นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์เปิดเผยว่า การออกกำลังกายมีประโยชน์ทั้งสุขภาพกายใจและป้องกันโรคหัวใจ ช่วยให้มีชีวิตยืนยาว แม้แต่ผู้ที่เป็นโรคหัวใจก็สามารถออกกำลังกายได้ แต่ควรเน้นความแรงของการออกกำลังกายในระดับปานกลาง เช่น เต้นแอโรบิก เดินเร็ว ขี่จักรยาน วิ่งเหยาะๆ เป็นต้น ซึ่งวิธีการออกกำลังกายที่เกิดประโยชน์ควรเริ่มด้วยการวอร์มร่างกายให้พร้อมประมาณ 5-10 นาที แล้วตามด้วยระยะการ ออกกำลังกายที่กระตุ้นให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น และควรหยุดพักเมื่อเริ่มเหนื่อยหรือแน่นหน้าอก
          ทั้งนี้ ควรเริ่มออกกำลังกายแบบค่อยเป็นค่อยไป จากนั้นหากร่างกายปรับสภาพกับความแรงที่เพียงพอแล้ว ค่อยเพิ่มเวลาจนสามารถทำได้อย่างต่อเนื่องนานอย่างน้อย 15 นาทีขึ้นไป และทำให้เป็นกิจวัตรประจำวัน เพราะจะช่วยให้กล้ามเนื้อหัวใจสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ มากขึ้น ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงหัวใจ เป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยหลอดเลือดหัวใจตีบเรื้อรัง และหัวใจล้มเหลวเรื้อรังอย่างดี อีกทั้งสามารถลดการเกิดโรคหัวใจชนิดต่างๆ เช่นโรคหัวใจจากความดันโลหิตสูง ภาวะหัวใจล้มเหลว และลดอัตราเจ็บหน้าอกของผู้ป่วยโรคหัวใจ
          นพ.เอนก กนกศิลป์ ผอ.สถาบันโรคทรวงอกกล่าวว่า ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกประเภทกีฬาที่เหมาะสม และปลอดภัยหาก พบความผิดปกติในขณะออกกำลังกาย ควรหยุดทันที และพบแพทย์เพื่อรักษาทันที