกล่าวว่าถ้าติดเชื้อครั้งแรกจะเป็นโรคสุกใส ส่วนมากเกิดในเด็ก หลังสุกใสหายแล้วไวรัสจะซ่อนอยู่ในปมประสาท  หากภูมิต้านทานไวรัสลดลง ไวรัสจะเพิ่มจำนวน เกิดผื่นเป็นตุ่มน้ำพองตามแนวเส้นประสาท ทั้งมีอาการแทรกซ้อนคือ ปวดเส้นประสาท มักรุนแรงและมีหลายลักษณะเช่น ปวดแสบร้อน เหมือนเข็มแทงเหมือนถูกมีดกรีด และยิ่งอายุมากโดยเฉพาะมากกว่า 60 ปียิ่งเสี่ยงปวดรุนแรง มีผลต่อคุณภาพชีวิต การรักษามียาต้านไวรัส  ยาแก้ปวดปลายเส้นประสาท เพื่อป้องกันและลดความทรมาน นอกเหนือจากการฉีดวัคซีนซึ่งเป็นการป้องกัน