HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
โลกวันนี้ [ วันที่ 08/03/2556 ]
'บันได 3 ขั้น'เลี้ยงลูกยุคไอที

พญ.เพียงทิพย์ หังสพฤกษ์
          mhmanarom@gmail.com
          การเลี้ยงลูกในสังคมเทค โนโลยีนั้น สิ่งสำคัญต้องอา ศัยบันได 3 ขั้นคือ เวลา ความเข้าใจ และความรู้ เพราะเด็กยุคนี้แตกต่างและไม่เหมือนกัน อีกทั้งยังมีเรื่องเทคโนโลยีและกระ แสวัฒนธรรมต่างชาติเข้ามา ซึ่งอาจทำให้โจทย์ในการเลี้ยงดูลูกยากขึ้นไปอีก
          บันไดขั้นที่ 1
          ต้องมีเวลาที่มีคุณภาพให้กับลูก
          พูดคุยกันระหว่างแม่กับลูกหรือพ่อกับลูก มีเวลาไปเดินเล่น ดูหนัง ทำกิจ กรรมร่วมกัน เพื่อให้เกิดสัม พันธภาพที่ดี แต่แม่หรือพ่อบางคนมักอาศัยช่วงเวลาตอนเช้าและเย็นขับรถไปรับส่งลูกที่โรงเรียน เอาเวลา ที่อยู่บนรถเป็นเวลาพูดคุยกับลูก เพราะหาโอกาสและ เวลาที่จะคุยกันได้ยาก
          บางครั้งการคุยกันบน รถอาจไม่ใช่ทางออกเสมอไป เนื่องจากเวลาพูดคุยกันนั้นลูกอาจไม่ได้สนใจ อาจจะเออออไปด้วย แต่มือเล่น เกม ให้ความสนใจกับเกมในมือถือ เล่นเฟซบุ๊ค ทำให้แม่กับลูกไม่ได้เห็นหน้าค่าตากัน ไม่ได้มองเห็นการแสดงออกของอีกฝ่าย ปฏิ กิริยา หรือการใช้ภาษากาย การใช้เวลาพูดคุยกับลูกต้องเป็นการใช้เวลาที่มีคุณ ภาพแม้จะน้อยนิดแค่ไหนก็ตาม ก็ตาม
          ธรรมชาติของเด็กตั้งแต่วัยประถมฯขึ้นไปถือว่าเป็นวัยที่เริ่มมีความเกรงใจ หากพ่อแม่บอกว่าไม่ค่อยมีเวลา แต่ถ้าลูกมีปัญหาอะ ไรก็ให้มาปรึกษา เช่น มีปัญหาเรื่องการเรียน เพื่อนรังแก ทะเลาะกับครู หรืออกหัก ตามธรรมชาติแล้วเด็กจะไม่ปรึกษาพ่อแม่ เขาจะคิดว่าไม่อยากเอาภาระไปให้ หากพ่อแม่บอกว่าไม่ มีเวลา เด็กก็เลยแก้ไขปัญ หาด้วยตัวเอง ซึ่งอาจทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ถ้าพ่อแม่ไม่เอะใจหรือระแวงว่าลูกจะเกิดความเกรงใจและอาจเก็บปัญ หาเอาไว้ เมื่อเกิดความผิดพลาด ไปแล้วจะมาเสียใจและเสียดายที่ไม่มีเวลาให้ลูก ซึ่งไม่ใช่ข้ออ้างที่ดีสำหรับพ่อแม่ เหมือนโยนความรับผิดชอบให้ลูก
          บันไดขั้นที่ 2
          ต้องเข้าใจลูกว่าชอบอะไร ไม่ชอบอะไร
          พ่อแม่ควรรู้ว่าลูกต้องการ สิ่งไหน และนิสัยใจคอของลูกเป็นอย่างไร เพราะเรื่องความเข้าใจเป็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญในการเลี้ยงลูกยุคนี้ หากพ่อแม่ไม่เข้าใจว่าลูกชอบหรือต้องการสิ่งไหนก็จะไม่รู้และพยายามเลือกสิ่งต่างๆให้กับลูกด้วยเหตุผลของตัวเอง
          เหตุผลที่รู้มาว่าสิ่งนั้นดี สิ่งนั้นเหมาะกับลูก อาจมองข้ามความชอบที่แท้จริงของลูก ความต้องการ และความเหมาะ สมกับบุคลิก อารมณ์ นิสัยของลูก ถือเป็นเรื่องน่าเสียดาย และ อาจจะทะเลาะกันรุนแรงได้ ทำให้พ่อแม่กับลูกมีปัญหาด้านสัมพันธภาพ ต่อไปอาจทำให้ลูกต่อต้านหรืออาจทำอะไรที่ไม่คาดคิด เช่น หนีออกจากบ้าน หรือแอบไปทำอะไรที่ไม่ดีไม่เหมาะสม เพราะเด็กเริ่มมีความ คิดเป็นของตัวเองว่าเขามีสิทธิและต้องการจะเลือก
          แม้พ่อแม่หลายคนในปัจ จุบันจะพยายามเป็นพ่อแม่ที่ดีโดยการทำอะไรก็ตามที่เห็นลูกออกมาดี แต่ทางอ้อมอาจไม่ได้ตั้งใจ จึงคาดหวังกดดันลูกโดยไม่รู้ตัว คิดว่าเป็นความปรารถนา ดี อยากให้ลองเช็กดูว่าตัวเราเป็นกลางหรือเปล่า เห็นอกเห็นใจเข้าใจลูกแค่ไหน เพราะการที่ลูกได้รับสิ่งดีๆเยอะแยะมากมายที่พ่อแม่พยายามทำและเลือกให้นั้น แท้จริงแล้วเขาอาจเข้าใจในความหวังดีและเหตุ ผลที่พ่อแม่มีต่อลูก แต่พ่อแม่อาจไม่เข้าใจลูกเลยว่าเขาต้อง การสิ่งเหล่านั้นจริงๆหรือไม่ เขาอาจต้องการอะไรที่แตกต่างออกไป ความต้องการที่แท้จริงของเขาอาจแตกต่างจากสิ่งที่พ่อแม่เลือกให้
          บันไดขั้นที่ 3
          ต้องมีความรู้ในการเลี้ยงลูก เด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน พ่อแม่บางคนใช้ความรู้และวิธีที่ตนเองเคยประสบความสำเร็จมา บางทีก็ได้ผลและไม่ได้ผล พ่อแม่ควรมีสติ คอยสังเกต อย่าไปยึดติดกับลูกและยึดติดกับสิ่งที่เคยได้ผล หากไม่ได้ผลควรเปลี่ยนวิธี เลิกใช้ และ หาแนวทางวิธีใหม่ๆแทน ซึ่งสามารถหาความรู้ได้มากมายทั้งจากอินเทอร์เน็ต หนังสือ การอบรม สัมมนาต่างๆ หรืออาจแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างเพื่อนร่วมงานก็ได้ เพราะบางทีเพื่อนร่วมงานอาจมีลูกวัยใกล้เคียงกันหรือโตกว่าเล่าถึงประ สบการณ์การเลี้ยงลูกให้กันได้ เช่น แม่บางคนอาจใช้วิธีทำโทษลูกแบบนี้แล้วไม่ได้ผล แต่สำหรับพ่อแม่บางคนใช้อีกวิธีลูกกลับเข็ดหลาบและไม่กล้าทำอีก อาจลองนำวิธีที่ได้ผลของพ่อแม่อีกคนไปใช้ดู
          ที่สำคัญพ่อแม่ควรเปิดใจให้กว้าง ยอมรับฟังวิธีการใหม่ๆจากเพื่อนๆ ถือเป็นการแลกเปลี่ยนที่ได้ผลและมีประ โยชน์ในการเลี้ยงลูก


pageview  1205172    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved