worldtoday@watta.co.th

          ต้องยอมรับว่าภาพของโรงพยาบาลรัฐบาลในความรู้สึกของคนส่วนใหญ่แม้จะมีข้อดีเรื่องค่าใช้จ่ายถูกกว่าเมื่อเทียบกับโรงพยาบาลเอกชน แต่มักมีขั้นตอนการทำงานล่าช้ากว่า จึงเป็นเหตุผลให้ผู้มีกำลังเงินพอจะจ่ายหันไปใช้บริการของโรงพยาบาลเอกชนเพื่อความสะดวกรวดเร็ว แต่ต่อไปโรงพยาบาลรัฐบาลที่มีคุณสมบัติเหมือนโรงพยาบาลเอกชนสามารถหาได้แล้วในโรงพยาบาลศิริราช คือ "โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์" (SiPH) ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเร็วๆนี้ และพร้อมให้บริการ 30% ในช่วงปลายเดือนเมษายน 2555 ก่อนจะเปิดให้บริการเต็ม 100% ในอีก 5 ปีข้างหน้า

          "SiPH" เป็นหนึ่งในโครงการพัฒนาศิริราชสู่สถาบันการแพทย์ชั้นเลิศในเอเชียอาคเนย์ โดยใช้งบประมาณทั้งสิ้น 7,000 ล้านบาท แบ่งเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ 2,000 ล้านบาท เป็นโรงพยาบาลขนาดประมาณ 300 เตียง ภายในอาคารสูง 14 ชั้น มีห้องบริการผู้ป่วยนอก 177 ห้อง ห้องผ่าตัด 17 ห้อง ห้องพักผู้ป่วย 284 ห้อง ห้องผู้ป่วยวิกฤต 61 ห้อง และมีพื้นที่จอดรถมากกว่า 1,000 คัน ส่วนบุคลากรนั้นคาดว่าจะใช้พยาบาล 256 คน และแพทย์จะเป็นแพทย์ประจำในเฟสแรก 14 คน รวมทั้งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลศิริราช ในลักษณะทำงานนอกเวลา

          SiPH จะเน้นให้บริการทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐานสากล ให้ผู้ป่วยได้รับการบริการที่สะดวกรวดเร็ว เช่นเดียวกับบริการของโรงพยาบาลเอกชน ในมาตรฐานเดียวกับโรงพยาบาลศิริราช โดยราคาค่าบริการรักษาพยาบาลสมเหตุสมผล ซึ่งรายได้เหล่านี้จะย้อนกลับมาเป็นทุนวิจัยและพัฒนาศักยภาพองค์กรของโรงพยาบาล ศิริราช รวมถึงช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้ของโรงพยาบาลต่อไป

          นอกจากนี้ยังถือเป็น "เมดิคัลฮับแห่งแรกของไทย" โดยเป็นศูนย์รักษาโรคครบวงจร เช่น ศูนย์อายุรกรรม ศูนย์ศัลยกรรม ศูนย์โรคหัวใจ ศูนย์มะเร็ง ศูนย์รังสีรักษา ศูนย์รังสีวินิจฉัย ศูนย์โรคระบบทางเดินอาหารและตับ ศูนย์ไตเทียม การบริการผู้ป่วยที่เป็นโรคซับซ้อนรักษายาก โดยมีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาใช้ ทั้งอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ เช่น เครื่องตรวจวินิจฉัยโรคด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) เครื่องฉายรังสีรักษาผู้ป่วยมะเร็ง เป็นต้น และนำระบบสารสนเทศมาใช้ในการดำเนินงานอีกด้วย

          รศ.นพ.ประดิษฐ์ ปัญจวีณิน ผู้อำนวยการ SiPH เปิดเผยว่า การให้บริการของโรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ จะมีกลุ่มเป้าหมายชัดเจนจากโรงพยาบาลศิริราช ไม่ซ้ำซ้อนกัน โดยกลุ่มเป้าหมายของ SiPH เน้นคนไทยที่มีกำลังจ่ายค่ารักษาพยาบาลได้ รวมถึงผู้ป่วยชาวต่างชาติ