"คพ." เผยค่าฝุ่นละออง PM2.5 เกินมาตรฐาน 11 พื้นที่ ชี้ลมพัดน้อยลงคาด 25 ม.ค.ฝุ่นเพิ่มอีก "ปลัดอุตฯ"ยืนยันผลตรวจ 470 โรงงาน ไม่พบค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน "กรมเจ้าท่า" ขอความร่วมมือเรือใช้ดีเซล บี20 ลดฝุ่นละออง กทม. เปิดโครงการถนนอากาศสะอาด นำร่องคัดถนนมลพิษเขตละ 1 สาย มุ่งแก้ปัญหาฝุ่นพิษ ยันสถานการณ์ยังไม่ถึงขั้นประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมมลพิษ ขณะที่"แพทย์" แนะงดจุดธูป-เผากระดาษเงินกระดาษทองช่วงเทศกาลตรุษจีน
          เมื่อวันที่ 24 ม.ค.62 กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) รายงานสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 โดยระบุว่า อุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศในช่วงเช้าอากาศลอยตัวได้ดีขึ้น ลมพัดแรงขึ้นส่งผลทำให้สถานการณ์ PM2.5 พื้นที่กรุงเทพมหานคร(กทม.)และปริมณฑล มีปริมาณฝุ่นละออง PM 2.5 ลดลงจากเมื่อวานเล็กน้อย ปริมาณฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐาน (50 มคก./ลบ.ม.) 11 พื้นที่โดยพื้นที่ริมถนนเกินค่ามาตรฐาน 6 สถานีพื้นที่ทั่วไปเกินค่ามาตรฐาน 5 สถานี
          ทั้งนี้ คาดการณ์ว่า จากการพยากรณ์ และแบบจำลองของกรมอุตุนิยมวิทยา "การลอยตัวของอากาศจะดี ลมพัดน้อยลง" อาจทำให้ฝุ่นละอองเพิ่มขึ้นในวันที่ 25 ม.ค.นี้
          ด้าน นายพสุ โลหารชุน ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริหารการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 เดินหน้าดำเนินการตามมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 จากภาคอุตสาหกรรมโดยระดมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจและเฝ้าระวังโรงงานเสี่ยงที่จะก่อมลพิษทางอากาศในพื้นที่เสี่ยงทั่วประเทศซึ่งตรวจแล้วรวมจำนวน 470 โรงงานไม่พบโรงงานที่มีค่าฝุ่นละออง PM 2.5 เกินค่ามาตรฐานนอกจากนี้ จากการกำกับดูแล ตรวจสอบผ่านระบบตรวจวัดมลพิษทางอากาศจากปล่องระบายอย่างต่อเนื่องอัตโนมัติตลอด 24 ชั่วโมง ของกรมโรงงานอุตสาหกรรม ในกลุ่มโรงงานขนาดใหญ่ 59 โรงงาน 142 ปล่อง พบว่ามีปริมาณฝุ่นค่าเฉลี่ยที่ 0.8-50 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งไม่เกินค่ามาตรฐานฝุ่นจากปล่องระบายของโรงงานทั่วไปทางด้าน นายสมศักดิ์ ห่มม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า กรมเจ้าท่าได้ขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการเรือต่างๆ ในเรื่องการลดค่าฝุ่น PM 2.5 เพื่อดำเนินการตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม"one transport ปลอดฝุ่น PM 2.5 คมนาคมรวมใจช่วยลดฝุ่น เพื่อความสุข
          สุขภาพดีของประชาชน" โดยในส่วนเรือด่วนเจ้าพระยา จำนวน 51 ลำ ได้ตรวจสอบไปแล้ว 40 ลำ พบควันดำจำนวน 3 ลำ ซึ่งดำเนินการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว โดยให้ทำการเช็กปั๊มหัวฉีดเครื่องยนต์ทุกวันอีกทั้งเรือด่วนเจ้าพระยายังได้ดำเนินการใช้น้ำมันไบโอดีเซล B20 ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคมเป็นที่เรียบร้อย
          ด้านเรือคลองแสนแสบจำนวน 55 ลำ ดำเนินการตรวจสอบครบทั้งหมดแล้วพบควันดำจำนวน 6 ลำ ซึ่งดำเนินการแก้ไขแล้วจำนวน 6 ลำ เรือคลองภาษีเจริญ มีเรือให้บริการจำนวน 10 ลำ ดำเนินการตรวจสอบครบแล้ว พบเรือที่อาจเกิดความเสี่ยงจำนวน 2 ลำ ซึ่งให้ไปดำเนินการแก้ไขแล้ว
          อีกส่วนคือเรือท่องเที่ยว เช่น เรือทัวร์ เรือแท็กซี่ เรือหางยาว กรมเจ้าท่าขอความร่วมมือ ไม่เร่งเครื่องมากจนเกินไป ซึ่งทางผู้ประกอบการยืนยันให้ความร่วมมือ
          อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้เข้มงวดกวดขันในเรื่องการเดินเรือ เพื่อความปลอดภัยแก่ประชาชน และกำชับผู้ประกอบการให้หันมาใช้น้ำมันไบโอดีเซล B20 พร้อมทั้งให้ตรวจสอบการใช้เครื่องยนต์โดยสารและลดการเร่งเครื่องของเรือต่างๆ เพื่อเป็นการร่วมมือในการลดค่าฝุ่น PM 2.5
          ทางด้าน นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่ฯ กทม. เปิดโครงการถนนอากาศสะอาด ร่วมกับหน่วยงานภาคีจัดทำโครงการถนนอากาศสะอาด โดยคัดเลือกถนนพญาไท เขตปทุมวัน ระยะทาง 1.4 กิโลเมตร จากแยกสามย่าน-แยกปทุมวัน เป็นพื้นที่นำร่อง ด้วย 6 มาตรการ 12 กิจกรรมได้แก่ มาตรการเฝ้าระวังคุณภาพอากาศมาตรการควบคุมมลพิษที่แหล่งกำเนิดมาตรการทำความสะอาดถนน มาตรการเพิ่มพื้นที่สีเขียว มาตรการจัดการจราจรและมาตรการประชาสัมพันธ์ ปลูกจิตสำนึกขับเคลื่อนและนำแผนปฏิบัติการถนนอากาศสะอาด เขตปทุมวัน ไปสู่การปฏิบัติให้บรรลุผลสำเร็จ เป็นต้นแบบให้อีก 49 เขต โดยคัดเลือกถนนเขตละ 1 สาย ร่วมโครงการถนนสะอาด ซึ่งจะมีส่วนสนับสนุนการป้องกันและแก้ไขปัญหาวิกฤติการณ์ฝุ่นละออง ในพื้นที่ กทม. ได้ส่วนสถานการณ์ฝุ่นขนาดเล็กขณะนี้ถือว่ายังไม่ถึงขั้นที่จะต้องประกาศเป็นพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ
          ขณะที่ นายแพทย์มนูญ ลีเชวงวงศ์หัวหน้าหน่วยโรคปอดและทางเดินหายใจโรงพยาบาลวิชัยยุทธ เตือนประชาชนระวังอันตรายจากการจุดธูปและเผากระดาษเงินกระดาษทองในช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งควันจากการเผา ไม่ใช่แค่ฝุ่นละอองPM2.5 เท่านั้น แต่ยังมีสารอื่นๆ ทั้งซัลเฟอร์ไดออกไซด์ หรือกำมะถัน และไนโตรเจนไดออกไซด์ ซึ่งทำให้ระคายเคืองและยังมีกลุ่มโลหะหนัก สารก่อมะเร็งสารอินทรีย์ระเหย จึงขอความร่วมมือประชาชนงดจุดธูปและเผากระดาษเงินกระดาษทองในช่วงที่เกิดฝุ่นละออง PM2.5