กรุงเทพฯ : นพ.จินดา โรจนเมธินทร์ รักษาการแทนผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง เปิดเผยว่า การฉีดโบท็อกซ์คือการฉีดสารเติมเต็มในส่วนที่ผู้ฉีดต้องการให้กลับมาเต่งตึง เช่น หน้าผาก หางตา ข้างปาก และคาง เป็นต้น เนื่องจากเป็นบริเวณที่มักพบรอยเหี่ยวย่นได้ง่าย ขณะนี้การฉีดโบท็อกซ์เพื่อความงามกำลังเป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่อง จากสถิติมีผู้เข้ารับบริการที่สถาบันโรคผิวหนังเพิ่มขึ้นจากเดิมเฉลี่ยเดือน ละ 10 คน เป็นเดือนละ 100 คน ที่สำคัญอายุเฉลี่ยของผู้ใช้บริการกลับต่ำลงเรื่อยๆอยู่ที่อายุ 19-20 ปี
          สำหรับวิธีการเลือกฉีดโบท็อกซ์ต้องพิจารณาจากหลายปัจจัยคือ 1.แพทย์ที่ฉีดต้องเป็นแพทย์ที่ มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางและแพทย์ที่เชื่อถือได้เท่านั้น 2.สถานที่ฉีดต้องสะอาด ปลอดภัย และมีเครื่องช่วยชีวิตเบื้องต้น ไม่ควรไปฉีดเองตามห้องเช่าหรือคอนโดมิเนียม เพราะหากเกิดกรณีฉุกเฉินจะไม่สามารถช่วยเหลือได้ทัน และมีความเสี่ยงถึงขั้นเสียชีวิตได้ และ 3.สารที่ใช้ฉีดต้องเป็นสารที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
          "การฉีดโบท็อกซ์เป็นเรื่องธรรมดาที่มักจะพบอาการแทรกซ้อน ดังนั้น กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ กลุ่มคนที่มีประวัติแพ้ง่าย กลุ่มคนที่มีปัญหาเลือดออกแล้วหยุดยาก และกลุ่มที่มีอาการเนื้อเยื่อหรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง ไม่ควรจะฉีดโบท็อกซ์เด็ดขาด เพราะจะแพ้ง่ายและอาจเกิดอันตราย มากกว่ากลุ่มอื่น"