HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
โลกวันนี้ [ วันที่ 22/03/2556 ]
พิชิตใจ'ลูกวัยโจ๋'

นพ.ไกรสิทธิ์ นฤขัตพิชัย
          mhmanarom@gmail.com
          "เดี๋ยวนี้เชื่อแต่เพื่อน พ่อแม่พูดอะไรไม่เคยฟังเลย"
          "บ้านช่องไม่มีนอนหรือไง ชอบไปค้างบ้านเพื่อน บ้านเพื่อนมีอะไรดีนักหนา"
          "ถ้าเชื่อเพื่อนนักก็ไปให้เพื่อนเลี้ยงเลยสิ"
          เหล่านี้เป็นคำพูดของพ่อแม่ที่มีลูกกำลังเข้าสู่วัยรุ่น ซึ่งสะท้อนความไม่เข้าใจในการเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรมของลูกน้อยที่กำลังพัฒนาเข้าสู่วัยรุ่น และทำให้พ่อแม่จำนวนไม่น้อยเกิดความวิตกกังวลว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับลูกที่เลี้ยงมาตั้งแต่ยังแบเบาะ
          ในการเลี้ยงดูลูกนั้น วิธีปฏิสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่กับลูกจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปตามธรรมชาติของเด็กแต่ละวัย เพราะเด็กแต่ละช่วงวัยมีลักษณะเฉพาะแตกต่างกัน ช่องทางการสื่อสารพูดคุยระหว่างพ่อแม่กับลูกเปรียบเสมือนมีหน้าต่างบานหนึ่งอยู่ระหว่างพ่อแม่กับลูก ซึ่งหน้าต่างบานนี้จะค่อยๆปิดลงทีละน้อยทุกวัน ตอนลูกยังเล็กหน้าต่างการสื่อสารนี้จะเปิดกว้างมาก ลูกจะเปิดรับความคิดเห็นของพ่อแม่อย่างเต็มที่ รู้สึกมีค่าเมื่อได้รับคำชมจากพ่อแม่
          ในช่วงวัยอนุบาล วัยประถมฯ เวลาลูกมีความคิดเห็นอะไร เขาก็อยากให้พ่อแม่รับรู้สนใจเขาทุกเรื่อง แต่พ่อแม่จำนวนไม่น้อยกลับไม่ใช้โอกาสนี้สร้าง สัมพันธ์ที่ดีเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับเด็ก ส่วนใหญ่พ่อแม่มักจะมุ่งทำงาน สร้าง ฐานะให้ได้ก่อน มีเวลาให้กับลูกน้อย รู้เรื่องของลูกไม่มากนัก พอเข้าสู่วัยรุ่นหน้า ต่างความสัมพันธ์นี้ก็ปิดลงแทบจะสนิทหมดแล้ว เวลาที่เขาจะรับฟังสิ่งที่พ่อแม่อยากพูด อยากสอน ก็หมดลงไปด้วย เขาได้ไปเปิดหน้าต่างใหม่อีกบานระหว่างตัวเขากับเพื่อน
          หลักสำคัญที่พ่อแม่ต้องทำความเข้าใจและตระหนักคือ ต้องทำให้ลูกรู้สึกไว้ใจและมั่นใจว่าพ่อแม่รักเขาตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่ตอนที่หน้าต่างยังเปิดกว้างอยู่ ถ้าตอนเล็กพ่อแม่สามารถสร้างความไว้ใจกับลูกแล้ว พอเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น งานของพ่อแม่ก็จะไม่หนักมาก เวลาลูกถูกเพื่อนชักจูงไปในทางไม่ดีก็มีความกล้าที่จะปฏิเสธเพื่อนได้ เพราะเด็กมีความผูกพันและแคร์ความรู้สึกพ่อแม่ จึงไม่อยากทำให้พ่อแม่เสียใจหรือผิดหวัง
          การทำความเข้าใจธรรมชาติในแต่ละช่วงวัยของลูกจะทำให้พ่อแม่กำหนดวิธีการปฏิบัติกับลูกได้อย่างถูกต้องเหมาะสม เพราะพ่อแม่ไม่สามารถใช้วิธีการเดียวกันดูแลเด็กต่างช่วงวัยได้ ตัวอย่างเช่น ไม่สามารถนำวิธีปฏิบัติกับเด็กตอนอายุ 4 ขวบ มาใช้กับเด็กอายุ 16 ปีได้ ซึ่งเมื่อเด็กเป็นวัยรุ่นแล้ว เขาต้องการเป็นตัวของตัวเอง ถ้าเด็กโตถูกปฏิบัติเหมือนเด็กเล็กเขาจะไม่พอใจ รู้สึกว่า "พ่อแม่ไม่ให้เกียรติฉัน ไม่ไว้ใจฉัน" ตรงรอยต่อช่วงที่ลูกกำลังจะเป็นผู้ใหญ่ตรงนี้จะเป็นช่วงที่ดูแลยากและไม่มีสูตรสำเร็จ เด็กแต่ละคนมีนิสัย มีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกัน ไม่ได้เริ่มต้นที่จุดเดียวกัน วิธีการรับมือก็จำเป็นต้องแตกต่างกันออกไป
          วิธีการเบื้องต้นสำหรับพ่อแม่ในการเลี้ยงดูลูกก่อนที่หน้าต่างความสัมพันธ์จะปิดลง มีหลักกว้างๆดังนี้คือ
          1.เสริมสร้างให้เด็กมีความมั่นใจในคุณค่าของตนเองในระดับจิตใต้สำนึก เพราะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้คนมีความสุขและประสบความสำเร็จในชีวิต สามารถเผชิญและรับมือกับปัญหาที่เข้ามาในชีวิตได้ สามารถมองตนเอง มองผู้อื่น และมองโลกในแง่ดีได้ พ่อแม่ต้องเตรียมความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่กับลูกให้แข็งแรงก่อนที่เขาจะเข้าสู่วัยรุ่น วัยที่ลูกสนใจจะฟังเพื่อนมากกว่าพ่อแม่แล้ว
          2.พ่อแม่ต้องทำให้เด็กรู้สึกว่ามีฉันอยู่ในบ้านนี้ ในบ้านนี้ฉันมีค่า วิธีการคือ มีเวลา แสดงความรัก ความห่วงใย ชื่นชมกัน ทำได้ทั้งทางคำพูดหรือภาษากาย น้ำเสียง สายตา ท่าทาง หลีกเลี่ยงการตำหนิที่รุนแรงหรือพร่ำเพรื่อเกินกว่าเหตุ ไม่ใช่เจอหน้ากันทีไรก็มีแต่เรื่องติด่าว่า จะทำให้เด็กรู้สึกแย่ ไม่อยากเข้าใกล้พ่อแม่ ไม่รู้ว่าวันนี้จะถูกด่าเรื่องอะไรอีก รู้สึกไม่มีคุณค่า ต่อไปโตขึ้นการจะทำเรื่องอะไรไม่ดีก็จะเกิดขึ้นได้ง่าย เพราะรู้สึกว่าไม่มีอะไรจะสูญเสีย ไม่มีอะไรดีอยู่แล้ว
          3.เสริมสร้างความภาคภูมิใจในเด็ก พ่อแม่ควรส่งเสริมให้เด็กได้มีโอกาสสัมผัสกับกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นดนตรี กีฬา ศิลปะ เลี้ยงสัตว์ ปลูกต้นไม้ งานช่าง ฯลฯ ให้มากที่สุด เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กได้เรียนรู้ว่าตนเองชอบอะไร ถนัดอะไร ทำอะไรได้ดี พ่อแม่จะได้ส่งเสริมสนับสนุนได้ถูกทาง เด็กจะรู้สึกภาคภูมิใจตนเองว่ามีความสามารถทำอะไรได้สำเร็จ ได้รับความชื่นชมจากพ่อแม่ เด็กจะมีความสุขและมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตได้
          ถ้าพ่อแม่เริ่มสื่อสารใกล้ชิด มีกิจกรรมร่วมกันเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ตั้งแต่ลูกยังเล็กๆ จะช่วยให้ลูกมีภูมิคุ้มกันที่ดี สามารถรับมือกับปัญหา และสามารถผ่านความเสี่ยง ในชีวิตต่างๆในช่วงวัยรุ่นไปได้อย่างราบรื่น โดยพ่อแม่ไม่ต้องเหนื่อยใจหรือทุกข์ใจมากนัก


pageview  1205886    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved